"สถาบัน องค์กรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศเริ่มกดดันเรียกร้องให้พลเอกจินดาลาออกจากตำแหน่งและให้ยุติการฆ่าประชาชน หลายจังหวัดมีการชุมนุมขับไล่พลเอกจินดา ยังคงมีการปะทะกันระหว่างทหารกับประชาชนต่อเนื่องหน้ากรมประชาสัมพันธ์ มีการประกาศเคอร์ฟิวในท้องที่กทม.
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีประชาชนนับแสนมาชุมนุมกัน
พลเอกจินดาออกแถลงข่าวเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพียง 40 คน บาดเจ็บ 600 คนเท่านั้น
เวลา 23.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้พลเอกจินดาและพลตรีจลองเข้าเฝ้า
"เมื่อในหลวงทรงมีพระเมตตาเช่นนี้แล้วคงยุติเหตุการณ์ด้วยดีนะคะ" พิมราพูดเบาๆ
ทุกคนพยักหน้าและมองภาพในโทรทัศน์
ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่า
"หากเผชิญหน้ากันต่อไปเมืองไทยมีแต่ล่มจมลงไป ฉะนั้นจะต้องแก้ไขฉะนั้นก็ขอให้โดยเฉพาะสองท่านช่วยกันคิดหรือหันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เผชิญหน้ากัน เพราะว่าเป็นประเทศของเรา ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคนสองคน เป็นประเทศของทุกคน เข้าหากันไม่เผชิญหน้ากันแก้ไขปัญหาเพราะปัญหามีอยู่ ที่เวลาเกิดจะใช้คำว่าบ้าเลือด เวลามีคนปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัว
ลงท้ายคนเขาไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไรเพียงแต่ว่าต้องเอาชนะ แล้วใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดคือประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศไม่ใช่ ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ถ้าสมมติว่า เฉพาะในกรุงเทพมหานครเสียหายไป ประเทศไทยก็เสียหายไปทั้งหมด แล้วก็จะมีประโยชน์อะไรที่จะทนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง
อันนี้เป็นเหตุผลที่เรียกท่านทั้งสองมา และเชื่อว่าท่านทั้งสองก็เข้าใจว่า จะเป็นผู้ใดที่ได้สร้างประเทศจากซากปรักหักพัง แล้วก็จะได้ผลในส่วนตัวมากกว่าได้ทำดี แก้ไขอย่างไร ก็แล้วแต่ที่จะปรึกษากัน ก็มีข้อสังเกตดังนี้ ท่านประธานองคมนตรี ท่านองคมนตรีเปรมก็เป็นผู้ใหญ่ผู้พร้อมที่จะให้คำปรึกษาหารือกัน ด้วยความเป็นกลาง ด้วยความรักชาติเพื่อสร้างสรรค์ประเทศให้เข้าสู่ความปลอดภัยในเร็ววัน ขอฝากให้ช่วยกันสร้างชาติ"
ต่อมาพลเอกเปรมและพลตรีจลองพร้อมด้วยนายสัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองคมนตรีและพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษร่วมประชุมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นพลเอกจินดาและพลตรีจลองออกมาแถลงร่วมกัน
"ผมจะปล่อยตัวพลตรีจลอง ศรีเมือง จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ชุมนุม และผมจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด" พลเอกจินดาประกาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ส่วนพลตรีจลองเรียกร้องให้ประชาชนยุติการชุมนุม
พลเอกจินดาลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี วันที่ 10 มิถุนายน 2535 รวมอยู่ในตำแหน่ง 64 วัน
หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคสยาม โดยแกนนำเตรียมการที่จะเสนอรายชื่อบุคคลเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรี
ดร.อาทิตย์ ไรรัตน์ เรียกตุลย์เข้าหารือเป็นการส่วนตัวโดยมีนายทหารคนหนึ่งซึ่งตุลย์คุ้นเคยดีเข้าร่วมหารือด้วย
"พี่อาทิตย์ครับ ผมคาดว่าพรรคชาติไทคงเสนอชื่อคุณสม หงษ์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแน่ ผมเห็นว่าน่าจะมีคนเหมาะสมกว่านั้น รัฐธรรมนูญไม่กีดกั้นคนนอก"
"ตุลย์...พี่เตรียมคนเป็นนายกฯ ที่ไม่ใช่คุณสมไว้แล้ว!"
10 มิถุนายน แกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสนอนายสม หงษ์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่นายอาทิตย์ ไรรัตน์รองหัวหน้าพรรคสามัคธรรมในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร และรักษาการประธานรัฐสภาตัดสินใจนำชื่อนายนันท์ ยารชุนขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
13 กันยายน มีการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ พรรคประชาธิปัตย์มีเสียงมาเป็นลำดับหนึ่ง นายชาติ หลบภัยได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ต้นปี 2536 ในเดือนมกราคมผู้บริหารโคซิโอเรียกร้องให้ทีมงานมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองโดยให้พิจารณาจับตาไปที่พรรคการเมืองใหญ่ๆ
พวกเขาเลือกพรรคกาจสังคม พรรคชาติไทและพรรคประชาปัตย์
หัวหน้าพรรคทุกคนมียศศักดิ์และฐานะทางสังคมสูงทุกคน
"ในความเห็นและฐานข้อมูลของเรา หัวหน้าพรรคกิจสังคมม.ร.ว.ฤทธิ์ ประโมชและหัวหน้าพรรคประชาปัตย์ม.ร.ว.เสย์ ประโมชอยู่ในสกุลเชื้อเจ้า พอมาดูพรรคชาติไทบ้างพลเอกชาติ ก็มาจากคนมีชาติมีตระกูลมีฐานะทางสังคม มีกำลังสนับสนุนทางการเงินและธุรกิจ ขับเคลื่อนพรรคจากธุรกิจในกรุงเทพฯ ทั้งสิ้น พรรคกาจสังคมดึงดูดนักธุรกิจ นายธนาคารและนักการเงินสมัยใหม่ เฉพาะอย่างยิ่งพวก ที่ร่วมลงทุนกับบริษัทต่างชาติ
พรรคชาติไทได้แรงสนับสนุนจากอุตสาหกรรมสิ่งทอและธุรกิจกับญี่ปุ่น " พวกอดิเรกมีกิจการร่วมทุนกับอุตสาหกรรมประเภทนี้มาก ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงมีผลประโยชน์ร่วมกัน" เอกรินทร์ซึ่งจับสายแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอยืนยันความสัมพันธ์ของธุรกิจการเมือง
"แต่พรรคประชาไตยก็มีนายทุนจากธุรกิจเกษตรขนาดใหญ่หนุนหลังเหมือนกัน" ตุลย์ให้ข้อมูลจากตัวเลขที่เขามีอยู่ในมือ
"พวกธนาคารสนับสนุนพรรคไหน" สหชาติยกประเด็นนี้ขึ้นมาถาม
"แบงค์เป็นตัวนำในภาคธุรกิจไม่ใช่ทางการเมือง แต่แบงค์มีอิทธิพลอยู่ในทุกพรรค ถึงแม้จะไม่ได้โยงใยกับพรรคใดพรรคหนึ่งแบบเจาะจงลงไป" ตุลย์ยืนยันอีกครั้ง
แต่เดิมนั้นทั้งสามพรรคใหญ่ นักธุรกิจมักมีส่วนครอบงำทิศทางและแนวทางตลอดจนนโยบายของพรรค "ต่อมา เมื่อท้องถิ่นขยายตัวจังหวัดขยายตัวเจริญรุ่งเรือง เศรษฐกิจเจริญขึ้น เถ้าแก่กลายเป็นนักธุรกิจร่ำรวยและมาเล่นการเมืองเป็นส.ส. มีบทบาท ควบคุมพรรคสำคัญๆ" ตุลย์หยิบข้อมูลจากฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่ปีเตอร์ ชุงวางระบบไว้
ทีมงานเห็นว่าฐานข้อมูลมีข้อเท็จจริงมาก จึงขอให้มีการวิเคราะห์การเติบโตของส.ส.ที่เติบโตจากเศรษฐกิจ-ธุรกิจต่างจังหวัด
"ส.ส. เหล่านี้หลายคนมาจากลูกหลานคนจีนอพยพรุ่นหลังแล้ว บางคนมาจากตระกูลข้าราชการเก่า กฎระเบียบเลี่ยงได้ เพราะธุรกิจใช้เงิน "ซื้อ"ได้ บางคนร่ำรวยจากธุรกิจผิดกฎหมายก็มี เช่นค้าไม้เถื่อน ลักลอบนำสินค้าผ่านแดนโดยเลี่ยงกฏหมาย จับจองที่ดินหลวงเป็นของตัวเอง ทั้งหมดนี้มีค่าน้ำร้อนน้ำชา นักธุรกิจแบ่งกำไรเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือให้เป็นสิ่งของมูลค่าสูง ส.ส.ที่ร่ำรวยจากพื้นฐานแบบนี้ เป็นพวกโตมาจากรากหญ้า เชื่อมระหว่างชนบท ประชาชนในพื้นที่กับโลกภายข้างนอกพวกเขารู้จักและมีอิทธิพลร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการในพื้นที่จนถึงข้าราชการระดังสูงในจังหวัด
"ประชาชนพึ่งส.ส. ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องขี้ประติ๋ว ไปจนถึง ฝากลูกเข้าทำงาน ส.ส. ทำได้หมด" ตุลย์ยกตัวอย่าง ในการเลือกตั้ง ประชาชนผู้ออกเสียงเลือกตั้ง ส.ส. จะใช้ทุกวิถีทางในการได้ทุกเสียงจากชาวบ้าน
"ส.ส. ทันสมัยหน่อย ใช้วิธีบริหารคะแนน ตั้งเป้าหมายเป็นหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอไป ในการบริหารคะแนน และต้องบริหารพื้นที่และเวลาให้เป็นด้วย"
ตุลย์ซึ่งมีเพื่อนเป็นส.ส.กำลังอธิบายเทคนิคการหาเสียง
"การหาเสียงไม่ใช่อยู่ๆ เอารถไปตั้งเวทีหาเสียงแล้วเกณฑ์คนมาฟังนะ...ไม่ใช่อย่างนั้น"
"มันต้องเตรียมการและดูแลการกำหนดเวลา ใช้รถนำทางล่วงหน้าเข้าหมู่บ้าน ระดมประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไว้ก่อน รอผู้สมัครส.ส.มีการจัดตั้งให้เป็นระเบียบ แนะนำว่ามีส.ส.กำลังมาเป็นใครชื่ออะไร เบอร์อะไร ให้พ่อแม่พี่น้องมาคอยฟัง บางครั้งก็เปิดเพลงปลุกใจดังทั่วหมู่บ้าน" ตุลย์เล่า.................
"เมื่อส.ส. เข้าหมู่บ้าน เห็นถึงความพร้อม รู้ว่ามีจำนวนคนมากน้อยแค่ไหน ถ้ามากจริงๆ แสดงว่าหัวคะแนนในหมู่บ้านทำการบ้านได้ผล ต้องตบรางวัลเป็นเงินมากหน่อย เมื่อกลับถึงสำนักหาเสียงก็ขึ้นแผนผังการหาเสียงมีชื่อตำบลหมู่บ้านเขตเลือกตั้งประชากรผู้มีสิทธิ์ตลอดจนการประเมินว่าคะแนนที่จะได้จากการหาเสียง ถ้าขีดสีเขียว แสดงชื่อหมู่บ้านว่าไปมาแล้ว ได้ผลบวกลบและคะแนนกี่เปอร์เซ็นต์
ทำแบบนี้แหละ เมื่อบริหารเวลาให้ดี ก็จะครบทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ พอจะรู้ประเมินผลล่วงหน้าว่าเลือกตั้ง จะได้คะแนนคร่าวๆ เท่าไร และมักไม่พลาด ร้อยละ80-90มีความเป็นไปได้"
ตุลย์บอกว่าส.ส. ที่มีความรู้ด้านบริหารคะแนนและบริหารเวลาอยู่ในสภามีแค่ 2-3 คนเท่านั้น นอกจากนั้น ที่เหลือสุ่มใช้เงินซื้อเสียงอย่างเดียวหลายคนสอบตก
ส.ส. ที่เติบโตจากธุรกิจผูกขาดยางมะตอยและขึ้นสูงสุดระดับรัฐมนตรีถึงนายกรัฐมนตรีคือนายบรร ศิลปินอาชา
ส.ส. คุณภาพที่รู้จักบริหารคะแนนและบริหารพื้นที่และเวลาตลอดกาลอยู่สุรินทร์เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศคือนายสมบัติ ศรีสุรินทร์
ส.ส.คุณภาพที่เติบโตจากท้องถิ่นเป็นถึงรัฐมนตรีและบุกเบิกการกีฬาและทีมฟุตบอลรวมทั้งสนามฟุตบอลระดับโลกมีเท็คนิคการหาเสียงแพรวพราวคือนาย เนวิน ชิ้นชอบ
"คนเหล่านี้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง บางคนเคยเป็นนักกีฬาทีมชาติ เป็นนักเรียนเก่าจบไฮสกูลและมหาวิทยาลัยจากประเทศอังกฤษเป็นสุภาพบุรุษอังกฤษแต่เป็นส.ส.อยู่ในจังหวัดทางภาคอีสานบ้านเกิด"
ตุลย์พิจารณาจากข้อเท็จจริงรอบด้านเห็นว่าส.ส.คนนี้เป็นส.ส.น้ำดีได้รับเลือกตั้งทุกสมัยเคยเป็นรัฐมนตรีสมควรที่โคซิโอจะสนับสนุน
ยังมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างนักธุรกิจกับกองทัพที่นำไปสู่การยึดอำนาจของนายกรัฐมนตรีในช่วงปี 2531-2534
เป็นสัจธรรมของวงเวียนอุบาทว์ที่ประชาธิปไตยถูกกำหนดโดยการปฏิวัติ!
...............................................
5 มีนาคม 2536
ไกลออกไปห่างจากบ้านเรือนผู้คนในทะเลทรายยาชด์(Yaed) ประเทศอิหร่าน ทหารในหน่วยผลิตอาวุธจรวดและขีปนาวุธ เคลื่อนตัวไปช้าๆ พร้อมด้วยรถหุ้มเกราะจำนวน 5 คัน ไปสู่ฐานปล่อยจรวดที่ซุกซ่อนเป็นความลับ โดยมีนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งและพลเรือนหลายคนทหารตำแหน่งสูงในกองทัพรวมทั้งช่างเทคนิค 3 คนคือนาหิด, ซาโร้ชและชาห์ร่วมเดินทางมาด้วย
ก่อนหน้านี้ 6 เดือน หน่วยคอมมานโดนำโดยพันโทบาห์ราม อาซีสและลูกน้องได้บุกเข้าไปยังบ้านพักของนายสิทธิเดช บุณฑริกาข้าราชการไทย เขาเป็นผู้ครอบครองเหรียญสำคัญ เป็นเหรียญสุดท้ายที่มีรหัสต่อการพัฒนาระบบนำร่องใช้กับหัวรบขีปนาวุธ ที่รัฐบาลอิหร่านกำลังทำการเร่งผลิตขึ้นมาทดลองขีปนาวุธพิสัยกลางนี้โดยคาดหวังว่าจะทำให้ขีปนาวุธสามารถกำหนดเป้าหมายได้แม่นยำ หากไม่มีรหัสก็จะยิงไม่ถูกเป้า ไม่ตรงตามพื้นที่กำหนด
เว้นแต่มีระบบนำร่องใช้สำหรับติดตั้งบนหัวขีปนาวุธที่ได้จากเหรียญเดวิด เบน-กูเรียนเท่านั้น
...................................................
จากการใช้สายลับในเทลอาวีฟ ล่อซื้อด้วยการใช้เงินหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ รัฐบาลอิหร่านได้แผนผังเซอร์กิตบลูพริ้นท์ สองส่วนจากสามชิ้นในเทลอาวีฟได้สำเร็จ เชื่อว่าใช้วิธีที่จะได้มาซึ่งชิ้นส่วนสุดท้ายที่จะประกอบให้ผังวงจรครบสมบูรณ์ ต้องได้มาด้วยการโจรกรรมเท่านั้น
สายวงในของข่าวกรองอิหร่านในประเทศไทย ร่วมมือกับจารชนปากีสถานและรัสเซียเคจีบีทำการสืบค้นให้แน่ใจว่าผังวงจรอยู่ในเหรียญเดบิน เบน-กูเกรียนในไทยเป็นชนิดเช่นเดียวกับเหรียญในอิสราเอล และไม่ได้ฝากไว้ในตู้นิรภัยที่ธนาคารแต่เก็บไว้ที่บ้านซึ่งติดตั้งระบบไฟฟ้าป้องกันขโมยอย่างรัดกุม
หลังจากศึกษาเส้นทางเข้าบ้าน สภาพแวดล้อม พฤติกรรมของคนในบ้านรวมทั้งการเข้าออกของสิทธิเดชและภรรยาแล้ว หน่วยคอมมานโดนำโดยพันโทบาห์ราม อาซิสก็บุกเข้าบ้านสิทธิเดช ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองฯและได้ผังวงจรนำร่องไป
....................................................
กลับไปที่ทะเลทรายยาชด์(Yaed) นาหิต, ซาโร้ชและชาห์ ตรวจระบบนำร่องที่ติดตั้งบนหัวขีปนาวุธอีกครั้งเพื่อแน่ใจว่าการติดตั้งถูกต้องตามระบุในคู่มือทางวิทยาศาสตร์
นายทหารร่วมกับนักวิทยาศาสตร์เดินมาตรวจสอบระบบนำร่องซ้ำ
นับถอยหลัง.......เพื่อปล่อยขีปนาวุธเริ่มแล้ว
ขีปนาวุธถูกยิงออกจากแท่นยิง.....มันพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็วและสวยงามในสายตาของผู้เฝ้ามองทุกคนกลางทะเลทรายยาชด์
เมื่อหายลับจากสายตา ทุกสิ่งก็หยุด สงบ ไม่มีแม้แต่ลมพัด ทุกคนยืนนิ่งสักพัก
........ไกลออกไป ห่างจากพื้นที่ยิงขีปนาวุธ ใจกลางเมือง ขณะที่ชาวบ้านออกมาเดินในตลาดเพื่อซื้ออาหารสดแห้งตามปรกติ ได้ยินเสียงดังหวีดจากท้องฟ้า เหมือนเครื่องบินเจ๊ต บินอยู่เหนือท้องฟ้าเช้าวันนั้นไม่มีแม้แต่นกบินผ่าน ชาวบ้านหงายหน้ามองหวังเห็นเครื่องบิน กลับพบวัตถุที่ไม่ใช่เครื่องบินพุ่งตรงลงมา
แต่มันคือขีปนาวุธที่ตกตรงดิ่งลงมา ไม่ทันไรมันตกมาเร็วมาก กลายเป็นแรงระเบิดขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ชาวบ้านเคยเห็นมันมีอานุภาพรุนแรงทำลายชีวิตนับหมื่นที่เดินกลางตลาด อาคารบ้านเรือนโค่นพังยับเยิน ประชาชนโอดร้องล้มตายกันระเนระนาด ทั้งเมืองกลายเป็นทะเลเพลิงท่วมท้น ลุกลามคร่าชีวิตชาวบ้านกลายเป็นซากศพถูกเผาจนใหม้เกรียมนับพันนับหมื่นชีวิต ผู้เสียชีวิตดำเป็นตอตะโกกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดทั่วไปกลางตลาด อาคารบ้านเมืองโค่นพังลงพินาศฉิบหายยับเยิน
หลังจากขีปนาวุธตกลงใส่เมืองสร้างความวิบัติฉิบหายเกิดไปทั่วมันเกิดจากความผิดพลาดของระบบนำร่องถูกสร้างจากเหรียญที่ถูกสร้างเลียนแบบและมีผังวงจรระบบนำร่องที่ไม่มีรหัสถูกต้อง
.................................................
................เทลอาวีฟ...ห้องทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โมเช แอเร็นส์
"ขอภาพสไลด์ภาพแรก...นี่คือเหรียญเดวิด เบน-กูเรียนซ้ายและขวามือท่านสมาชิก ส่วนเหรียญซ้ายมือเป็นของเทียม ส่วนขวามือเป็นของจริง ทั้งสองเหรียญผลิตจากแม่พิมพ์ในโรงกษาปณ์เดียวกัน"
"ภาพต่อมา...เมื่อเราผ่าเหรียญออกมาจะพบแผ่นไมโครเซอร์กิตระบบนำร่องขีปนาวุธเท่านั้น แต่มันก็ยังสั่งการให้สามารถขับเคลื่อนขีปนาวุธออกไปได้คือยิงออกจากฐานได้"
โมเช่ แอเร็นส์สั่งให้เปิดไฟในห้องสว่างขึ้น
เขาอธิบายให้สมาชิกสภากลาโหมฟังว่า ข่าวกรองของอิสราเอลทราบแผนล่วงหน้าจากสายลับรัสเซียและวงในของศูนย์ปรมาณูในปากีสถาน ถึงความพยายามที่หน่วยสืบราชการลับและกองทหารรักษาความปลอดภัยผู้นำประเทศอิหร่านต้องการระบบนำร่องขีปนาวุธอิสราเอลไปใช้พัฒนาขีปนาวุธซึ่งยังขาดความแม่นยำ แม้ว่าปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์อิหร่านจะพัฒนาไปมาก กระทรวงกลาโหมจึงคิดโครงการจารกรรมระบบนำร่องของอิสราเอลมาใช้เพื่อนำมาใช้กับขีปนาวุธของตนเอง
"ผมรู้แน่ชัดว่ามีการเตรียมการล่วงหน้าหลายเดือน จึงจัดส่งเจ้าหน้าที่ในหน่วยมอสสาด 3 คนที่มีเชื้อสายอาหรับคือฟาเคียร์, คารีมและอาซาร์เข้าไปแทรกซึมอยู่ในบรรดาผู้ที่จะถูกคัดเลือก โชคดีมากทั้งสามคนได้รับการคัดเลือกเป็น 3 คนในทีมคอมมานโด 8 คนที่จะปฏิบัติการนอกประเทศ"
โมเชเปิดเผยว่าคนของมอสสาดได้รับความเชื่อถืออย่างมากในชุดปฏิบัติการของรัฐบาลอิหร่าน
"ผมอยากทราบว่าเขาได้ 2 เหรียญในประเทศอิสราเอลไปได้อย่างไร" สมาชิกสภากลาโหมท่านหนึ่งถาม "เราปล่อยข่าวว่ามีคนในสามารถลักลอบนำเหรียญออกมาได้ชั่วคราว แต่ต้องนำไปคืนภายใน 24 ชั่วโมง" โมเช่ตอบสั้นๆ
เขากล่าวว่าข่าวนี้แพร่เฉพาะถึงหัวหน้าหน่วยคอมมานโดอิหร่านซึ่งติดกับดัก...คนของทางการอิสราเอลอ้างกับกลุ่มคอมมานโดว่าเขาเป็นพวกทำงานด้านอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์และสื่อสารของสำนักงานในหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เก็บเหรียญไว้ เขาจะทำให้ระบบสื่อสารบางส่วนล่มใช้การไม่ได้ และจะเข้าไปขโมยเหรียญแต่เขาต้องการเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อหลบหนีออกนอกประเทศเมื่องานเสร็จ และเมื่อได้เหรียญแล้วเขาขออีก 2 ล้านจนกว่าจะนำเอาเหรียญคืน เขาจะขออีก 2 ล้านรวมกันเป็น 5 ล้านเหรียญ หัวหน้าหน่วย อธิบายว่ากระบวนการจ่ายเงินยุ่งยาก จะจ่ายครั้งเดียว 5 ล้านเมื่อได้เหรียญ และจะพิจารณาอีกครั้งเมื่อส่งเหรียญคืน
โมเชอธิบายว่าไม่มีการจารกรรม ทางเขาเตรียมเหรียญที่มีผังวงจรนำร่องไว้เรียบร้อยแล้ว แต่รอให้เวลาผ่านไปถึง 2 อาทิตย์เพื่อให้ดูว่าการที่จะขโมยเหรียญทำได้ยาก
เมื่อครบ 2 อาทิตย์โมเชมอบทั้งสองเหรียญให้นากิบซึ่งติดต่อกับพวกคอมมานโดอิหร่าน
พวกคอมมานโดอิหร่านเตรียมการมาอย่างดีเยี่ยม พวกเขามีอุปกรณ์สร้างแม่พิมพ์โดยถ่ายภาพ 3 มิติวงจรนำร่องกัดแม่พิมพ์ตามรอยแผนผังโดยไม่ได้แตะต้องผังวงจรนำร่อง "ซึ่งเป็นของปลอม" ตามที่โมเช่ระบุ ทั้งหมดนี้ทำเสร็จขั้นแรก 10 ชั่วโมง และขั้นสมบูรณ์อีก 5 ชั่วโมง
เหรียญจริงส่งคืนถึงโมเช แอเร็นส์ไม่ถึง 24 ชั่วโมง
คนที่มาบอกว่าคืนเหรียญเรียบร้อยแล้วไม่ใช่นากิบ
นากิบหายตัวไปเข้ากลีบเมฆ!
พวกคอมมานโดสังหารคนส่งข่าวและไม่ได้จ่ายเงินเป็นค่าจ้างอีก 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯตามสัญญา
...........................................................................................
กรุงเทพฯ
วันที่ 10 พฤษภาคม 2536
ท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยเชิญผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
นายสิทธิเดช บุณฑริกาพบที่ทำเนียบทูตเป็นการส่วนตัวโดยหลังจากทักทายและพูดคุยกันครู่หนึ่งท่านทูตได้เรียกเลขานุการของท่านให้ไปหยิบกล่องโลหะที่สิทธิเดชเห็นก็รู้ทันทีว่าเป็นกล่องเก็บเหรียญที่หายไปนั่นเอง
"ขอบคุณมากครับท่านทูต สู้อุตส่าห์ตามสืบและนำมาให้ผมจนได้"
"เรื่องมันไม่ยากอย่างนั้นหรอกครับ...ผมจะเล่าให้ฟัง
ท่านทูตกล่าวแสดงความเสียใจในนามรัฐบาลอิสราเอลโดยมอบกล่องใส่เหรียญคืนให้สิทธิเดชและเริ่มต้นเล่าเรื่องราวถึงคืนที่คอมมานโดเข้าค้นบ้านเขา ท้าวความถึงมอสสาดสามคนฟาเคียร์, คารึมและอาซาร์แฝงตัวเข้าไปอยู่ในทีมคอมมานโดที่มาในคืนวันนั้น
"คารึมบอกกับเพื่อนๆ ว่าเขารู้ว่ามอสสาดตระเวนที่บ้านไม่ได้ทำความคุ้นเคยกับหมาไว้เลย ดังนั้นเขาถึงหัวเราะแล้วว่ากลิ่นมอสสาดคงไม่ทำให้หมามาเลียแข้งเลียขา
ท่านทูตเล่าว่าเมื่อได้เหรียญไปแล้วประเด็นมีว่าผังวงจรระบบนำร่องส่วนสุดท้ายก็ต้องตกอยู่ในมือพวกนักวิทยาศาสตร์ด้วยใช่ไหม? คำตอบคือเปล่าเลย เพราะว่าคอมมานโด 3 คนได้นำเหรียญเบน-กูเรียนที่ทำเลียนแบบและผังระบบนำร่องใส่รหัสผิดไปด้วย และเอาเข้าแทนที่ของจริง
ท่านทูตสรุปว่าคอมมานโดไม่ได้ทำให้บ้านและระบบการรักษาความปลอดภัยระบบไฟฟ้าหรือกล้องวงจรปิดเสียหาย ข้อน่าสังเกตนี้สิทธิเดชน่าจะผิดสังเกตแล้วว่าทำไมมันถึงกลับสู่สภาพเดิมได้
ถ้าหากว่ามีอะไรผิดพลาดหรือคอมมานโดสงสัยว่ามีหนอนบ่อนไส้โดยรู้ว่า 3 คนปลอมตัวมา 3 คนก็พร้อมจะฆ่าอีก 5 คนได้ไม่ยาก และจะรายงานเตหะรานว่ามีการปะทะกับตำรวจท้องถิ่นเสียชีวิตไป 5 คนแต่ภารกิจเสร็จสมบูรณ์
"ผมเข้าใจแล้ว แต่ผมควรรู้ก่อนล่วงหน้า" สิทธิเดชกล่าวอย่างผิดหวัง
"ตอนแรกเราคิดกันอย่างนั้น แต่คิดกันใหม่ว่า ควรทำให้เป็นไปอย่างธรรมชาติที่สุด เมื่อจบภารกิจแล้วท่านคงเข้าใจ"
ท่านทูตแสดงความเสียใจ
เมื่อเสร็จภารกิจแล้วการจัดการวางระบบนำร่องใหม่ก็เกิดขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลองที่เทลอาวีฟ ให้ผู้นำผังวงจรที่มีรหัสนำร่องผิดไปติดตั้งจะทำให้ขีปนาวุธส่ายผิดองศาไปจากจุดที่กำหนด และหากไม่ใช่การทดลองแต่เป็นการยิงจริงโดยติดอาวุธนิวเคลียร์ก็จะเสียหายอย่างมากในบ้านของตัวเอง ไม่ใช่ในประเทศอื่น ถึงไม่ใช่นิวเคลียร์เป็นระเบิดมีอานุภาพทำลายสูงก็มีอานุภาพร้ายแรง
"ผมเชื่อว่าแม้การทดลองยิงครั้งแรกล้มเหลว พวกนั้นคงไม่เชื่อว่าเป็นเพราะมีข้อบกพร่องจากระบบนำร่อง แต่มาจากสาเหตุอื่นๆ และคงทดลองยิงขีปนาวุธอีกหลายครั้งจนจับได้ว่าสาเหตุแท้จริงเป็นเพราะอะไร" ท่านทูตเชื่อว่าเตหะรานคงคิดอย่างเดียวกัน
เมื่อเข้าใจกันแล้วท่านทูตได้มอบแผ่นดิสก์ให้กับสิทธิเดชไว้แผ่นหนึ่ง สิทธิเดชออกจากทำเนียบทูตและเข้าใจว่าทำไมอิสราเอลถึงเป็นหนึ่งในการข่าวกรองและมีมอสสาดเก่งที่สุดในโลก
ในสัปดาห์ต่อมาโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นและบีบีซีพร้อมกันรายงานข่าวพร้อมวีดีโอซึ่งเป็นชุดเดียวกันกับที่สิทธิเดชได้รับจากทูตอิสราเอล
ในข่าวซีเอ็นเอ็นและข่าวบีบีซีประกอบด้วยภาพจากวีดีโอรายงานว่าเมื่อเร็วๆ นี้หลังจากเตหะรานพัฒนาขีปนาวุธพิสัยกลางมาระยะหนึ่ง ได้เลือกสถานที่ทดลองยิงในทะเลทรายที่ไม่เปิดเผย ขีปนาวุธไม่สามารถตกตามเป้าหมายที่กำหนด แต่ลงที่หมู่บ้านใกล้เคียงห่างจากจุดยิงไป 375 กิโลเมตร ผู้คนเสียชีวิต 17,230 คน จำนวนนี้มีสตรี เด็กและคนชรารวมอยู่ด้วย
นักวิทยาศาสตร์และผู้ควบคุมรวมศูนย์พัฒนาขีปนาวุธในเตหะราน อิหร่านปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่แหล่งข่าวภายใน แจ้งว่าเกิดข้อผิดพลาดจากระบบขับเคลื่อนหรือการจ่ายเชื้อเพลิงหรือทั้งสองระบบ
ไม่มีข่าวว่าเป็นเพราะระบบนำร่อง!
โคซิโอเชื่อว่าอิหร่านไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นเพราะระบบนำร่องมีความผิดพลาด!
...........................................