ก๊อกๆ ๆ ๆ
“ขออนุญาตค่ะ”
“เชิญครับ”
เมื่อประตูปิดลง
หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงยาวคลุมเข่า เข้าชุดกับเสื้อแขนยาวสีหวานพอดีตัวที่รวบไว้ในกระโปรงโชว์ให้เห็นรูปร่างค่อนข้างชัดเจน รองเท้าคัทชูส้นสูง ทำให้เธอดูสง่า ใบหน้าถูกแต่งแต้มราวมืออาชีพ ดูออร่า สว่าง สดใส ให้น่ามองยิ่งขึ้น หญิงสาวกล่าวทักทายพร้อมพนมมือไหว้คนที่จะสัมภาษณ์เธอวันนี้
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาสัมภาษณ์งานตำแหน่งเลขา ทางฝ่ายบุคคลแจ้งว่าถ้ามาถึงห้องนี้ให้เข้ามาได้เลยค่ะ”
“เชิญนั่งก่อนครับ” ชายหนุ่มขยับตัวให้ห่างโต๊ะพอประมาณ ประสานมือใหญ่ให้ดูน่าเกรงขามจนเธอ แอบหวั่นใจ เพราะชุดที่ใส่มาวันนี้มันไม่ได้เป็นทางการอะไรเลย เพราะเมื่อได้รับการติดต่อไปหญิงสาวรับปากอย่างไว้จึงไม่ได้ไปเตรียมการชุดไว้เพื่อที่จะใส่มาในวันนี้
ผ่านไปหลายนีที ชายหนุ่ม ก็ยังคงนั่งจ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าไม่วางตา จนทำให้เธอต้องกล่าวขัดความเงียบสงัดแบบนี้ขึ้น
“เริ่มสัมภาษณ์เลยไหมคะ คือคุณ จ้องหน้าดิฉันอยู่นานแล้ว เกรงว่าจะทำให้คุณเสียเวลาทำงานไปเปล่าๆ น่ะค่ะ”
หญิงสาวเริ่มหวั่นใจ ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่มองคือเขาตำหนิอะไรเธอในใจหรือเปล่า
“ไปอยู่ไหนมาตั้งหลายปี ที่ตามหาจนท้อใจ ทำไมไม่กลับบ้านที่ต่างจังหวัดบ้าง”
หญิงสาว จ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างครุ่นคิด ด้วยความสงสัย
“เอ่อ ไม่ทราบเราเคยรู้จักกันด้วยหรอคะ”
หญิงสาวพี่กำลังเพ่งพินิจชายหนุ่มที่รูปร่างน่าจะสูงพอสมควรเพราะตอนนี้ที่นั่งเก้าอี้เขาก็สูงกว่าเธอเยอะมากเหมือนกัน เขาดู สง่า สายตาทรงพลัง ผมถูกจัดทรงมาอย่างไร้ที่ติ มันรับกับหน้าหล่อเหลา ไร้ หนวด เคราบดบังผิวหน้าสอาดสอ้านนั้น จมูกโด่งคมสัน ทุกอย่างดูดี ดูเข้ากันไปหมดเมื่อรวมอยู่บนใบหน้าของเขา
“นี่ เราไม่เจอกันนานจน แพรวจำพี่ชาย ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันที่ต่างจังหวัดไม่ได้จริงๆ หรอครับ”
ชายหนุ่มที่จ้องมองหน้าสาวพร้อมอมยิ้ม แววตาเป็นประกายมีความสุข