ภาคภูมิ รุ่งไพศาลกุล ทายาทคนเดียวของธุกิจนำเข้ารถยนต์ยี่ห้อดัง พ่วงกับธุกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ และแม้ว่าเบื้องหน้าผู้คนจะเห็นว่าเป็นการทำธุกิจทั่วไป แต่ทว่าเบื้องหลังนั้นกลับเป็นเจ้าพ่อมาเฟียที่มีธุกิจสีเทาอยู่เบื้องหลัง ไม่ต่างจากเพื่อนรักอย่าง สงคราม ที่กำลังจะแต่งงานอีกไม่กี่วันนี้เช่นกัน
ถ้าจะว่าสงครามนั้นหล่อเหลาแล้ว ภาคภูมิ ก็ไม่ต่างจากสงครามเลยแม้แต่น้อยเรียกได้ว่ากินกันไม่ลง เพราะถ้าเดินตีคู่กันไปก็ยากที่จะบอกได้ว่าใครที่ดูดีหรือว่าหล่อเหลากว่ากัน เพราะต่างคนก็ต่างมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ด้วยความสูง 191 เซนติเมตร ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมดุจเหยี่ยว แต่เมื่อต้องการล่าเหยื่อสายตาก็จะเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ทันที นั่นจึงทำให้เมื่อมองไปที่ผู้หญิงคนไหนก็เป็นต้องอ่อนละทวยไปตามๆ กัน
เป็นหนึ่ง ปภากร กุลเลิศประเสริฐ ลูกชายคนเล็กเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แม้จะไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่ก็เป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจเช่นกันและก็ยังโดดเด่นเรื่องหน้าตาอีกต่างหาก เพราะเป็นหนึ่งนั้นจัดอยู่ในผู้ชายที่หน้าตาออกสวยมากกว่าหล่อ จึงทำให้เป็นที่จับตามองเวลาที่ออกงานสังคม ด้วยความสูง 175 เซนติเมตร ใบหน้ารูปไข่ จมูกเล็กเชิดได้รูปออกจะดูรั้นๆ นิดหน่อย ดางตากลมสวยเวลายิ้มจะส่งไปถึงดวงตาทำให้มีเสน่ห์ขึ้นไปอีก ปากอิ่มสีระเรื่อน่าสัมผัส ผิวนวลเนียนสวยจนหาที่ติไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่เวลาออกงานแล้วมีแต่คนอยากทำความรู้จัก เพื่อหวังจะสานสัมพันธ์ต่อกับเป็นหนึ่งนั่นเอง
****************************
Cutscene
"พี่ภาคครับวันนี้เรามีนัดทานข้าวเที่ยงกันพี่ภาคอย่าลืมนะครับ"
เป็นหนึ่งเอ่ยบอกไปเมื่อภาคภูมิรับสายที่เขาโทรออกหาเป็นครั้งที่สองอีกคนถึงรับมัน เพราะก่อนหน้านี้เขาส่งข้อความไปแล้วตั้งแต่เช้าทว่าถึงตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว อีกคนกลับยังไม่ได้เปิดอ่านข้อความของเขาเลย
"พี่ว่าเราไปวันหลังดีกว่าวันนี้พี่ไม่ว่าง เดี๋ยวค่อยนัดกันวันหลังนะหนึ่งมีติดธุระจริงๆ"
"แต่นัดนี้เรานัดกันตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วนะครับ"
"แต่วันนี้พี่ไม่ว่างไงเอาไว้พี่ชดเชยให้นะครับ"
"อย่างนั้นก็ได้ครับ"
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรต่ออีกภาคภูมิก็กดวางสายไปแล้ว เหมือนกับว่ารับเพื่อให้หายรำคาญเท่านั้นนัดนี้ก็คงไม่มีความหมาย ทั้งที่นัดกันไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแท้ๆ ถึงอย่างนั้นเป็นหนึ่งก็พยายามเข้าใจอีกคนอยู่ดีว่างานคงยุ่งมาก หากแต่สิ่งที่เป็นหนึ่งพยายามเข้าใจมาตลอดว่าอีกคนไม่ว่างนั้นก็กระจ่างในวันนี้ ภาคภูมิปฏิเสธนัดทานข้าวกับเขาแต่ว่ามากับผู้หญิงอีกคน และที่มากกว่านั้นคือเป็นหนึ่งพึ่งจะรู้วันนี้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาเป็นอะไรกับภาคภูมิ
"ภาคคะนี่ใครเหรอคะคุณรู้จักเหรอไม่เห็นแนะนำให้วดีรู้จักบ้างเลย"
สาวสวยหน้าตาดีเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าภาคภูมิมองหน้าเป็นหนึ่งอยู่อย่างตกใจนิดหน่อย หลังจากที่มาเจอกันยังร้านอาหารที่นัดกันตั้งแต่อาทิต์ที่แล้ว แต่เป็นหนึ่งไม่คิดว่าอีกคนจะมากับคนอื่นที่ไม่ใช่เขา แล้วที่บอกกับเขาก่อนหน้านี้ว่าติดธุระสำคัญ นี่คงเป็นธุระสำคัญของเขาซินะเป็นหนึ่งคิด
"หรือว่าเป็นเพื่อนของภาคเหรอคะ"
"....."
เป็นหนึ่งมองหญิงสาวที่เดินควงแขนมากับภาคภูมิด้วยความสงสัย เพราะต้องสนิทกันขนาดไหนถึงเดินมาควงแขนของภาคภูมิได้ ไม่รู้ว่าจะต้องตกใจกับอะไรก่อนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เขาสับสนไปหมดแล้วแต่นั่นยังไม่เท่ากับสิ่งที่ภาคภูมิเอ่ยออกมา
"ไม่รู้จัก อย่าสนใจเลยเราไปกันดีกว่าพวกคุณพ่อคงรอเราแล้ว"
"....."
"งั้นเราก็รีบไปกันเถอะค่ะเพราะต้องคุยเรื่องที่จะจัดงานหมั้นของเราอีก"
ดั่งสายฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะเมื่อภาคภูมิบอกว่าไม่รู้จักเขา และที่ทำให้เป็นหนึ่งนั้นชาไปทั้งตัวก็คือสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยออกมา ภาคภูมิกำลังจะหมั้นกับผู้หญิงคนนั้น แล้วความสัมพันธ์ของเขาสองคนที่ผ่านมามันคืออะไร ดวงตากลมสวยตอนนี้เหมือนมีอะไรมาบดบังการมองเห็น ภาพแผ่นหลังแกร่งที่กำลังเดินควงคู่ไปกับผู้หญิงคนนั้นกำลังผล่ามัว เพราะในดวงตาคู่สวยกำลังมีน้ำใสๆ เอ่อล้นอยู่เต็มไปหมดจนมันไหลลงมาทางหางตา
"ถึงจะเป็นคู่หมั้นแต่พี่ก็ให้เธอ เป็นที่หนึ่ง อยู่แล้วหนึ่งเธอเป็นที่หนึ่งเสมอ"
"ไม่มีใครอยากเป็นที่หนึ่งในความสัมพันธ์แบบคนรักหรอกครับ เพราะถ้ามีที่หนึ่งมันหมายถึงว่าต้องมีที่สองที่สาม ทุกคนก็อยากเป็นคนเดียวของคนที่เรารักทั้งนั้น รวมถึงผมก็เช่นกันเพราะถึงจะชื่อเป็นหนึ่งแต่ผมก็อยากเป็นคนเดียว ผมคิดว่าคู่หมั้นของคุณก็คงคิดเหมือนกันกับผมนะครับ"
"หนึ่ง...."