วลาด (Valad, Vladimir) : นักธุรกิจสายเลือดรัสเซียเข้มข้น มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งรูปลักษณ์สุดแสนสมบูรณ์แบบและความเย็นชาเด็ดขาดสมกับเป็นผู้บริหารธุรกิจค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่ของประเทศ สร้างความบาดหมางให้คู่แข่งจนถูกหมายปองชีวิตอยู่หลายครั้ง ใช้ชีวิตสุดขีดไม่เคยหยุดอยู่กับผู้หญิงคนใด จนเมื่อมีคนที่หมายปองอยากมีอนาคตร่วมกันกลับมีมารผจญที่สลัดเท่าไหร่ก็ไม่ออกไปจากชีวิตเกิดขึ้นมา…ผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่งและเด็กบริสุทธิ์เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง
เนตรชนก (เนตร, Nat) : เธอไม่เคยโทษเขาหรือใครในวิบากกรรมทุกข์ตรมที่ต้องเผชิญ ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะความใจง่ายและการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตนเอง ถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็เพราะตัวเองที่เปิดโอกาสให้เขาได้กระทำ ชีวิตที่เหลืออยู่ไม่เคยต้องการสิ่งใดนอกจากให้ลูกน้อยได้กินอิ่มไร้โรคภัยและมีที่หลับนอนเท่านั้น…แต่ผู้เป็นพ่อกลับพยายามทำทุกทางเพื่อกำจัดเธอและลูกออกไปจากชีวิตอย่างเลือดเย็น
ตัวอย่างจากบางตอน
“คุณจะรีบไปไหนคะ ยังเช้าอยู่เลย”
เนตรชนกมองดูด้วยความไม่เข้าใจ ลุกขึ้นหยิบชุดนอนที่ถูกโยนทิ้งไว้บนพื้นกลับมาสวมใส่เช่นกัน สองขาสั่นเทาส่วนกลางลำตัวช่วงล่างแสบร้อนจุกเสียดจากบทรักหนักหน่วงหลายครั้งติดต่อกัน
“ฉันจะกลับเลย”
เขาตอบคำถามขณะยังวุ่นวายอยู่กับเสื้อและกางเกงของตัวเองให้เข้าที่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความกลับไปหาเบอร์ที่โทรเข้ามาและนำมันใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลังอย่างรวดเร็ว
มุ่งหน้าไปยังประตูห้องนอนเพื่อกลับออกไปไม่สนใจเนตรชนกที่เดินตามเข้าสวมกอดเอวหนาส่งคำอ้อนวอน
“อย่าไปเลยนะคะ อยู่ด้วยกันเถอะ เดือนหน้าเข้าฤดูฝนแล้วคุณน่าจะไม่ต้องออกทะเลไม่ใช่เหรอ” มันคือสิ่งที่เธอเข้าใจไปเองจากอาชีพที่เขาบอกไว้ทำให้เชื่อไปเช่นนั้น
“อย่ามารุ่มร่าม น่ารำคาญ”
วลาดพยายามดึงรั้งสองแขนที่กอดรัดรอบเอวของตัวเอง ในใจร้อนรุ่มไปถึงผู้หญิงอีกคนที่โทรเข้ามาไม่ได้รับสายถึงสองครั้งสองครา
ลืมไปเสียสนิทว่าต้องไปรับลอเรนที่สนามบินในเวลา 10 โมงเช้าของวันนี้ กว่าจะขับรถไปยังอีกเมืองหนึ่งคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
นึกโมโหตัวเองที่เผลอไผลให้กับความลุ่มหลงผู้หญิงที่ดูไม่มีอะไรน่าสนใจเทียบเท่าผู้นี้ ใช้เวลาอยู่ด้วยถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนแทนที่จะเดินทางไปรอคนรักของตัวเองตั้งแต่ในวันวาน
“คุณบอกนี่คะว่าให้ฉันเอาอะไรมาแลก ฉันให้คุณทุกอย่างแล้วไง ตามใจคุณทุกอย่าง อยู่ด้วยกันเถอะ”
เนตรชนกเริ่มสะอื้นในจังหวะเดียวกันกับที่ลูกชายส่งเสียงร้องงอแงตื่นขึ้นมาขอกินนมตามเวลาของตัวเอง ปล่อยร่างหนาให้เป็นอิสระรีบเดินไปคว้าตัวลูกดึงสายเสื้อชุดนอนออกจากหัวไหล่ ส่งเต้าเปลือยให้ได้ดื่มกินดับความหิวโหย
“ไม่ต้องร้องนะวาล ไม่ต้องร้องแม่อยู่นี่แล้ว กินนมนะลูก”
สองขายังคงเดินตามพ่อของลูกที่เดินออกไปนอกห้องนอนไม่หันกลับมา หวังได้คำตอบหากตนเองต้องทำสิ่งใดเพิ่มเติมจึงจะเปลี่ยนใจให้อยู่กันยืดยาวดังหวัง
“อยู่ด้วยกันก่อนเถอะ คุณยังไม่รู้จักลูกเลยนะ ฉันตั้งชื่อว่าวาล ชื่อคล้ายคุณไง ลูกอายุ 4 เดือนกว่าแล้วนะ เป็นเด็กดีเลี้ยงง่ายจะลองอุ้มไหมคะ ตัวไม่หนักหรอก”
สิ่งที่พร่ำพรรณนาออกไปไม่เพียงแต่ไม่สามารถฉุดรั้งคนที่หัวใจไปอยู่ที่อื่นได้ ยังสร้างความรำคาญ ตะคอกกลับมาเสียงดังจนเด็กน้อยที่กำลังเพลิดเพลินกับการดื่มนมร่างกระตุกสะดุ้งตกใจ
“ฉันพยายามจะมองข้ามมันไปแล้วนะ เธอยังจะเอามาย้ำ อยากคลอดเองก็เลี้ยงเองสิวะ”
ความไร้หัวใจที่พ่นออกไปเรียกน้ำตาของเธอได้ทะลักทลายใจสลายได้อย่างเช่นทุกครั้ง สงสารลูกน้อยจับหัวใจที่แม้คลอดออกมาแล้วความน่ารักไร้เดียงสาก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจผู้ให้กำเนิดอีกคนได้
“ลูกไม่ผิดนะ วลาด ลูกไม่ผิดเลย อย่าเกลียดแกนักเลย สงสารแกบ้างเถอะ”
“เออ เพราะแม่มันไงที่ตั้งใจให้เกิด ฉันโทษแม่มันนั่นแหละ”
--
:: สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนแบบ ดัดแปลงทำซ้ำ หรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้โนการเผยแพร่หรืออ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
:: นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเพื่อความบันเทิงเท่านั้นชื่อของบุคคลและสถานที่มิได้มีอยู่จริง