ชีคร้ายก่อการรัก
เมริษา พิรมณ์รัก เพิ่งจะจบแพทย์มาหมาดๆ เธอเริ่มเข้าไปช่วยงานอาจารย์หมอ ที่โรงพยาบาลตามแต่ตารางที่ถูกจัดให้
คืนนี้ช่วงเวลาสองทุ่มเธอเลิกงานและกำลังจะกลับบ้าน หญิงสาว เดินมาที่รถ กำลังกดรีโมทและจะเปิดประตู
เธอถึงกับช็อกอ้าปากค้าง เมื่อมีวัตถุแข็งๆและเย็นเฉียบมาจี้เข้าที่กลางหลังของเธอ
“อย่าร้องถ้าไม่อยากตาย ผมแค่ต้องการความช่วยเหลือ และคนที่จะช่วยผมได้คือหมอ
หยิบกระเป๋าและอุปกรณ์การรักษา แล้วไปกับผม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วผมจะพามาส่ง “
เมื่อไม่มีทางเลือกเธอจึงจำต้องยอมทำตามความต้องการของพวกมัน
“ล็อกรถด้วย”
หญิงสาวจำยอมทำตามคำสั่ง ชายฉกรรจ์มาด้วยกันสามคนหน้าตาแต่ละคนราวกับชาวอาหรับ
คนที่นั่งคุมเธออยู่เอาปืนจี้เธอไว้ตลอดการเดินทางเพราะกลัวเธอจะแผลงฤทธิ์ ทั้งหมดแต่งตัวดีในสูทเนี๊ยบกันทุกคน
พวกนี้เป็นกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติหรือบอดี้การ์ดกันแน่ และที่สำคัญพวกเขาไม่พูดภาษาไทย
“ฉันขอถามหน่อยได้ไหม”
“ถ้าตอบได้ผมก็จะตอบ พวกคุณพาฉันไปรักษาคนใช่ไหม?
“ ใช่”
“ แล้วทำไมไม่พากันไปโรงพยาบาล เครื่องมือเครื่องไม้ครบกว่า”
“ ถ้านายผมมาโรงพยาบาลได้ ผมคงไม่ต้องรบกวนคุณหมอหรอกกระมังครับ”
“หมายความว่ายังไง พวกนายเป็นคนร้ายหรือไง”
“ อย่างไหนถึงเรียกว่าคนร้าย”
“ก็คนไม่ดีไง”
“คุณหมอรอถามเจ้านายผมเองเถอะครับ”
รถวิ่งออกชาญเมืองมานิดๆก็เลี้ยวเข้าไปในคฤหาสน์หลังงาม คนที่คุมเธออยู่เก็บอาวุธแล้วเดินมาเปิดประตูรถให้
“หยิบอุปกรณ์ของคุณแล้วตามผมมา”
ไม่มีทางเลือก ในกระเป๋าของเธอมีอุปกรณ์ในการรักษาแบบฉุกเฉินครบ หญิงสาวเดินตามเขาเข้าไปในตัวบ้าน
ที่เต็มไปด้วยบอดี้การ์ดหรือกองกำลังอะไรซักอย่าง เมื่อมาถึงชั้นสาม มีคนเฝ้าตั้งแต่หน้าบันไดและหน้าห้อง ห้องหนึ่ง
เขาเคาะประตูเบาๆสามครั้ง แล้วก็เปิดเข้าไป
บนเตียงขนาดใหญ่มีชายหนุ่มที่นอนหน้าซีดอยู่ตรงนั้น ที่หน้าท้องเขามีรอยเลือดที่จะเรียกว่าชุ่มโชกไปด้วยเลือดน่าจะถูกกว่า
“นี่คือเหตุผลที่ผมเชิญคุณมา”
ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลาคมคายราวกับหลุดออกมาจาก นิยายอาหรับยังไงยังงั้น ทั้งหน้าตาและการแต่งตัว
หรือไม่ก็ต้องบอกว่า คล้ายเทพบุตรกรีกอะไรประมาณนั้น ขนาดหน้าซีดๆก็ยังมองดูว่าหล่อเลย
“จะจ้องผมอีกนานไหมหมอ จะจัดการยังไงก็เร็วเข้าสิก่อนที่เลือดผมจะหมดตัว”
“คุณไปโดนอะไรมา?
“ถูกยิง”
“ ถูกยิง งั้นต้องผ้าเอากระสุนออก ไม่รู้ว่าโดนจุดสำคัญหรือเปล่า นายให้คนของนายไปร้านขายยา ไปซื้อน้ำเกลือมาเตรียมไว้ซัก ห้ากระปุก”
“จะเอามาอาบหรือไงห้ากระปุก”
“ ก็เหลือดีกว่าขาด คุณปากเก่งแบบนี้ คงไม่ตายง่ายๆ ฉันบอกก่อนนะว่าไม่มียาสลบ มีแค่ยาชาหลอดเดีย
วถ้าหมดฤทธิ์ยาแล้วยังไม่เสร็จนั่นหมายถึงคุณต้องกัดฟันทนเอา”
เธอล้วงกรรไกรออกมาตัดเสื้อทางหน้าท้องออกก่อนที่จะบอกเขาเบาๆ
“ ฉันอยากบอกพวกคุณเหลือเกินว่า พวกคุณจับมาผิดคน เพราะฉันเพิ่งจบมา และคุณคือเคสแรกของฉันทีต้องผ่า
นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วไว้ให้ดีก็แล้วกัน แต่ยังไงฉันก็จะทำตามที่เรียนมาจนสุดกำลังความสามารถก็แล้วกันนะ”
เธอเริ่มจัดการกับแผลของเขา เปิดปากแผลแล้วก็เจอเจ้ากระสุนเสียบอยู่ในช่องท้องแต่ไม่ได้โดนจุดสำคัญ
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อคีบเอากระสุนออกมาแล้วจัดการเย็บปิดแผลและพันด้วยผ้าก๊อตฉีดยาแก้ปวดอักเสบและให้น้ำเกลือ
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วคุณไปส่งฉันกลับได้แล้ว”
“ผมไปส่งคุณแน่หมอ แต่ก็ต้องรอเจ้านายผมหายก่อนไม่ใช่แค่ผ่าเอากระสุนออกแล้วจบ
เกิดมีภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาใครจะช่วยนายผม ผมสัญญานะว่า ผมจะไปส่งคุณ ตอนนี้เชิญคุณหมอไปพักที่ห้องรับรองก่อน”
“แต่พ่อกับแม่ฉันต้องเป็นห่วงมากแน่”
“ไม่เป็นไร เราใช้เครื่องของคุณส่งข้อความบอกพวกท่านแล้ว รวมถึงที่ทำงานคุณด้วย รับรองคุณสบายใจได้”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา เธอแต่งตัวเหมือนสาวอาหรับทั่วไปที่ดูไม่รู้ใครเป็นใคร
เพราะเห็นเพียงแค่ดวงตากลมลึก แต่เธอพูดภาษาไทยได้ชัดเจนน่าจะเป็นคนไทย
“ อลีมา พาคุณหมอไปพักผ่อน ก่อนนอนหาซุปร้อนๆให้คุณหมอทานหน่อยนะและสลัด เอาเข้าไปให้ที่ห้อง เตรียมเสื้อผ้าให้เธอด้วย”
“ ค่ะ”
เธอรับคำแล้วก็เดินนำออกไป
“เชิญค่ะคุณหมอ”
เธอพาไปยังห้องพักที่อยู่ในชั้นเดียวกัน แต่อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆไปอีกห้องหนึ่ง
“ อลีมา ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม ว่าผู้ชายที่ฉันมารักษาเป็นใคร แล้วฉันจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง “
“ขอโทษนะคะคำถามทั้งสองข้อของคุณดิฉันไม่สมรถตอบให้ได้ค่ะ แต่คุณทำตามที่เขาบอกนะดีแล้วคุณจะได้ปลอดภัยกลับบ้าน
ฉันบอกคุณได้เท่านี้ ขอตัวไปเตรียมอาหารก่อนนะคะ และนี่ชุดของคุณค่ะอาบน้ำแต่งตัวแล้วรอ ดิฉันจะกลับมาภายในสิบห้านาทีค่ะ”
พูดจบก็เดินออกไป เมริษา หยิบชุดมดู พระเจ้าช่วย เมษาจะใส่ชุดแบบนี้ได้ยังไงดูมันรุ่มรามรุงรังไปหมด
ที่สำคัญเธอใส่ไม่เป็นด้วยสิ...หญิงสาวทอดถอนหายก่อนที่จะหอบเสื้อผ้าพะรุงพรังเข้าห้องน้ำ
จนกระทั้งอาบน้ำสระผมเสร็จ เธอปลุกปล้ำใส่เสื้อผ้าให้ตัวเองด้วยความทุลักทุเล
ใส่แค่นี้ก็พอ ไอ้ผ้าพันผ้าคลุมนี่ไม่ต้องใส่ก็ได้มั๊ง อยู่ในห้องไม่ได้มีใคเห็นซักหน่อย..
. เสียงเคาะประตูดังขึ้นแล้วอลีมาก็เข้ามาพร้อมกับถาดใส่อาหารในมือ มีซุปอะไรซักอย่าง
สีออกเหลืองๆน่าจะป็นซุปฟักทอง และสลัดที่เต็มไปด้วยชีสหั่นลูกเต๋า เมื่ออารีมาเห็นเมริษาแต่งตัวถึงกับร้องขออัลเลาะช่วยเลยทีเดียว
