สายลมหนาวพัดโชยในค่ำคืนหนึ่ง ก่อให้เกิดน้ำค้างแข็งจับตัวหนาบนหลังคากระเบื้องเคลือบสีฟ้าของคฤหาสน์ตระกูลกวน
คฤหาสน์ตระกูลกวนใหญ่โตโอ่อ่า เมื่อมองจากภายนอก เห็นกำแพงเป็นปราการแน่น หมู่เรือนและห้องหับภายในคฤหาสน์ปลูกสร้างไว้อย่างวิจิตรงดงามดุจสวนบุปผาไม่ต่างจากวังหลวง
หลังจากย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง บรรดาสาวใช้บ่าวไพร่ก็ยุ่งวุ่นวายเป็นพิเศษ เงินค่าเสื้อผ้าสำหรับใส่ในฤดูหนาวถูกแบ่งสันไว้ บรรดาช่างทอผ้ามาวัดตัวไม่นานนักเสื้อผ้าตัดใหม่กองใหญ่ก็ถูกส่งมายังคฤหาสน์ บรรดาสาวใช้ก็หอบเอาผ้าห่มผืนงาม เสื้อคลุมตัวสวยมาสวมใส่ให้แก่เจ้านายของตน
คุณหนูใหญ่และคุณชายรองต่างตัดเสื้อคลุมสีเดียวกันรูปแบบลายปักเหมือนกันแตกต่างกันเพียงขนาดตัวเสื้อซึ่งต้องตัดให้สอดคล้องตามขนาดตัวผู้สวมใส่ชายหญิงเท่านั้น คุณชายสามได้รับชุดล่าสัตว์ทำจากขนจิ้งจอกแดง ยามขึ้นควบขี่อาชาสูงสง่าดูราวกับเปลวเพลิง บุรุษคนใดในเมืองล้วนไม่สามารถไล่ติดตามได้ทัน
ส่วนเสื้อผ้าของคุณหนูสี่นั้นตามธรรมเนียมแล้วจะถูกส่งมาจากที่อื่น
สาวใช้สองคนช่วยกันประคองกล่องบุผ้าลวดลายวิจิตรงดงาม เดินผ่านระเบียงยาวคดเคี้ยวมาจนถึงโถงหลักเรือนหน้า บานประตูสลักเสลารูปดอกไม้ถูกผลักเปิดออก อากาศอบอุ่นกระทบผิวกาย ให้ผู้คนรู้สึกสบายเป็นพิเศษ
ห้องหับในคฤหาสน์ตระกูลกวนนั้นที่ใต้พื้นล้วนมีกระแสน้ำร้อนไหลผ่าน แม้ภายนอกห้องจะหนาวเย็นสักเพียงใด ภายในห้องกลับยังคงอบอุ่นเหมือนดั่งอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ แม้จะเดินเท้าเปล่า ฝ่าเท้าก็ยังคงรู้สึกอุ่นสบาย
“คุณหนู เสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวส่งมาถึงแล้วเจ้าค่ะ" กล่องบุผ้าที่มีสายรัดผ้าแพรผูกอยู่ถูกยกเข้ามา
ภายในห้อง โฉมสะคราญนางหนึ่งกำลังเอนพิงกายอยู่บนเตียงอ่อนนุ่มเหล่าคุณหนูคุณชายตระกูลกวนล้วนแต่รูปงามชวนให้ตะลึง นางเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน รูปร่างหน้าตาของกวนเนี่ยนซูงดงามสดใส ดวงตาเป็นประกายอ่อนโยนราวกับแม่น้ำในฤดูใบไม้ผลิ ดูคล้ายมีร่องรอยน้ำตาคลอแฝงอยู่ ช่างทรมานใจผู้คนยิ่งนัก
นอกจากรูปโฉมอันงดงามแล้ว สิ่งที่ต้องตาผู้คนที่สุดก็คือพิณสะกดใจซึ่งได้รับสืบทอดมาจากตระกูลเก่าแก่ฝั่งมารดาบังเกิดเกล้า ทั้งนี้ความสามารถในการบรรเลงเพลงพิณของแม่นางน้อยผู้นี้ก็ไม่เป็นสองรองใคร แม้จะบรรเลงด้วยพิณธรรมดาก็ยังคงไพเราะจับใจจนคนเคลิ้มไหวชื่อเสียงเรียงนามของนางเป็นที่เลื่องลือมานับแต่เป็นเด็กหญิงอายุอานามไม่กี่หนาวแล้ว อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นตัวคนหรือพิณก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งล้ำค่าทั้งสิ้น
กวนเนี่ยนซูกะพริบตาปริบ ๆ แล้วหยัดกายลุกขึ้นนั่ง สายตาจับจ้องไปที่กล่อง
“เปิดออกดู" นางพูด น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวาน
บรรดาสาวใช้ขานรับคำหนึ่ง อดใจรอไม่ไม่ไหวที่จะปลดสายรัดออกอยากจะชมดูเร็ว ๆ ว่าเสื้อผ้าที่ส่งมาในปีนี้จะเป็นแบบใดกัน
เมื่อกล่องเปิดออก สาวใช้ทุกคนต่างก็ร้องชมเชยเป็นเสียงเดียวกัน
ที่อยู่ในกล่องคือเสื้อคลุมไม่มีแขนที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง เสื้อคลุมตัวนี้ด้านนอกด้านในแบ่งเป็นสองสี ด้านนอกเป็นสีขาว ด้านในเป็นสีดำ ไม่ว่าด้านไหนก็ล้วนแต่มีชนที่หน้านุ่มเงางาม ทำให้ผู้คนที่ได้แลเห็นนั้นต้องตะลึง ยามไล้ผ่านผิวกายก็ให้ความรู้สึกถึงสายลมอุ่นในฤดูไปไม้ผลิ แต่เมื่อสวมใส่ก็เก็บรักษาความอบอุ่นได้ดีเป็นพิเศษ สามารถต้านทานลมหิมะได้
“คุณหนู มาลองดูเถิดเจ้าค่ะ" สาวใช้ข้างกายหยิบชุดขึ้น ปรนนิบัติช่วยนางสวมใส่ แล้วบรรจงผูกสายรัดผ้าแพรให้นาง
เสื้อคลุมตัวนี้ตัดเย็บตามรูปร่างของนาง เส้นขนเนียนละเอียดไม่มีสีอื่นเจือปนแม้สักครึ่งเส้น ฝีมือตัดเย็บก็ยังละเอียดประณีตจนกระทั่งไม่เห็นตะเข็บรอยต่อทั้งสองด้าน เสื้อคลุมแบบนี้ตัดเย็บเพียงด้านเดียวก็ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นถึงกับต้องตาค้างแล้ว แต่นี่กลับตัดเย็บถึงสองด้าน!
“ช่างงดงามจริง ๆ" กวนเนี่ยนซูเอ่ยเสียงเบา มือขาวนุ่มลูบไล้ไปตามขนหนานุ่ม ถูกอกถูกใจเสื้อคลุมตัวใหม่เป็นอย่างยิ่ง
“คุณชายหวังกั่วอันช่างตาถึงจริง ๆ เสื้อผ้าที่จัดส่งมาให้ท่านทุกฤดูกาลล้วนเหมาะสมกับท่านยิ่งนัก" สาวใช้คนหนึ่งเอ่ยขึ้น รู้สึกอิจฉาเจ้านายสาวที่ยังไม่ทันออกเรือนไป คู่หมั้นก็คอยดูแลเอาใจใส่ถึงเพียงนี้ รอจนแต่งงกันดูท่าคงจะทั้งรักทั้งหลงนาง ทะนุถนอมนางราวกับไข่ในหินเป็นแน่
มือน้อย ๆ บนเสื้อคลุมพลันหยุดชะงัก ใบหน้างดงามขาวซีดลงไปมากสาวใช้ข้างกายใช้สายตามอง นิ้วชี้แตะริมฝีปากส่งเสียงจุ๊เป็นเชิงห้าม
สาวใช้คนนั้นเม้มปากพลางหดคอลง ไม่รู้ว่าตนเองพูดผิดตรงไหน แต่ว่าพอกล่าวถึงคุณชายหวัง ไยคุณหนูของตนจึงต้องสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างราวกับได้ยินเรื่องภูตผีปีศาจด้วยเล่า
นางบ่นพึมพำพลางประคองกล่องขึ้น ขณะกำลังจะปิดกล่องกลับพบว่าข้างในยังมีของสิ่งอื่นอยู่อีก
“อ๊ะ! ในกล่องยังมีกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง" สาวใช้น้อยร้องอย่างยินดี
อะไรหนอ สารรักจากคุณชายหวังหรือเปล่า
สาวใช้ข้างกายขมวดคิ้วประคองกล่องเข้ามา เอ่ยปากอย่างระมัดระวัง ๆ
“คุณหนู ดูท่าจะเป็นจดหมายเจ้าค่ะ"
กวนเนี่ยนซูจ้องกระดาษแผ่นั้นเขม็ง ใบหน้าขาวซีดราวกับว่าสิ่งที่เห็นอยู่ในกล่องไม่ใช่กระดาษแต่เป็นอสรพิษร้ายตัวหนึ่ง! นางสูดหายใจลึกถี่ ๆ เพื่อรวบรวมความกล้า ผ่านไปครู่หนึ่งจึงยื่นมือน้อย ๆ ที่สั่นเทาไปหยิบจดหมายขึ้นมา
บนกระดาษแผ่นบางมีอักษรตัวใหญ่เขียนอย่างงดงามดูมีชีวิตชีวิตชีวาไม่กี่ตัว ลายเส้นงดงามอ่อนช้อยแต่หนักแน่นซึมผ่านไปยังอีกด้านของกระดาษ
“ข้าจะไปสู่ขอเจ้าในเร็ววัน”
อารมณ์ซึ่งแฝงอยู่ในอักษรที่ร้อยเรียงกันอยู่นั้นช่างแข็งกร้าวถืออำนาจเหมือนเขาไม่ผิดเพี้ยน ไร้ซึ่งการโอนอ่อนใด ๆ
เบื้องหน้าของนางมืดมิดลง ฝ่ามือคลายออก จดหมายค่อย ๆ ร่วงหล่นลงสู่พื้น
“อ๊ะ! คุณหนู!" เหล่าสาวใช้ร้องด้วยความตกใจ กระวีกระวาดรับร่างนายสาวที่เป็นลมล้มพับไป
นางหมดสติไปเสียแล้ว!