ทำไมต้องฝรั่ง ภาคสอง Why Farang" 2?
6
ตอน
2.5K
เข้าชม
28
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

 

ทำไมต้องฝรั่ง ภาคสอง 

ตอนใหม่ กับตัวละครใหม่ ๆ ไฉไลกว่าเดิมจ้า และขอเสนอในตอนแรกที่มีชื่อว่า 

“ฝรั่งตาน้ำข้าว กับน้ำมัน มันเกี่ยวอะไรกัน” 

สวัสดีคะ ท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนขอนุญาติลงนิยายเรื่องจริงไม่อิงนิยาย ชีวิตจริงของผู้เขียนเอง โดยผู้เขียนขออนุญาติเรียกตัวเองว่าหนูหิ่นนะคะ มาค่อยทำความรู้จักกับหนูหิ่นกันเลยคะ เริ่มจากวิธีการเลือกซื้อผัก เอ้ยไม่ใช่คะ วิธีการเลือกผู้ชายที่เป็นฝรั่งของหนูหิ่นก็มีไม่มากไม่มายคะ ไปคะ  

การเป็นสะใภ้ต่างชาติ ของหนูหิ่น มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกเช่นเดียวกันคะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน คนที่มองจากภายนอกก็มักจะคิดกันว่า ถ้าจะเป็นเมียฝรั่งนั้นต้องตัวดำ ผอมบางเหมือนขาดสารอาหารมาทั้งชีวิต และก็ต้องเป็นคนที่มีใบหน้าที่ไม่สวยเอามาก ๆ และที่สำคัญต้องประมาณว่าเป็นคนที่เรียนมาน้อยด้อยปัญหา อ่านหนังสือไม่ออก มีลูกติด หน้าเป็นฝ่า ไหปลาร้าโชว์จนเอาลูกบอลวางแล้วไม่ตก และบางคนก็ยังยัดเยียดความไม่ยุติธรรมทางความคิดให้กับบรรดาเมียฝรั่ง ทุกรุ่นว่า อ้อ ก็เพราะว่า เขาและเธอคนนั้น ทำงานอาชีพอย่างว่า อย่างว่า คืออะไรคะคุณผู้ชม พวกคนคนใจแคบย่ิงกว่าคอคอปานามา และก็ชอบเหมารวมว่า ประมาณว่า เมียฝรั่งต้องทำอาชีพกลางคืน หรืออาชีพขายนาแปลงน้อย แก่ เหี่ยว ไม่มีคนไทยที่ไหนเอา อะไรทำนองนั้น  

โอ้ยอกอีแป้น อกอีหนูหิ่นจะแตก มันไม่ใช่ความจริงเลยคะคุณขา หนูหิ่นอาจจะไม่สวยไม่ใช่นางฟ้า นางสวรรค์ แต่หนูหิ่นคนนี้ ก็ไม่ได้ผอมแห้งแรงน้อยแต่อย่าง กลับตรงกันข้ามคะคุณขา มิหนำซ้ำ ตอนแต่งงาน หนูหิ่นหนักเกือบจะเจ็ดสิบนคะคุณ ตัวดำไหม ไม่คะ ผิวสีแทน ผิวน้ำผึ้งออกไปทางสองสี สวยจะตาย ว้ายใครช่างว่า ฮะ ๆ การศึกษาก็ไม่ธรรมดานะคะคุณขา จบระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังไม่เบาแต่อย่าเอ่ยน้ำ เดี๋ยวโดนฟ้องจ้า หน้าที่การงานของหนูหิ่นนั้นจัดได้ว่าดีมากจ้า ทำงานโรงพยาบาลเอกชน เป็นเจ้าที่ควบคุมเบี้ยฝ่ายการเงินนะคะคุณ จัดว่าโก๋เก๋ไม่เบาคะไม่เบา เพื่อนฝูงหลายคนจบดอกเตอร์ เป็นทนายความ เป็นหมอ เป็นตำรวจก็มีนะคะคุณขา ไม่ได้โม้  

สำหรับหนูหิ่นอาชีพทุกอาชีพ มีคุณค่าคะทั้งนั้นคะคุณขา อาชีพอะไรก็ได้ อะไรก็ตามแต่จะสรรหา อาชีพอะไรที่ทำแล้วสนุก มีรายได้เป็นกรอบเป็นกรรม มันหมดยุกค์สมัยของต้องทำงานข้าราชการเป็นเจ้าคนนายแล้วคะพ่อคุณแม่คุณ จะเป็นพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ก็เก๋ดีออกคะ เป็นนายตัวเอง ถ้าคุณรักที่จะทำ แต่ต้องไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นไม่เดือดร้อนเด้อค่าเด้อ และที่สำคัญต้องตั้งมั่นในความดีนะคะ ถ้าคุณอยู่ได้ ก็ถือว่าเป็นอาชีพทั้งสิ้นคะ อันนี้ก็แล้วแต่นะคะความคิดคนมันห้ามกันไม่ได้จริง ๆ คะ โดยเฉพาะโลกเราสมัยนี้ การว่าคนอื่นมันเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ คะ โลกออนไลน์ ใครๆ ก็โดนด่าได้ทั้งนั้นเด้อคะ  

เอาเป็นว่า หนูหิ่น จะไม่ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จนะคะ นิยายเรื่องทำไมต้องฝรั่งภาคนี้ จะเป็นเรื่องของผู้เขียนแบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่ตัวแทน ไม่ใช่สแตนอินด์ และไม่โกหก หรือสร้างตัวละคร และเรื่องสมมุติกันอีกต่อไป การที่จะหาคู่ครองนั้น มันไม่ใช่ปุ๊บปั๊บรับโชค และการที่จะหาคู่ครองที่เป็นชาวต่างชาติมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน  

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจับใครสักคนที่อยู่อีกครึ่งค่อนโลก ให้มาเป็นคนของเรามันบ่อง่ายเด้อคะ แล้วคนที่เราจะฝากชีวิตไว้ด้วยความคาดหวังอันสูงยิ่งของผู้หญิงทุกคนบ่นโลกใบนี้ ฝากชีวิตกับใครสักคน ที่ไม่ได้เกิดมาด้วยกัน ไม่ได้เติบมาด้วยสิ่งแวดล้อมที่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องกิน เรื่องปากท้อง คนไทยไม่เคยแพ้ผู้ใดในโลก เขาผู้นั้นก็คงจะคิดแล้วคิดอีกคือกันแม่นบ่อค้า เขาก็คงจะต้องเลือกแล้วเลือกอีกไม่แพ้เราเช่นกัน คนสองคนจากร้อยพ่อพันแม่ ต่างความคิด ต่างศาสนา และวัฒนธรรมประเพณี จะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และก็แอบหวังลึก ๆ ว่า จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต และแถมยังอาจจะเพิ่มชีวิต เพืิ่มจำนวนประชากรให้โลกใบนี้ นำพาเขาหรือเธอให้เกิดขึ้นมาบ่นโลกใบนี้อีกไม่มากก็น้อย และนั่นมันก็คือภาระที่ยิ่งใหญ่ ถ้าอยู่ทีมเดียวกันไม่ได้ ก็อาจจะไปไม่รอด แล้วบางที่สิบปีแรกรอด สิบปีหลังก็ยังคงหวั่น ๆ ใครที่คิดว่าไม่หวั่นแม้วันมามาก ก็ดีไปคะ แต่ฉันหนูหิ่น หวั่นไหวมาโดยตลอด ไม่ได้โม้นะคะ สามีดิฉันไม่ได้รักฉันแบบธรรมดา สามัญเรียกก็หลงหัวปลักหัวปลำกันเลยทีเดียว ฉันสะอีกบางทียังหวั่นไหวฮะ ๆ ก็แบบว่า คนหล่อ ๆ มันเดินยั่วเยี่ยไปหมดเต็มท้องถนนฮะๆ ก็แค่อาหารสายตานะคะอย่าคิดมาก 

แล้วนี้ยังไม่รวมถึงเรื่องพ่อแม่เขา พี่น้องเขา พ่อแม่เรา พี่น้องเรา โดยเฉพาะคนไทย ที่มีครอบครัวขนาดใหญ่ นับญาติกันไปหมด ลูกลุง ลูกน้า ลูกป้า ก็คือพี่น้องเรา แต่ฝรั่งบางครอบครัว เขาอาจจะไม่นับญาติ อาจจะไม่คิดว่านั่นคือคนในครอบครัวเด้อคะคุณขา แล้ววัฒนธรรมการให้เงินพ่อแม่เขาก็ไม่มี อายุสิบแปดเชิญไปใช้ชีิวิตของตัวเอง เขามีแต่จะแต๊ะลูกเขาออกจากบ้าน เพราะว่าเขาอยากจะใช้ชีวิตของเขา เขาอยากจะเดินแก้ผ้าดื่มกาแฟขึ้นมาบ้างอะไรบ้าง โอ้ยคุณขาแล้วคนไทย ประเพณีไทย ก็ไม่ชอบน้อยหน้าใคร เวลาจัดงานแต่งงาน มันต้องยิ่งใหญ่ เวอร์วังอลังการ งานสร้าง เอาไว้ก่อน เรียกว่ายอมเป็นหนี้เป็นสิน เพื่อที่จะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เงินทอง ต้องกองใหญ่ เพร็ชนิลจินดา ต้องมี ต้องมีดอกไม้ ต้องมีชุดรับไหว้ ชุดรังน้ำ ชุดราตรี ชุด after party ชุดสัมภาษณ์กับนักข่าว เออคุณคะ คือคุณไม่ได้เป็นดารานางเอกแถวหน้า เอาแค่ว่า พอดีกับฐานะ และพอดีกับเงินในบัญชีนิดส์หนึ่งคะ  

ฝรั่งถ้าเขาเป็นพวกหัวโบราณ ถ้าเขามีลูกผู้หญิง เขาต้องเก็บเงินเข้าบัญชีตั้งแต่ลูกเขาเกิด เก็บเงินไว้ให้ลูกเขาจัดงานแต่งงานนะคะคุณขา ผู้ชายเขาก็แค่ออกเงินซื้อแหวนหมั้น กับแหวนแต่งงานเท่านั้นนะคะคุณ นอกนั้นพ่อเจ้าสาวต้องออกหมดนะคะ แต่คนไทยเรา เอาวัฒนธรรมประเพณี ไทยเทศมารวมกันคะคุณ คือ เอามันทุกอย่าง เอามาให้หมด แล้วชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าวก็เห็นก่อนได้ แถมคืนวันแต่งงาน เจ้าสาวเจ้าบ่าวก็นอนด้วยกันได้ นั่นคือพี่ไทยของเราเองคะ เราทำกันตามถนัด คือเรารวมวัฒนธรรมไว้ทั่วโลกคะ น้อยมากที่จะทำแบบไทย ๆ แท้ ๆ เพราะว่าอะไรรู้ไหม เขาทำตามดารา นางแบบที่พวกเขาชื่นชอบ แต่คนธรรมดาสามัญ หนังหนาอย่างหนูหิ่น ทำไม่ได้คะคุณขา เอาแค่ว่าจะหาวิธีบอกกับว่าที่สามีที่เป็นฝรั่งยังไงกับค่า ค่าสินสอด ก็ปวดหัวไปสามวันสามคืน รักกันอยู่ดี ๆ พอคำว่า สินสอดมันมาค้ำคอ ความรักนั้นก็อาจจะใช้ไมไ่ด้อีกต่อไป แต่ว่าถ้าฝรั่งคนนั้น เขารักเรามากพอ มันก็พอจะคุยกันได้คะคุณ 

กลับมาในตักกะ ความคิดของหนูหิ่นฝรั่งก็คือคน ไม่ใช่เทวดา ไม่ใช้ผู้วิเศษ ฝรั่งก็คือคนที่ต้องกิน ก็ต้องขรี้ ฉันหมายถึงเขาก็ต้องเข้าห้องน้ำ ต้องเอาออก แล้วก็เอาเข้าเหมือนคนอื่นทั่วไปบ่นโลกใบนี้นะคะคุณผู้อ่าน แล้วเขาก็ต้องนอนหลับพักผ่อน เขาก็ต้องทำงานหาเงิน ส่วนเรื่องความรวยความจน ความดีความงาม มันก็แล้วแต่บุญแต่กรรม มันก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำมันมั้งคะ ส่วนสาวไทยโดยเฉพาะหนูหิ่นคนนี้ก็คงจะเป็นน้ำเปล่า ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะจับเสือด้วยมือเปล่านะคะคุณผู้อ่าน ฉันก็แค่แอบคิดเล่น ๆ ขำ ๆ นะคะ ว่าฝรั่งก็เปรียบเหมือนกับน้ำมันที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป และน้ำมันมันก็มีตั้งหลายแบบ หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันสัตว์ น้ำมันพืช น้ำมันผสม น้ำมันจริง น้ำมันปลอม และปัจจุบัน ยังมีน้ำมันที่เป็นแบบว่าออแกรนิก อ้อกระแดะนะคะ และไหนจะน้ำมันสำหรับรถยนต์ รถสิบล้อ รถเก๋ง น้ำมันที่ใช้เติมเครื่องบิน ฮะๆ ไปไกลอีกแล้วฉันกลับมาจ้า กลับมา  

เอาเป็นว่า สำหรับหนูหิ่น ฝรั่งในความหมายของฉัน คือคนตาน้ำข้าว หัวแดง หัวเหลือง หัวทอง หัวดำบ้าง ในแถบยุโรปเช่น ชาวฝรั่งเศส หรือชาวอิตาลี่นะคะ แต่หนูหิ่นขอไม่นับรวมคนเอเชียนะคะ สำหรับหนูหิ่นคนเอเชียเขาดีเกินไปสำหรับเรามั้งคะ เพราะว่าเขาคงจะไม่เอาเราหลอก และอีกอย่างเขาก็คงจะไม่สนใจผู้หญิงหน้าตาแบบหนูหิ่นเป็นแน่ทั้งสวยทั้งขาวทั้งรวย เอ้ยไม่ใช่คะ ทั้งดำทั้งขำทั้งฮาทั้งบ้าทั้งบอต่างละคะ 

จะว่าไปหนูหิ่นก็เคยมีแฟนเป็นคนไทยนะคะ แต่ขอข้ามประเด็นเกี่ยวหนุ่มไทยไปเลยนะคะ เพราะว่าหนุ่มไทยกับหนูหิ่นคงเป็นได้แค่เพียงในความฝันก็พอคะ รักแบบนั้นหนูหิ่นขอไม่กล่าวถึงดีกว่า ไม่อยากพูดถึงให้เป็นประเด็น แล้วต้องมาตามค้นหาในกลูเกิ้ล กรูรู้ กรูเห็นกันอีก เป็นเรื่องไปเสีย เปล่า ๆ เปลี้ย ๆ นะคะ จบนะคะ คริ ๆ  

เรากลับมาพูดเรื่องน้ำมัน เอ่ยเรื่องฝรั่งกันต่อดีกว่านะคะ สำหรับหนูหิ่นแล้ว ขอจำแนกฝรั่งกับน้ำมันไว้แบบนี้นะคะ 

๑. “น้ำมันที่เป็นสีดำ”  

ก็คือน้ำมันที่ผ่านการใช้งาน ผ่านการเผาผลาญมาแล้ว และก็จะทำให้น้ำเปล่าอย่างหนูหิ่น เน่าเสีย ไปเสียเปล่าๆ ฮะ ๆ ฉันหมายถึงฝรั่งที่เป็นพ่อหม้าย ลูกติด ลูกเยอะ ภาระเยอะ หนีเยอะ พูดเยอะ ขี้โม้ ถึงแม้ฝรั่งคนนั้นเขาจะรวยล้นฟ้าปานใดใครกล่าว แต่ถ้าฝรั่งผู้นั้นเคยผ่านการแต่งงาน และมีครอบครัวมีลูกมีเต้ามาแล้ว หนูหิ่นคนสวยคนนี้ จะถือว่า เป็นน้ำมันดำราคาตก เป็นฝรั่งขี้นกทันทีทันใดเด้อคะ 

ต่อไปดิฉันหนูหิ่นคนงาม นามเพราะเสนาะหู ก็จะขอเรียกว่า  

๒. “น้ำน้ำมันสัตว์  

ก็คือน้ำมันที่เกือบจะเป็นออแกรนิก โดยเฉพาะน้ำมันหมู” น้ำมันหมูมันแพงเด้อคะ ทำก็อยาก แถมกากหมู ก็อร่อยดีอยู่คะ แต่ถ้ากินบ่อย ๆ กินทุกวัน มันก็จะอ้วนนะคะ ถ้าเปรียบเป็นฝรั่งสำหรับหนูหิน ก็คือฝรั่งที่รวยมีเงินมีทองมากมาย แต่ว่าอ้วนลงพุง อายุหกสิบห้าปีขึ้นไป เมียตาย พ่อตาตาย แม่ยายแก่ ขี้โม้ ช่างเจรจา คุยแต่กับเรื่องความมีฐานะของตัวเอง เรียกว่าแต่งงานปุ๊บเป็นนางซิน แต่สำหรับหนูหิ่น ก็ไม่ไหวคะ มันคงจะไม่เหมาะ คนรวยเกินไปก็น่ากลัว กลัวจะเข้ากับเขาไม่ได้ แล้วถ้าเขาอายุเท่าพ่อเท่าแม่ของเรา มันก็ไม่ไหวจริงนะคะ มันจะดูเหมือนว่าเราจะไปขุดทอง และก็อาจจะหาความรักไม่เจอ หนูหิ่นไม่สวยแต่ก็เลือกนะคะ 

ต่อไปเป็น น้ำมันชนิดสุดท้าย ที่หนูหินโปรดปราน ไม่ผ่านที่จะเลือกนะคะ เอามาทำพ่อของลูก ก็คือ 

๓. “น้ำมันเครื่อง”  

น้ำเครื่อง คือน้ำมันที่ได้รับการกลั่นและก็กรองมาแล้ว มีฉลากการใช้ บอกไว้ละเอียดว่าจะเติมตอนไหน เติมกับรถหรือเครื่องยนต์ประเภทอะไร ไม่ต้องรวยมากมาย แค่พอดูได้ ก็พอแล้วคะ ฝรั่งกลุ่มนี้จะอยู่ที่อายุอานาม ไม่เกิน สี่สิบห้าปี และก็อายุเริ่มที่สามสิบห้าขึ้นไปนะคะพี่น้องผู้อ่านที่รักทุกท่าน ฝรั่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่กำลังดี กำลังใช้งานคะ และเป็นกลุ่มที่เบื่อทางโลก และเข้าทางทำ ไม่ใช่ทางธรรม คือเป็นฝรั่งที่เริ่มคิดได้ คิดเป็น และเริ่มอยากจะสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง เริ่มแบบว่า หมดเรื่องความอยาก แต่เริ่มอยากจะมีเมียเป็นของตัว อยากจะหารักแท้ อยากจะหยุดที่เรา หยุดตรงนี้ที่เธอ หยุดจับฉ่าย หยุดรถไฟขบวนสุดท้าย ฝรั่งที่อายุมากกว่าเรา ไม่ถึงรอบ กำลังพอดีคะคุณขา แต่ถ้าใครจะโชคดีได้หนุ่มกว่าก็ถือว่าชาติที่แล้วทำบุญมาดี ทำบุญด้วย มะม่วงหาวมะนาวโห่ เปรี้ยว คบเพาะกำลังดี เคี้ยวทีเข็ดฟันแต่ก็มัน ๆ ดีนะคะ คุณขา หนึ่งรอบในที่นี้ก็ประมาณสิบสองปี แบบปีนักสัตว์ไงขาคุณ ขาดเกินไม่เกิน สิบสองปีกำลังดีเลยนะคะ ถ้าเขาแก่กว่าเรา เราก็จะดูเด็กไปตลอดกาล แต่ถ้าเขาหนุ่มกว่าเรา เราก็ได้กินเด็กไปตลอดปี ก็มันดีนะคะคุณเอ้ย พี่น้องชาวไทย ชาวเรา ที่จ้องจะเอาฝรั่งต้องฟัง เชื่อหัวไอ้หนูหิ่นซิคะ น้ำมันขวดนี้ จะสีเขียวพอดี หรือเหลืองนวล ชวนชื่นใจ ถ้ามีเขามาก็เอาหมดจ้าอย่ารอ และยิ่งเป็นพี่ฝรั่งที่ครองตัวเป็นโสด และไม่เคยแต่งงงานมาก่อน แค่มีแฟนมาก่อน แต่ต้องเลิกลากันขาดนะ จะได้ไม่มีปัญหามือที่สาม ที่สี่กันทีหลัง แล้วถ้าเขาแต่งงานแล้วเลิกกันไม่มีลูกด้วยกันจะดีที่สุดนะคะคุณ  

ไม่งั้นละคุณเอ้ย ลูกเธอ ลูกฉัน ลูกไม่รักกัน แม่ยายฉันยังคงตามมาราวี แย่งทรัพย์สินที่มีกันไม่รู้จักจบจักสิ้น ถ้าเลือกได้ก็เอาที่แบบว่าไม่มีลูกติดจะดีกว่าเชื่อเถอะคะ แต่ถ้ารักเขาแล้ว แล้วคุณคิดว่าคุณจะรักลูกเขาได้ ก็ตามใจคุณแล้วกันคะ งั้นเรื่องติดก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ขอแค่ว่าแม่ขอบลูกเขาไม่มาเคาะประตูหน้าบ้าน และแอบมาแทงข้างหลังคุณนะคะเพราะว่าถ้าตัดบัวแล้วยังเหลือใย มันก็อยากที่จะไปต่อนะคะคุณ แล้วคุณอาจจะต้องเก็บยผ้าผ่อนกลับไทยไม่ทัน ฝรั่งเวลาร้ายร้ายมากกกกกนะคะ จะบอกให้ 

สรุปนะคะ ฉันก็แค่เปรียบเทียบเล่น ๆ ขำ ๆ นะคะ เล่นเอาน่ากลัวกว่าน่าอ่านใช่ไหมคะ อีกอย่างมันก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับเรื่องน้ำมันเลยสักนิดเดียว  

คำถามต่อไป อ้าวทำไมเรียกตัวเองว่า หนูหิ่น คือเรื่องกันก็มีอยู่ว่า หนูหิ่น นั้นมันก็มาจากหลายสาเหตุนะคะ สาเหตุที่สำคัญอันใหญ่หลวง ก็คือว่า หน้าตา ทาทาง ทรงผม ของฉันตอนเป็นเด็ก มันก็ไม่ต่างอะไรกับหนูหิ่นในการ์ตูนย์เลยละคะคุณผู้อ่าน ผมสั้นเห็นติ้งหู แถมมีจมูกไว้หายใจเฉย ๆ พอนอนตะแคงลูกตาก็สามารถไหลเข้าไปรวมกันได้อย่างที่เขาว่ากัน ฉันเองก็ไม่ได้เสียอกเสียใจอะไรนะคะพี่น้อง ถึงมาตอนนี้ ฉันก็ยังคงเป็นหนูหิ่นคนดี คนเติม อะไรที่แม่ให้มาก็ยังอยู่ครบนะคะ ไม่เคยได้แต่งเติมเสริมแต่ง ศัลยกรรมอะไรกับใครเขา จะว่ามันสวยมันก็สวยอยู่น้าทำเป็นไรไป ก็พอจะไปวัดไปวาตอนเช้าได้ไม่อายใคร น้องหมานั้นก็ไม่ได้เห่ามากมายอะไรนะคะ ขำ ๆ แซวตัวเองเล่นนะคะ  

จริง ๆ แล้วใบหน้าของฉันก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นสาวน้อยบ้านนา แต่ทว่า ฉันก็ไม่ธรรมดานะคะพี่น้อง มีชายไทยหลายต่อหลายต้อง ร้องไห้ฟูมฟายให้ฉันก็ไม่น้อยนะคะ ตอนที่เขาพวกเขานั่งปลอกหัวหอมนะคะ คริ ๆ ฉันอาจจะไม่สวย ไม่งาม ไม่ทำตามใจใคร แต่ฉันก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนอะไรบ่นใบหน้าของฉัน สิ่งที่ฉันเปลี่ยนบ่อยตอนโตก็คงเป็นแค่ทรงผม ก็ไปตามสมัยนะคะ ผมสั้นบ้าง ยาวบ้าง แล้วแต่ ผมดัดบ้าง ผตรงบ้างก็แล้วแต่อารมณ์ของฉัน 

ก็เพราะว่าใบหน้าและจมูกแฟนไทยทิ้งนี่ละ จึงทำให้ฉันได้แต่งงานกับฝรั่งฮะ ๆ สุดท้ายฝรั่งก็ต้องมาตายหลังกับคนใบหน้าเหลี่ยมตามที่คนเขาว่าขานกัน มันก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง ที่ฝรั่งชอบของแปลก ฮะ ๆ ตอนเด็กฉันอาจจะดูเหมือนหนูหิ่น แต่พอโตมา ฮะๆ ฉันก็ยังคงเป็นหนูหิ่นอยู่คือเก่าเด้อคะ ส่ิงเดี่ยวที่ฉันไม่เหมือนกับหนูหิ่นก็คงจะเป็นตรงที่ ฉันพูดภาษาภาคอีสานไม่ได้มั้งคะ เพราะว่าฉันเกิดและเติบโตที่จังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร มากหนัก ฉันเป็นลูกครึ่งนะคะ ลูกครึ่งผสมระหว่าง คนจริงเมืองสิงห์ กับคนลิงลพบุรี ฮะ ๆ แม่เล่าว่า พ่อฉันอยากได้ลูกผู้ชายเลยไปขอกับเจ้าพ่อศาลพระกาฬ แต่ดันออกมาเป็นผู้หญิง ลูกคนกลาง ที่พ่อรักบ้างทิ้งบ้าง ไหนเลยจะเหมือนพี่สาว กับน้องชายที่ต่างก็เป็นคนโปรดของครอบครัว ไม่ได้น้อยใจ แค่น้อยไข่ เอ้ย น้อยเนื้อต่ำตานะคะ  

ใครจะไปนึกไปฝัน ว่าฉันจะมาไกลถึงประเทศแคนาดา ให้ตายเถอะไม่เคยใฝ่ฝันว่าจะต้องนั่งเครื่องบินข้ามน้ำข้ามทะเล เพราะว่าตัวเองเป็นคนกลัวความสูง เคยนั่งเครื่องบิน ไปแค่เชียงใหม่กับแฟนคนไทย ยังถึงกับอวก บอกว่ารอบหน้าขอขับรถมาเชียงใหม่จะดีกว่า ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะได้แต่งงานกับใครเขา เอาแค่ว่าหายใจไปวัน ๆ กับจมูกที่แบนจนตาจะไหลรวมกันของฉันก็พอ แต่ไม่น่าเชื่อคะคุณขา โชคชะตา ก็ทำให้ฉันมาเจอ พ่อน้ำมันเครื่องของฉันจนได้  

เราสองคนต่างก็ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาไม่น้อย ต่างคนต่างก็คิดว่า ต่อไปนี้นะ จะไม่ยุ่งเลย จะไม่ทำให้เธอต้องทุกข์ใจ อะไรทำนองนั้น สามีฉันคนเดียวคนปัจจุบันเป็นพ่อหนุ่มตาน้ำขาวชาวแคนาดา แต่ดันมีหน้าตาเป็นเหมือนคนเยอรมัน กับรัสเซียป่นกัน ก็นางเป็นคนแคนาดารุ่นที่สามนะจ้า ถ้าคุณเรียนภูมิศาสรต์ สังคมศาสตร์ คุณก็จะรู้ว่า แคนาดาเป็นประเทศที่เกิดใหม่ อายุแค่ร้อยกว่าปี เป็นประเทศที่รวมขึ้นภายใต้การปกครองของอังกฤษ มีทั้งคนฝรั่งเศล คนยุโรป คนอเมริกาและอีกหลายประเทศ เข้ามาตั้งรกราก รุ่นแรกรุ่นบุกเบิกก็ คือรุ่นตากับยายของสามี พวกเขาเป็นชาวเยอรมันที่ต้องอพยบหนี้สงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สองไปตามประเทศโน่นประเทศนี้ จนสุดท้ายมาตกอยู่ที่ประเทศแคนาดา ออกลูกออกผลมาเป็นพ่อย่าแม่ยาของฉันเอง หลังจากนั้น สามีฉันก็เกิดมาเป็นพ่อพันธ์ที่ตกถึงท้องฉันและฉันก็เป็นผู้เดียวที่ได้เป็นผู้ครอบครองหัวใจของเขาตลอดมา และฉันก็แอบฝันลึก ๆ ว่า จะตลอดไปนะจ๊ะ เจ้าพระคุณเอ้ย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ไหน ๆ ก็ ไหนๆ แล้ว อย่าให้ใครหน้าไหนมาเอาเขาไปจากฉันเลยนะจ๊ะ ขอแค่จากตาย อย่าจากเป็นเลยมันจะเจ็บใจกันเปล่า ๆ คริ ๆ 

ขณะที่หนูหิ่นคนดี คนเดิม เพิ่มเติบคือน้ำหนักตัวและไขมันใต้ดวงตา นั่งเขียนบรรยายความอยู่นี้ ฉันก็ได้สามีฝรั่ง มาครอบครองตั้งเกือบจะสิบสี่ปีแล้วนะจ๊ะ ๆ ลูกหนึ่ง ผัวหนึ่ง กำลังดีจ้า พ่อคุณแม่คณเอ้ย คนเดียว ยังปวดหัว แล้วคนที่เขามีผัวมากกว่าหนึ่งเขาจัดตารางกันอย่างไงหนอ สุดยอดจริงๆ เลยจ๊ะพี่จ้า หนูหิ่นขอยกนิ้วให้เลยจ้า  

ฉันแต่งงานกับสามีฉันสิบกว่าปีดีดัก ฉันคือสะใภ้ไทย หัวใจสีแดง แรงอย่าบอกใคร ยังคงรักชาติ ศาสนา พระมหากษัติไทยไม่เคยลืม ตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นคนสองแผ่นดินแล้วนะจ๊ะ ฉันอาจจะไม่ใช่แม่พลอย แต่แม่คนนี้ก็คอยเอาใจช่วย สาว ๆ ทุกคนที่อยากจะมีผัวเป็นฝรั่งเด้อขา ถ้าคุณไม่เชื่อก็ถามใจแม่ย่าฉันดูเอาเองก็แล้ว ถ้าคุณพูดภาษาเยอรมันได้นะคะคุณ ๆ ผู้อ่าน ฮะ ๆ ตลกทุกครั้งที่ฉันพูดกับแม่ย่าของฉัน เหนื่อย เพราะภาษาอังกฤษของเราทั้งคู่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองจ้า 

วัน ๆ นางก็พูดภาษาอังกฤษคำ ภาษาเยอรมันคำ กับฉันเป็นประจำ ตอนนี้พ่อย่าฉันเสียไปสามปีเห็นจะได้ ตอนอยู่พ่อย่าเขารักลูกสะใภ้คนนี้มากมาย เพราะว่านางมีคนเดียว เนื่องจากว่านางมีลูกชายคนเดียวนะจ้าไม่ใช่อะไรฮะๆ 

สะใภ้ดีเด่นระดับชาติอย่างฉันยังไม่เคยต้มยำทำแกงให้แม่สามีของฉันกินเลยสักครั้งเดียว สาเหตุก็เพราะว่าแม่สามีฉันไม่ชอบกินแกง ไม่เคยคิดจะลอง และนางก็ไม่กินเผ็ดนะจ้า จะว่าไปมันก็ดีถ้าฟังไปแบบไม่คิดอะไร แต่ว่ามันมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด แม่สามี หรือแม่ย่าของฉัน นางเป็นแม่สามีที่คอยวนเวียน วอแว ค่องแวะ วุ่นวาย ตามประสาคนที่เป็นแม่ที่มีลูกชายคนเดียว โดยเฉพาะคนที่เป็นแม่ย่าของลูกสะใภ้ที่มาไกลจากอีกซีกโลกอย่างฉัน 

ฉันขอบอกพวกคุณอย่างภาคภูมิใจว่า ฉันนางหนูหิ่นคนนี้เป็นคนดีศรีภรรยาจ้า ฉันไม่เคยทำให้เสียชื่อเสียงของประเทศไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียวก็ไม่เคยจ้า  

ในฐานสะใภ้คนเดียวของครอบครัว ฉันทำหน้าที่การเป็นลูกสะใภ้ได้ดีอย่างไม่มีข้อบกพร่อง เอาเป็นว่าฉันไม่ได้พูดเองนะคะจ๊ะ แต่มันเป็นคำชมจากทั้งอดีตพ่อสามีและแม่สามี อีกทั้งยังรวมไปถึงญาติพี่น้องของสามีอีกต่างหาก  

ถึงแม้ว่าแม่สามีของฉัน นางจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสามีของฉัน ซึ่งเป็นลูกชายแท้ ๆ คนเดียวของนางก็ตามที ฉันก็สามารถสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในครอบครัวได้อย่างสวยงามจ้า นอกจากแม่สามีของฉันจะคอยผลุบ ๆ โผล่ ๆ เดียวก็ผลุบก็โผล่ ยิ่งกว่าเพลงของพี่ตินาอีกจ้า ดีหน่อยที่ตอนนี้นางแก่เกินจะตามจับผิดฉันแล้วนะจ๊ะฮะๆ   

เมื่อก่อนนะ นางเล่นโผล่มาหน้าบ้านของฉันแบบไม่ได้นัดหมายล่วงหน้าอยู่บ่อย ๆ และนางก็ยังเป็นแม่ย่าที่จัดว่าเจ้าระเบียบเอามาก ๆ ทุกอย่างต้องสะอาด ต้องเนียบ ต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ต้องดี ต้องเลิศ ต้องถูกต้อง และต้องไม่อายใคร และต้องทำ ต้องได้ ฮะๆ แต่นางก็ใจดี และก็มีเมตตาในแบบของนาง  

เมื่อก่อนตอนที่สามีฉันยังไม่ได้แต่งงาน สามีฉันก็ไม่ได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกับพ่อและแม่ของเขาหลอกจ้า สามีของฉันเขามีความคิดเป็นของตัวเอง มีโลกส่วนตัวสูง การที่เขาแยกตัวออกจากครอบครัวเขาตั้งแต่เขาเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัยมันก็ทำให้เขา ชอบการอยู่คนเดียว ชอบการมีชีวิตในแบบของเขา เขาจะไปหาพ่อแม่ก็เฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ อะไรทำนองนั้น ซึ่งฝรั่งส่วนใหญ่ที่นี่เขาก็ทำกันคือไม่ต้องรอเรียนจบ จบแค่มัธยมปลายก็แยกย้ายกันไปทำมาหากินกันเอาเอง อยากเรียนต่อก็หางานพิเศษทำเอา หรือจะกู้รัฐบาลเรียนก็แล้วแต่ การส่งตัวเองเรียน หาค่าเช่าห้องเอง หาค่าเทอมเอง หาค่ากินเอง มันก็ทำให้เขาไม่ค่อยจะคิดเรื่องตอบแทนบุญคุณเป็นเงินเป็นทองให้กับพ่อแม่ของเขาเสียเท่าไหร่ อีกทั้งพ่อแม่เขาไม่ได้หวังว่าจะได้อะไร แค่มาหากันบ้างตามสมควรก็ดีถมไปแล้ว แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยสำหรับฝรั่งบางคนที่ยังอยู่ใต้ชายคากับพ่อแม่นานจนเบื่อขี้หน้ากันไป ส่วนใหญ่คนพวกนี้ก็จะไปไม่ค่อยรอด เลยต้องอยู่ในห้องใต้ดิน หรือไม่ก็ที่โรงเก็บรถของพ่อแม่ แล่นแต่เกมส์ไปวัน ๆ ก็มีเด้อจ้า ระวังให้ดีเด้อจ้า พวกนี้ไม่ยอมโต ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รู้จักทำมาหากิน กว่าจะคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว พ่อแม่เบื่อระอาไปตาม ๆ กัน   

โชคดีนะที่สามีฉันผ่านจุดนั้นมาแล้ว และเขาก็ไม่ต้องเพิ่งพาพ่อแม่เขา ไม่มีแต่จะขอความช่วยเหลือ นางว่าถ้าเดือดร้อนอะไร จะขอทำใจเสียดอกกู้แบงค์เอาดีกว่า เพราะว่าไม่งั้น แม่เขาจะมาวุ่นวายกัชีวิตเขาไม่จบไม่สิ้น แบบว่าต้องมากตั้งกฎเกณ แบบว่า ต้องมากินมื้อค่ำกับฉันทุกวันศุกร์ แล้วฉันจะให้เงินเธอ สองล้านบาทเอาไปซื้อรถ อะไรทำนองนั้น สามีฉันเขาจะโทรหาพ่อแม่ก็เฉพาะจำเป็นจริง เช่นวันเกิด วันตาย วันเจ็บ วันป่วย และเทศกาลต่าง ๆ เขาเรียนไปทำงานไป พอเรียนจบเขาก็ออกเดินทางไปเที่ยวเกือบจะรอบโลก ตั้งแต่ยุโรป ออสเตียเลียและแถมเอเชีย จนหลงรักในวัฒนธรรมของแถมเอเชียตะวักตก และเลยอยากได้เมียเป็นคนไทยอะไรทำนองนั้น เขาเริ่มจากการเป็นครูอาสาสมัครให้กับองค์กรณ์ของรัฐบาลที่ทำสัญญากันเป็นปีต่อปีถูกส่งไปสอนภาษาอังกฤษตามประเทศนั้นประเทศนี้ สอนไปเที่ยวไป เห็นโลกกว้างไปเรื่อย อยู่ประเทศนั้น ประเทศนี้ที ปีสองปีอะไรทำนองนั้น ซึ่งก็เลยเป็นเรื่องธรรมดาของลูกผู้ชายที่ไม่ค่อยจะติดพ่อติดแม่ซักเท่าไหร่ เขามีความคิดเห็นต่างไปจากพ่อกับแม่ของเขาโดยเฉพาะเรื่องความเชื่อทางศาสนา แต่หนูหิ่นขอไม่พูดถึงดีกว่า เพราะว่ามันเรื่องที่ละเอียดอ่อนจ้า 

แต่พอหลังจากที่เขาตัดสินใจแต่งงานกับฉัน เราสองคนก็ซื้อบ้านตั้งถิ่นฐาน เพื่อสร้างครอบครัวของเราเอง ซึ่งอย่างน้อยเราก็อยู่เมืองเดียวกับพ่อแม่พี่น้องของสามีและก็อยู่ไม่ไกลกันมากนัก สามีฉันและพวกเราก็เลยได้มีโอกาสติดต่อกับปู่ย่าของลูกสาวของพวกเรามากขึ้นไปโดยปริยาย เพราะว่าฉันเองก็จะคอยโทรหาแม่ย่า พ่อย่า พี่น้องของสามีเป็นประจำ โทรสอบถามสารทุกข์สุขดิบ เป็นประจำอย่างน้อยก็อาทิตย์ละครั้ง บางทีพ่อแม่สามีฉันก็ทำอาหารมื้อค่ำมื้อใหญ่ และก็เชิญ ลูกๆ หลานไปกินอาหารที่บ้านเขาอยู่เป็นประจำ ถ้าเป็นเมื่อก่อนสามีฉันอาจจะปฏิเสธ หรือไม่ก็ข้อหาข้ออ้างว่าไม่ว่าง ต้องทำงาน ต้องไปโน่นนี่กับเพื่อน ต้องทำงานเศษอะไรก็ว่าไป  

แต่ฉันไม่เคยปฏิเสธคำเชิญของใคร ๆ เลยตั้งแต่ฉันมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนี้ ใครก็ตามที่ตั้งใจเชิญเรา เราสามคนพ่อแม่ลูกก็จะไปตามคำเชิญ และทุกครั้งที่เราไปฉันก็จะมีอะไรติดไม้ติดมือไปตลอดไม่เคยขาด ช่วงแรก ๆ ฉันจะมีปัญหาเรื่องการจำชื่อญาติพี่น้อง ลูกหลาน ลูกพี่ลูกน้อง พี่ป้าน้าอาของสามีฉันไม่ได้ แต่พอฉันอยู่ไปอยู่ไปนาน ฉันก็พอจะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่มันก็ค่อย ๆ จำไปได้เอง จะจำไม่ได้ก็เฉพาะพวกลูกพี่ลูกน้องที่เป็นสะใภ้หรือเขย หรือว่า ลูกหลานของป้ากับอาของเขา เพราะว่า มันแตกหนอออกผล จนฉันเองก็ลืมไปบ้างนะจ๊ะ  

วันดีคืนดี ตอนที่สมัยพ่อย่าฉันยังมีชีวิตอยู่ พ่อย่าและแม่ย่าของฉันก็จะพากันมาที่บ้านของฉันโดยที่ไม่ได้บอกกับพวกเราล่วงหน้า และก็มาตอนที่ฉันไม่สบาย และก็เพิ่งจะกินยาไปได้ไม่นาน แล้วยามันออกฤทธิ์ ทำให้ฉันง่วงนอน และฉันก็ต้องนอน ฉันบอกกับสามีฉันว่า  

“ถ้าฉันง่วงฉันก็จะนอน และก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ ก็พวกเขาอยากมา โดยไม่ได้บอกล่วงหน้า แล้วฉันก็ไม่สบาย ปวดหัว มาก ฉันต้องกินยา แล้วยานี้มันก็แรง ถ้าฉันนอนหลับบ่นโซฟา ก็ไม่ใช่ความผิดของฉัน ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากตอนรับขับสู้ แต่คนเรามันเจ็บป่วย มันห้ามกันไม่ได้” แต่นั่นก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ หลอกคะคุณขา เพราว่าฉันนะมันเป็นพวก ศรีทนได้ ทนทุกสถานการณ์ ฝนตก ฟ้าร้อง หิมะท่วมฉันนะโคถึก โคนัน ว่ากันแบบนั้นเลยละคะ 

สรุปก็มีแค่วันนั้นวันเดียวละมั้ง ที่ฉันนอนหลับบ่นโซฟา หลังจากที่พ่อแม่สามีฉันมาถึงบ้านได้ไม่ถึงสิบห้านาที สามีฉันก็ต้องทำหน้าที่ต้อนรับพ่อแม่ของตัวเองไปตามระเบียบ ส่วนลูกสาวของพวกเราก็ยังเล็กเกินกว่าจะรับรู้ เล่นซนไปตามภาษา หลังจากพ่อย่าแม่ย่าฉันกลับไปซักพัก ฉันก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นเหมือนกับว่าฉันแกล้งป่วยการเมือง สามีฉันบอกว่า ฉันทำได้ดีมาก พ่อแม่เขาจะต้องเรียนรู้และรู้จักยกหูโทรศัพท์บอกล่วงหน้า คนป่วยก็ต้องนอน ซึ่งลูกชายของเขาทั้งสองคน สามีฉันก็เป็นแบบว่า ไม่ต้องการสมบัติพัดสถานอะไรจากพ่อแม่ทั้งสิน นางบอกว่าอะไรที่ทำแล้วสบายใจ ทำเลย ไม่ต้องเรื่องมาก และก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อใคร แค่ทำอะไรแล้วถูกใจเรา และไม่เดือดร้อนคนอื่นก็พอ ฉันก็เลยโชคดีไปจ้า ที่มีสามีที่ไม่ได้เข้าข้างแต่พ่อแม่ของเขานะจ้า 

แต่สิ่งหนึ่งที่สามีฝรั่งของฉันได้จากแม่ของนางแบบเต็ม ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องความเจ้าระเบียบ ฮะ ๆ แต่ก็ต้องขอสมน้ำหน้าสามี และแม่ย่าของหนูหิ่นนะคะเพราะว่า ลูกสะใภ้ ภรรยาคนดีคนนี้ เป็นเด็กบ้านนอกคอกนา กินง่าย นอนง่าย และขาดระเบียบวินัย แบบแผนใดก็ไม่มีจ้า แม่ฉันก็เลี้ยงฉันแบบว่า บัฟเฟย์ คือ หากินเอาเอง อยากจะทำอะไรก็ทำ อยากจะกินตรงไหน นอนตรงไหนก็เอาตามใจ เอาตามสะดวก เรียกว่า ไม่มีกฎ ไม่มีอะไรตายตัว ยิ่งตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็อยู่หอ แถมต้องทำงานอีก ห้องฉันก็คือห้องสำหรับใช้ซุกหัวนอนก็เท่านั้นจ้า หาระเบียบไปเจอไปโดยละมอม ฮะๆ   

ยายฉันเป็นคนไทยที่มีเชื้อสายจีน ที่ก็มีความเป็นระเบียบขี้บ่น ช่างเจรจา ค้าขายเก่ง ทำอาหารเก่ง และก็มีครอบครัวที่ใหญ่โต มีลูกมีหลานเต็มบ้าน เต็มเมือง เรียกว่าเวลามีงานที ไม่ต้องเชิญแขก แค่ลูกหลาน เหลน โหลน ญาติ พี่น้องก็เต็มงานไปหมดแล้วจ้า  

ส่วนเรื่องอาหารการกิน ฉันก็ต่างจากพ่อย่าแม่ย่าของฉันคนละคั่ว เขาสองคนกินไม่ได้เลยสักนิด แต่ดันมีลูกสะใภ้ที่กินเผ็ดเอามาก ๆ มาก จนเรียกว่า เข้าโรงพยาบาลรักษาโรงกระเพาะและลำไล้ใหญ่กันประจำ ชีวิตนี้ถ้าให้เลือก พริกน้ำปลา กับ น้ำสลัด ฉันก็ยังคงจะเลือกพริกน้ำปลาที่ใส่พริกขี้หนูสดทั้งสวนดีกว่าคะคุณขา  

ถ้าผู้หญิงไทยคนไหน ที่เกิดและเติบโตที่เมืองไทย ไม่ว่าจะมาจากภาคไหนของไทย แล้วต้องแต่งงานกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ ยุโรป อเมริกาเหนือ แล้วทำเป็นหัวสูง ลืมตัว ลืมน้ำพริก น้ำปลา บอกเลยว่านางทั้งหลายกำลังหลอกตัวเองจ้า หลอกใครก็หลอกได้ แต่อย่าหลอกตัวเอง เพราะว่ามันจะหลอกได้ไม่นานหลอกจ้า  

ฉันอาจจะไม่ได้เกิดมากับการกินข้าวเหนียว แต่ฉันก็เกิดมาจากครอบครัวที่ชอบกินข้าวสวย แกงเผ็ด ขนมจีนน้ำยา เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ ที่อยู่ในเมืองใหญ่คงจะไม่ได้ชอบกินอาหารไทยมากมายสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันไม่เท่ มันไม่เก๋ไม่เป็นอินเทรน มันไม่แฟชั่น เรื่องแบบนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า กระกระเป๋าตังค์ของใครของมันแล้วกันนะคะ ส่วนหนูหิ่นคนดีคนเดิม ต่อให้เอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอม 

คุณรู้ไหมว่าฝรั่งบางคนเข้าหอบหิวตัวเองข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนทำอาหารไทย ต้องจ่ายเงินค่าเรียนกันแพง ๆ เพียงเพราะว่าเขาอยากเรียนทำผัดไทย อยากเรียนทำแกงเขียวหวาน อยากเรียนทำต้มยำกุ้งกันตั้งมากมาย  

จงพอดี พอใจกับความเป็นไทยของเราเถอะคะ บรรพบุรุษไทยคนรุ่นก่อนทำไว้ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินคนไทยไม่เคยแพ้ชาติใด ๆ ในโลกนะจ๊ะ ๆ จะบอกให้ 

ตอนต่อไปหนูหิ่นจะเล่าเรื่องต่าง ๆ อีกมากมาย กับชีวิตเมียฝรั่งคนนี้นะคะ ขอบคุณมากคะที่ติดตามกัน เจอกันตอนหน้านะคะ รักนะจุ๊บ ๆ 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว