“คุณ !!”
เธอผุดลุกขึ้นนั่งในทันที
“คุณใจเย็นๆนะใบบุญผมเอง ผมมาปลุกคุณให้ทานยา เดี๋ยวจะได้ลงไปทานข้าวกัน”
หญิงสาวหย่อนขาลงแล้วค่อยๆยืนขึ้นหยิบยาในกระเป๋าออกมา แล้วเดินออกไปยังห้องพักผ่อน
เพราะตอนที่เธอเข้ามาสังเกตุเห็นว่ามีตู้เย็นขนาดเล็กตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง
เธอเปิดแล้วก็หยิบเอาน้ำออกมาขาดหนึ่ง เทน้ำใส่แก้วแล้วก็หยิบยาสามสี่เม็ดใส่ปากแล้วกลืนมันจนหมด
ไปเถอะครับทั้งคู่เดินลงมายังห้องรับประทานอาหาร ป้าผึ้งได้ตั้งโต๊ะรอไว้แล้ว
กลิ่นอาหารหอมกรุ่น ชวนเรียกน้ำย่อย เขารู้ดีว่าเธอไม่ใช่สามภาคใต้
เธอเป็นคนกรุงเทพฯเท่าที่รู้จากประวัตรการสมัคงาน เขาจึงให้ป้าผิ้งทำอาหารที่มีรสชาติอ่อนลงกว่าปกติ
“คุณลองดูซิว่าอาหารพวกนี้คุ้นตาคุณบ้างหรือเปล่า”
หญิงสาวมองอาหารแต่ละจานบนโต๊ะก่อนที่จะเอ่ย
ปากถามไปทีละอย่าง
“ไม่คุ้นเลยค่ะ จานนี้เรียกว่าอะไรคะ?”
เขาจึงถือโอกาสตอบพลางแนะนำให้รู้จักไปในตัว
“จานนี้เนื้อปลากะพงทอดขมิ้นครับ ชามนี้แกงส้มปูไข่หน่อไม้ดอง
จานนี้ไข่เจียวปู และนี่ผัดผักเหรียงใส่กุ้งและไข่ครับ”
“น่าทานมากค่ะ ชักจะหิวแล้วสิค่ะ”
“ป้าผึ้งตักข้าวเลยครับ..ทานเยอะๆนะคุณ”
พูดพร้อมกับตักนี่ตักนั่นให้เธอ
“แกงส้มนี้อาจจะเผ็ดไปสำหรับคุณ ลองชิมดูนะครับ”
“แล้วเมื่อก่อนฉันทานได้ไหมคะ?”
“ทานได้ครับแต่ก็ไม่ค่อยชอบเพราะคุณไม่ได้เป็นคนภาคใต้ที่มักจะทานเผ็ดกันมาตั้งแต่เด็ก”
เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ถ้าอย่างนั้นฉันทานผัดกับปลาทอดแค่นี้ก็อร่อยแล้วละคะ”
