จิรบวรกุล และ หิรัญเทวา สองราชสกุลเก่าแก่ผู้รากมากดีสืบเชื้อสายมาจากตระกูลวงศ์ในพระมหากษัตริย์ ด้วยเกรงว่าทรัพย์สินที่มีมากมายก่ายกองของทั้งสองตระกูลจะตกไปเป็นของใครอื่นที่ไม่ได้มีเชื้อเถาเหล่ากอเป็นหน่อเนื้อแห่งราชวงศ์ นั่นจึงทำให้บรรพบุรุษของทั้งสองราชสกุลตกลงกันว่าจะให้ทายาทของตนมาแต่งงานกัน จึงเป็นเหตุให้ หม่อมราชวงศ์ภิภัทรธารา และ หม่อมราชวงศ์เพียงหนึ่งฤทัย ถูกเลือกให้ต้องมาสานต่อเจตนารมณ์ที่ว่านั้นให้สมบูรณ์
การแต่งงานแบบคลุมถุงชนในยุคที่กำลังย่างก้าวเข้าสู่ปีรัตนโกสินทรศก ๑๙๐ (พุทธศักราช ๒๕๑๔) ยังคงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในครอบครัวของชนชั้นสูง ในขณะที่ภิภัทรธาราและเพียงหนึ่งฤทัยกลับไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักเพราะต่างก็มองว่ามันเป็นเพียงอีกหนึ่งหน้าที่ที่ต้องทำก็เท่านั้น
แน่นอนว่าเขาและเธอไม่ได้รักกัน แต่การที่ชายหญิงวัยหนุ่มสาวต้องมานอนร่วมเรียงเคียงหมอนห้องเดียวกันมันก็ยากเกินกว่าที่จะหักห้ามใจได้
และนี่คือความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ ภิภัทรธาราและเพียงหนึ่งฤทัยเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องทั้งในทางนิตินัยและ...พฤตินัย ทว่าเขากลับไม่ได้มีเธอเป็นภรรยาเพียงแค่คนเดียว
'ภายในสามปีหลังจากแต่งงานเธอห้ามตั้งท้องเด็ดขาด ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามนี้ฉันกับเธอก็จะเป็นอิสระจากกัน'
การเจรจาที่คนเป็นสามีเสนอมาให้ยังคงดังกึกก้องอยู่ในหัวของเพียงหนึ่งฤทัย เหลือเวลาอีกเพียงแค่สามเดือนเท่านั้นที่เธอจะเป็นอิสระอย่างที่ใจต้องการ และวังวนความสัมพันธ์อัปยศนี้มันจะต้องจบลงนี้