กลุ่มคนพาลต่างช่วยกันลากถูร่างเล็ก ๆ ของหญิงสาวลงไปที่ข้างทาง แขนและขาเล็กถูกพันธนาการไว้ด้วยความร่วมมือของพวกมัน ดวงตะวันต่อสู้ดิ้นหนีจนเรี่ยวแรงที่มีเริ่มอ่อนล้า น้ำตาของความหวาดกลัวและอดสูไหลรินออกมาเมื่อคิดว่าวันนี้เธอคงไม่รอดพ้นจากการถูกพวกมันข่มเหง
ดวงตะวันพร้อมที่จะกลั้นใจเพื่อจบชีวิตของตัวเองเมื่อความคิดหนึ่งล่องลอยเข้ามา หากต้องมารับรู้หรือรู้สึกตัวในขณะที่พวกมันกระทำการชั่วช้า เธอก็ขอยอมตายเสียจะดีกว่า
“พอแค่นี้แหละ แล้วพวกแกก็ไปได้แล้ว” เสียงเรียบเฉยและแสนเย็นชาของใครคนหนึ่งดังขึ้นอยู่ที่ริมถนน และกลุ่มคนที่กำลังรังแกเธออยู่ก็พร้อมใจกันทำตามคำสั่งนั้น
ดวงตะวันนอนหอบหายใจอย่างไร้เรี่ยวแรง ม่านน้ำตาที่บดบังทำให้ภาพของชายหนุ่มตรงหน้าช่างพร่าเบลอเหลือเกิน หญิงสาวกระพริบดวงตาเพื่อไล่น้ำใส ๆ นั้นออกไป จนได้เห็นภาพตรงหน้าที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง
“คุณทัต”
“หึ...หมดสภาพเลยนะดวงตะวัน”
ธีทัตยืนล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยืนมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“รู้สึกยังไงบ้างเวลาที่โดนปล้น นี่ฉันหวังดีแถมประสบการณ์ให้เธออีกอย่างด้วยนะ หวาดกลัวไหม...ในตอนที่กำลังจะโดนรุมโทรมน่ะ”
“ไอ้ชั่ว...ไอ้คนชั่ว” ดวงตะวันขยับกายลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับสบถด่าเขาด้วยความโกรธ ดวงตากลมและแดงก่ำจ้องมองเขาด้วยความเกลียดชัง
“ฉันก็แค่อยากให้เธอรู้ว่าตอนนั้นพี่สาวของฉันรู้สึกยังไง ฉันยังไม่ได้ทำให้เธอต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราเสียหน่อย นี่ยังถือว่าฉันปรานีเธอมากแล้วนะ”