‘ฉันไม่เล่นกับพนักงานในบริษัท’ คำพูดของเขาผุดขึ้นมาในหัว หรือว่าเขาจะไล่เราออกอย่างนั้นหรือ? ไม่นะ! ขออย่าไล่เธอออกเลย ในหัวคิดไปต่างๆ นาๆ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปม กลีบปากอิ่มเม้มแน่น เมื่อเดินเข้ามาถึงที่หน้าห้อง เห็นเลขากำลังนั่งทำงานอยู่ เมื่อมิรันตีเห็นเธอเดินมา รุ่นพี่ยิ้มมาให้เธอ
“เข้าไปเถอะ ท่านประธานกำลังรออยู่ในห้อง” มิรันตีกล่าวก่อนจะลุกขึ้นเคาะประตูเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากข้างในเลขาสาวจึงเปิดประตูให้รุ่นน้องสาว
รัญนราค่อยๆ เดินเข้าไปที่โต๊ะทำงานใหญ่ เธอเห็นเพียงแผ่นหลังหนาที่นั่งหันหลังให้เธออยู่เหมือนกับเมื่อคืนไม่มีผิด
“ท่านประธานเรียกดิฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เธอเอ่ยถามเสียงแผ่ว แต่เมื่อเจ้าของห้องหันมามองเธอ รัญนรารีบก้มหน้างุดไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาหวั่นกลัวเกรงไปหมด
ดลเทพมองเจ้าของร่างเล็กในชุดเดรสสีฟ้าใบหน้าจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อยโดยรวมแล้วน่ารักไม่น้อย ดวงตาคมเข้มไล้ลงมองที่ลำคอขาวผ่องเมื่อคืนที่เขาซุกไซ้ ทั้งนุ่มและหอม โดยเฉพาะริมฝีปากอิ่มที่เขาจูบบดขยี้จนบวมเป่ง มันทั้งหวานและอร่อย รูปร่างเล็กแต่สมส่วน ยิ่งส่วนที่บ่งบอกถึงสตรี ไม่ได้เล็กเลยจับแล้วเต็มไม้เต็มมือไปหมด
เมื่อคืนหลังจากที่เธอจากไปแล้ว เขาเฝ้าคิดถึงแต่เรือนร่างอันหอมหวานนี้ จนนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน ทีแรกคิดอยากจะลงโทษสั่งสอนเธอ แต่เป็นเขาเองที่หลงติดกับดักเสน่หา ดลเทพจับจ้องเธอจนเมื่อเห็นร่างบางสั่นไหวระริกแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ นี่เธอกลัวเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?
“เธอต้องการเท่าไหร่กรอกตัวเลขลงไป” เขาโยนเช็คลงบนโต๊ะไม้สักทองเงาวับ ปลายนิ้วเรียวเคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ
รัญนราราเงยหน้ามองคนพูด มือเล็กหยิบเช็คขึ้นมาดู นี่เขารังเกียจถึงกับไล่เธอออกเลยหรือ ไม่ได้นะเธอยังต้องการใช้เงินนะ ถึงแม้เมื่อคืนเขาจะเอาเงินให้ถึงสองล้านทั้งที่เธอขอแค่ล้านเดียว แต่เงินจำนวนนั้นเธอเก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลของน้องชาย
“ขอโทษค่ะท่านประธาน ดิฉันไม่เข้าใจที่ท่านพูดขอความกระจ่างค่ะ” แสร้งถามเผื่อเขาจะเมตตาบ้าง พร้อมกับกะพริบตาถี่ ปั้นหน้าเศร้าให้เขาเอ็นดู
“ต้องการเท่าไหร่กรอกตัวเลขลงไปแล้วมาเป็นนางบำเรอให้กับฉัน” เขาตัดบทอย่างไม่อยากรอ เพราะตอนนี้อยากจะขย้ำเหยื่อตรงหน้าเต็มประดา
“หา! ว่าไงนะ” ดวงตากลมสวยเบิกกว้างก่อนจะจ้องอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคือง นี่ทำไมเขาถึงได้ดูถูกเธอนักเกลียดอะไรเธอนักหนา
“ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ได้ต้องการเงินแล้ว เงินที่ได้จากท่านเมื่อคืนมากพอแล้วค่ะ” กล่าวจบรีบหลุบตาลง เพราะกลัวสายตาคู่นั้นเป็นที่สุด มันเหมือนกับเมื่อคืนตอนที่เขาอยู่บนเรือนร่างเธอเขาก็ใช้สายตาแบบนี้มองเธอ
“ตามใจเธอ ถ้าไม่ตกลงก็ออกไปซะ!” เขาสบถออกมาอย่างกราดเกรี้ยว ยกมือขยับเนคไทราวกับผ่อนให้อารมณ์เย็นลง
“ค่ะท่านประธาน” รัญนราเตรียมเดินออกไป แต่ระหว่างที่กำลังจะจับกลอนประตูนั้น
“ถ้าเธอออกไปจากห้องนี้ ก็เตรียมเขียนใบลาออกได้เลย แต่ขอเตือนเธอไว้อย่างนะ ใครที่ลาออกจากบริษัท สแปร์ยนต์แล้ว อย่าหวังว่าบริษัทอื่นจะรับเข้าทำงานอีก!” คำขู่ของเขาทำเอารัญนราต้องหันขวับมามองเขาอีกครั้ง
“คุณต้องการให้ดิฉันทำอะไรอะไรให้บอกมาตรงๆ เถอะค่ะ” เสียงหวานเอ่ยบอกอย่างไม่มีทางเลือก เพราะเวลานี้งานคือเงิน
“ก็เหมือนที่บอกไง มาเป็นนางบำเรอให้ฉัน เธอต้องการเงินจำนวนเท่าไหร่กรอกตัวเลขลงไปได้เลย”
รัญนรามองเช็คที่เขายื่นมาให้แล้วยิ้มร้าย นึกอยากสั่งสอนผู้ชายที่ชอบดูถูกผู้หญิงนัก จึงกรอกตัวเลขลงไปแล้วยื่นให้เขา พอดลเทพเห็นตัวเลขแล้วดวงตาคมเบิกโพลงพร้อมกับโพล่งออกมาอย่างไม่พอใจ
“ไม่คิดว่าค่าตัวเธอแพงไปหน่อยเหรอ?” ทำไมผู้หญิงทุกคนถึงได้เหมือนกันไปหมด ‘หน้าเงิน’
“ไม่มากหรอกค่ะ เพราะดิฉันมีค่ามากกว่าเงินพวกนั้นเสียอีก” รัญนรากล่าวก่อนจะแสยะยิ้ม อยากสั่งสอนผู้ชายตรงหน้าที่ชอบดูถูกผู้หญิง แต่แล้วเธอถึงกับยิ้มไม่ออกเมื่อชายหนุ่มเซ็นเช็คอย่างไม่รีรอ เฮ้ย! นั่นมันเช็คสิบล้านนะ
“ดี ฉันจะใช้เธอให้คุ้มกับเงินที่ฉันเสียไป แล้วเธอห้ามปฏิเสธ นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าฉันต้องการเธอ เธอต้องตอบสนองให้ฉันได้ทุกเมื่อ แล้วหน้าที่ของเธอเริ่มตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป” กล่าวจบลุกขึ้นเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมาวางบนโต๊ะทำงาน
“ว้าย! ท่านประธานปล่อยนะ จะทำบ้าอะไรเนี่ย!”
“ก็ทำเหมือนเมื่อคืนไง” กล่าวจบดลเทพฉกจูบกลีบปากสีเชอรี่ที่เผยอขึ้นทันที ไม่สนใจกำปั้นเล็กที่ระรัวใส่บนบ่า ก่อนจะจัดการเธออย่างตะกละตะกลามราวกับหิวกระหายนานแรมปี…