กลิ่นหอมจางของดอกไม้ลอยปะปนอยู่ในอากาศ… ไม่ใช่กลิ่นที่น่าหลงใหล แต่เป็นกลิ่นที่ “เขาจำได้” โดยไม่รู้ว่าเคยลืมไปเมื่อไหร่
ธาม
ผมเอนหลังพิงพนักโซฟาหนังสีเข้ม ภายในห้องรับรองส่วนตัวของบริษัท แสงกลางวันลอดผ่านกระจกใส สะท้อนภาพตัวเองกลับหัวกลับหางในนั้น เรียบเฉียบ เยือกเย็น เหมือนทุกวัน
แต่ลึกลงไป… มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
กลิ่นที่ลอยมากับช่อดอกไม้ตรงหน้า บางเบา ทว่าชัดเจนพอจะหยุดทุกความคิดที่เคยวิ่งวนอยู่ในหัว ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดอกไม้ชนิดนี้ชื่ออะไร แต่ผมจำมันได้ แม้ไม่เคยตั้งใจจะจำ
มือผมค้างอยู่บนแป้นคีย์บอร์ด อีเมลสำหรับลูกค้ารายสำคัญยังพิมพ์ไม่จบ ทว่าความเงียบในห้องกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงที่ดังที่สุด… เสียงของความทรงจำบางอย่างที่ตื่นขึ้นมา โดยไม่ขออนุญาต
“ความรู้สึก” ไม่ควรจะควบคุมผมได้ แต่มันกำลังทำอยู่… อย่างเงียบงัน และลึกซึ้ง
ผมเคยคิดว่าทุกสิ่งในชีวิตควรมีแผนสำรอง แต่วันนี้ผมรู้แล้วว่า “หัวใจ” อาจเป็นสิ่งเดียวที่ไม่มีแผนนั้นอยู่เลย
ไอริณ
มือฉันกำลังจัดเรียง เดลฟิเนียมสีขาว ลงบนกระดาษห่อสีน้ำตาลอ่อน มันเป็นดอกไม้ที่มักถูกมองข้าม ไม่ใช่เพราะไม่สวย แต่เพราะมันดูห่างไกลเกินเอื้อม
แต่สำหรับฉัน… มันคือดอกไม้ที่พูดอะไรได้มากกว่าคำว่า ‘รัก’
“ส่งไปตึกแห่งหนึ่งในเมืองกรุงก่อนบ่ายนะพี่มิ่ง” ฉันเอ่ยพลางยื่นช่อที่ห่อเสร็จแล้วให้ชายส่งของ
ไม่รู้หรอกว่าคนรับเป็นใคร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาต้องการมันด้วยเหตุผลอะไร แต่ฉันเชื่ออย่างเงียบ ๆ ว่า ดอกไม้บางช่อไม่ได้ถูกส่งไปเพราะความรู้สึก แต่อาจเพราะ “ความทรงจำ” ที่ไม่มีใครพูดถึง
บางครั้งดอกไม้ไม่ได้บอกว่าคุณรักใคร แต่มันบอกว่าคุณเคย “กลัว” อะไรบางอย่างมากแค่ไหน
ห้องรับรองของธาม
ชายหนุ่มในสูทสีเข้มยืนเงียบอยู่หน้ากระจก มือข้างหนึ่งแตะสันจมูกเบา ๆ เขาไม่ได้ป่วย… เขาเพียงพยายามหายใจ “ให้พ้น” ความทรงจำที่กลิ่นนั้นกระตุกขึ้นมา
บนโต๊ะไม้ด้านหลัง เป็นช่อดอกไม้สีขาว เรียบง่าย ไร้ที่ติในสายตาคนทั่วไป แต่สำหรับเขา มันไม่ธรรมดา
มันเหมือนกล่องความทรงจำที่ไม่มีใครตั้งใจจะเปิด ทว่ามันกลับเปิดออกเองโดยไม่ขออนุญาต
ร้านดอกไม้ของไอริณ
หญิงสาวเช็ดเศษกลีบดอกไม้ที่ร่วงลงพื้น วิทยุเปิดเพลงแจ๊สบอสซ่าคลอเบา ๆ อยู่ในร้าน
เธอหยุดมองออกไปนอกกระจก รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่กำลังจะเคลื่อนเข้ามาในชีวิต ไม่ใช่ในรูปของพายุ แต่ในรูปของ… สิ่งที่เธอไม่สามารถควบคุมได้
ธามคิดว่าเขาเอาชีวิตรอดมาได้เพราะการไม่ปล่อยให้ความรู้สึกมามีบทบาท แต่กลิ่นดอกไม้เพียงช่อเดียว… กลับทำให้เขาไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เขาซ่อนใต้พรมมาตลอดชีวิต ยังคงหลับใหลอยู่จริงหรือเปล่า
ไอริณไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนใคร เธอแค่ “ปลูกบางอย่าง” ไว้เงียบ ๆ เผื่อวันหนึ่ง ใครคนนั้นจะกล้าก้าวออกมาจากกำแพงของตัวเอง แล้วเห็นว่า… เธอยืนอยู่ตรงนั้นเสมอ
และถ้าทั้งหมดนี้… ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะบังเอิญ บางที “ความรัก” ครั้งนี้ อาจไม่ได้เริ่มจากการตกหลุมรัก แต่อาจเริ่มจากการ “สะดุด” บาดแผลที่ยังไม่เคยหายของกันและกัน