สมสวาดต่างแดน29สองตระกูล
0
ตอน
487
เข้าชม
6
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

 

๒๙ 

 

ขอแนะนำ-“ตระกูลทวีกิจเจริญสินทรัพย์” 

หมู่บ้านเพอร์เฟค เพลส หัวหมาก ซอย ๑๖๔ ถนนรามคำแหง 

นายมั่นคง ทวีกิจเจริญสินทรัพย์เจ้าบ้าน(พ่อ)-อายุ ๖๐ 

นางกุลนิธิ ทวีกิจเจริญสินทรัพย์ ภรรยา(แม่)-อายุ ๓๒ 

นายปิ่นตา(ปิ่น) ทวีกิจเจริญสินทรัพย์ บุตรชายคนโต(อายุ๑๙ปี) 

นางสาวอรุัสนา(นา) ทวีกิจเจริญสินทรัพย์ พี่สาวคนโต(อายุ๑๘ปี) 

นายปิ่นปัน(ปัน) ทวีกิจเจริญสินทรัพย์ บุตรชายคนเล็ก(อายุ๑๗ปี) 

นางสาวปิ่นปัก(ปัก) ทวีกิจเจริญสินทรัพย์ ลูกสาวคนโต(อายุ๑๙ปี) 

__________________________ 

 

ครอบครัว ”พิพิธถาวรเสถียร” ซอยทองหล่อ ถนนสุขุมวิท 

นายเกื้อกูล พิพิธถาวรเสถียรเจ้าบ้าน(อายุ๕๔ปี) 

นางศศิธร พิพิธถาวรเสถียร ภรรยา(อายุ ๓๒ปี) 

นางสาวดลยา(ดล) พิพิธถาถาวรเสถียร(อายุ๒๓ปี)พี่สาวคนโต 

นางสาวนุชยา(นุช) พิพิธถาวรเสถียร(อายุ๑๙ปี)น้องสาวคนรอง 

นางสาวอรองค์(อร) พิพิธถาวรเสถียร(อายุ๑๗ปี)น้องสาวคนสุดท้อง 

นายรัถภาคย์(รัถ) พิพิธ ถาวรเสถียร(อายุ ๑๖ปี)น้องชายคนสุดท้อง 

  

-เรื่องราวของสองครอบครัวที่สัมพันธ์กัน จากเป็นเพื่อน คู่รักคู่แค้นและครอบครัวเป็นคู่แข่งทางธุรกิจการค้า 

ทำให้ครอบครัวทั้งสอง นำไปสู่การแตกหักทั้งเรื่องความรัก ความสมหวัง ความสิ้นหวังและความแตกร้าว 

ของครอบครัว 

(หากมีชื่อหรือนามสกุล สถานที่ ตรงกับบุคคลที่ตายไปแล้วหรือมีชีวิตอยู่ ถือว่าผู้เขียนไม่มีเจตนา ถือว่านี่เป็นเรื่องแต่งสมมุติขึ้น ไม่ได้มีเจตนาก่อความเสียหาย หากทำให้มีข้อความใดไม่พึงปรารถนาของผู้ถูกพาดพิงผู้เขียนขออภัยมา ในที่นี่ด้วย) 

 

เกริ่นนำ 

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง 

พุทธศักราช ๒๕๙๐ 

บางพลี สมุทรปราการ 

ขุนมั่น พิพิธถาวรเสถียรพร้อมเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินเดินบนที่ดิน ๓๐๐ ไร่ที่ไถหว่านปลูกข้าวซึ่งชาวนาเช่าในราคาถูกจากท่านขุนมาหลายสิบปี แลกกับผลผลิตที่ให้ท่านพอกินพอใช้ติดต่อกันทุกปี 

นอกจากชาวนาแล้ว ไกลออกไปยังมีชาวจีนอีกคนหนึ่งเลี้ยงเป็ด เขาไม่ได้จ่ายค่าเช่า เพราะไม่เคยติดต่อท่านขุนแต่ครอบครองที่ดินไม่เกิน ๕ ไร่ทำมาหากินพอเลี้ยงตัวได้ ตัวคนเดียวเก็บเงินพอเลี้ยงชีพ แต่เขาตอบแทนโดยดูแลไม่ให้คนบุกรุกในที่ดินที่เหลืออีก ๒๐๐ ไร่ที่ไม่ได้ทำนาของท่านขุน 

วันนี้ท่านขุนมา เขาดีใจ ตกลงใจว่าต้องมาขอเช่าที่สักที ให้ท่านขุนกำหนดค่าเช่าตามใจชอบ ท่านขุนเห็นเขาวิ่งมาแต่ไกล ถามตัวแทนชาวนาว่า 

“เฮ้ย เจ้าบุญมา ไอ้คนนั้นมันใครวะ วิ่งหน้าตาตื่นมาทางนี้” 

“ไอ้เจ๊กกอ แซ่แต้ มันแอบมาทำฟาร์มเป็ดครับท่าน” 

พอดีเจ๊กกอวิ่งมาถึง เขายกมือไหว้ท่านขุนอย่างนอบน้อม 

“ผมเจ๊กกอครับ วันนี้เพิ่งพบท่านขุน ผมหาท่านมานาน รู้ว่าท่านอยู่บางกอก แต่ไม่รู้ว่าบ้านท่านอยู่ที่ไหน” 

“เอาละ..มีอะไร” 

“คือผมมาเลี้ยงเป็ดบนที่ดินของท่าน ก็อยากจะจ่ายค่าเช่าให้แหละครับ” 

หัวหน้าชาวนา เล่าให้ท่านขุนฟังว่า เจ๊กกอ เป็นธุระไล่พวกผู้บุกรุกที่ดินจำนวนมากที่พยายามเข้ามาครอบครองเป็นปรปักษ์หลายครั้ง บางครั้งเจ๊กกอไปขอกำลังตำรวจมาไล่พวกบุกรุกก็มี 

“เธอทำแบบนี้ทำไม เจ๊กกอ” 

“ผมไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณท่านได้อย่างไรครับ ก็ใช้วิธีนี้” 

“ฉันขอบใจ เอาอย่างนี้ ฉันให้เธออยู่ฟรี เธอช่วยฉัน ฉันก็มีน้ำใจตอบแทน ดูแลพวกบุกรุกแทนฉันต่อไป” 

เจ๊กกอทรุดตัวลงกราบแทบเท้า 

นั่นเป็นที่มาของความสัมพันธ์อันยาวนาน ทำให้ท่านขุนมีให้กับเจ๊กกอ ถึงขั้นให้เข้าบ้าน คุณนายสมจิตรและญาติข้างภรรยา โดยเฉพาะน้องภรรยาชื่อสมใจก็ให้ความสนิทสนมเจ๊กกอไปด้วย 

“เจ๊กกอ เธออยู่เมืองไทยมากี่ปีแล้ว” 

“ความจริงผมเกิดที่ยานนาวานี่เองครับ เตี่ยหนีภัยสงครามมาจากเมืองจีนได้เมียคนไทย” 

“ฉันรู้จักเธอมาก็หลายปี ถือว่าเธอเหมือนลูกหลาน ทุกครั้งมาเยี่ยมก็ซื้อของติดมือมาให้ที่บ้านทุกครั้ง ฉันอยากเปลี่ยนชื่อแซ่ให้เป็นคนไทยเสีย” 

“ครับ” 

ต่อมาท่านขุน พาเจ๊กกอไปที่อำเภอ แจ้งเหตุว่าขอให้เจ้าหน้าที่ทำเรื่องเปลี่ยนชื่อและนามสกุลให้ชายคนนี้ 

อำเภอทำการเปลี่ยนชื่อให้ตามที่ได้รับการขอร้อง 

“เปลี่ยนจากกอ เป็นเกื้อดีไหม ส่วนนามสกุลใช้พิพิธถาวรเสถียรนี่แหละ จะได้ถือเป็นคนในครอบครัวของฉัน” 

"เป็นพระคุณต่อกระผมยิ่งขอรับ" 

เจ๊กกอเป็นนายเกื้อ พิพิธถาวรเสถียรตั้งแต่บัดนั้น................... 

“เป็นอย่างนี้เองหรือพ่อ” ปิ่นตาเดินถือถ้วยกาแฟ นั่งลงถามพ่อ 

“พ่อก็เล่าตามที่ปู่ว่าอย่างนั้น” 

“แล้วปู่ได้กับย่าอย่างไรล่ะพ่อ” 

“เรื่องมันซับซ้อน คือปูแกก็ขยันทำงานไปเรื่อย ทำเป็ดพะโล้อร่อยขายดี จนมีร้านคนติดมากขายได้ขายดี หมดทุกวัน 

จนตั้งตัวได้” 

“แต่คงไม่งั้นมั้งพ่อ ปู่น่ะรวยเป็นร้อยล้าน ไม่น่าจะขายแค่เป็ดพะโล้ ”” 

“อ้าวไม่สนใจเมียปู่แล้วหรือ....ปู่นะไม่เคยจีบผู้หญิงแต่น้องเมียท่านขุนชื่อคุณสมใจน่ะมาติดพันจนเป็นเรื่อง ท่านขุนเลยจับให้แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว” 

“พ่อเป็นลูกคุณเกื้อกับคุณย่าสมใจหรือครับ” 

“ใช่ พ่อถึงชื่อเกื้อกูลไงล่ะ” 

“ทำไมปู่ถึงรวยเป็นร้อยสองร้อยล้านได้ครับ” 

“เรื่องมันมีอยู่ว่าวันหนึ่งปู่ได้ยินว่ากรมทางจะขยายถนนเพิ่มจากสองเลนให้กว้างถึง ๖ เลนไม่ใช่แค่ ๔ เลนนะเพราะจะเป็นเส้นทางหลักไปต่างจังหวัดที่มี ๖ เลนรองรับ คราวนี้ปูได้ที่ดินจากท่านขุนมาเกือบร้อยไร่เป็นสินสมรสฝ่ายภรรยา ที่ดินนี้ติดถนนยาวเกือบกิโล หน้าที่ดินสวยมาก ทั้งหมดมีคนจองเป็นร้านทอง ๒ ร้าน บริษัทรถยนต์ ๒ เจ้า และตรงข้ามก็เป็นที่ดินของภรรยา เป็นตลาดสด คราวนี้ก็รวยกันใหญ่ แค่ค่าเช่าอย่างเดียวก็เก็บไม่หวาดไม่ไหว พ่อเกิดมาก็นับแบงค์เป็นสิบล้านแล้ว ทุกวันนี้ที่ดินบางส่วนให้แกและน้องไว้คนละแปลง จำไว้อย่าคิดว่ารวยแล้วเหนือกว่าคนจน ตระกูลแกมาตัวเปล่าพ่อปู่แกหนีตายจากเมืองจีน” 

เกื้อกูลพูดจบเขานึกถึงภรรยาที่ยังไม่ตื่นนอน ศศิธรอ่อนกว่าเขาหนึ่งรอบ เธออายุ ๓๒ เขา ๕๔ แล้ว แต่งงานเมื่อเขาอายุมากแล้ว สมัยนั้นเธอเป็นเทพีนางสงกรานต์ราชบุรี เขาไปทำธุระพอดี ในงานเลี้ยงต้อนรับบริษัททางราชการเชิญกุลนิธิมาร่วมงาน เขาถูกชะตาและเธอไม่รังเกียจ พ่อแม่เจ้าสาวเป็นคนค้าขายมีฐานะดี ชอบลูกเขยเป็นนักธุรกิจ แต่งงานกันและเขามีลูกทันทีและแต่ละปีปีละคน ลูก ๔ คนเป็นเด็กที่เขาให้ที่ดินและเงินสดฝากธนาคารไว้คนละ ๑๐ ล้าน แต่สอนลูกให้รู้ว่าเป็นมรดกจากปู่ที่ทำงานจากไม่มีอะไรเลย 

ศศิธรเป็นแม่ที่สวยมาก เด็กทุกคนมีเชื้อจีนจากปู่ จึงเป็นอาตี๋ อาหมวยกันทั้งบ้าน แต่เด็กๆไม่พูดจีนได้เลย เกื้อกูลเท่านั้นที่พูดจันได้คล่อง เขาทำธุรกิจต่อเนื่อง ที่ดินติดถนน เขายังให้เช่าบางส่วน ร้านทองซื้อไปในราคา ๕๐ ร้าน ๒ ล้านติดกัน เขารับมา ๑๐๐ ล้าน ที่เหลือ ภรรยาเก็บค่าเช่าตลาดได้ ๒ แสนบาทต่อเดือน 

ที่ดินของเขา มีบริษัทรถยนต์ฝรั่งและญี่ปุ่นติดถนนทั้งสองบริษัทมีอู่เซอร์วิส มีเต้นรถมือสองที่ขายดี ให้ค่าเช่าเขาเดือนละเป็นแสน นอกจากนั้นร้านค้าบริษัทคอมพิวเตอร์และบริษัทขายทีวีและเครื่องเสียงและอื่นๆทำรายได้หลายแสน รวมแล้วทั้งหมดมีอยู่๒๐กว่าร้านบนที่ดินถนนเป็นกิโลเขาได้เงินเดือนละเกือบ ๒ ล้าน 

วันหนึ่งในงานเลี้ยงรุ่น เขาพบกับเพื่อนร่วมรุ่นชื่อมั่นคง ทวีกิจเจริญทรัพย์ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เขากำลังคิดจะลงทุนทำบ้านจัดสรรชานเมืองอยู่พอดี  

“เกื้อกูล นายมีที่ดินอยู่บางพลี พอแบ่งมาทำบ้านจัดสรรได้บ้างไหม ไม่ต้องมากเอาสัก ๕๐ ถึง ๘๐ ไร่ก็พอ 

ถ้าสนใจฉันมีโครงการให้พิจารณา” 

“เอามาดูก่อน เรื่องที่ดินไม่มีปัญหา นายว่าอย่างไร ต้องเข้าซอยนะ ที่ข้างหน้าติดถนน อั๊วว่าจะสร้างอาคารพาณิชย์สัก ๒๐ ชั้นปลายปีนี้ ถ้านายอยากเข้าหุ้น ก็ได้” 

โครงการบ้านจัดสรร สุขสวรรค์ เริ่มทันทีหลังจากเคลียร์จากองค์กรทางราชการทุกหน่วยงานผ่านได้ ๖ เดือน เมื่อน้ำไฟพร้อมก็ลงมือ โดยหวังให้เสร็จภายในสองปี เป็นบ้านจัดสรรเกรด A + ซึ่งวันเปิดจอง พรรคพวกรุ่นเดียวกันจองเข้ามาหลายหลัง และญาติๆทั้งสองฝ่ายจองอีก ๑๐-๒๐ หลัง 

นี่เป็นการลงทุนของสองตระกูลระหว่างพิพิธถาวรเสถียร กับ ทวีกิจเจริญทรัพย์ 

ลูกๆของสองตระกูลจะมีเรื่องราวสัมพันธ์กัน เพราะเรียนมหาวิทยาลัยกรุงเทพธุรกิจด้วยกัน ภาควิชาประชาสัมพันธ์ และวิชาภาพยนต์ด้วยกัน เรื่องราวของพวกเขามีทั้งความรัก ความสัมพันธ์ทางเพศและการใช้ชีวิตร่วมกันในหลายด้าน แน่นอนว่าพวกเขาเป็นวัยรุ่นที่มาจากครอบครัวคนมีเงิน แม้ว่าเด็กพวกนี้จะไม่ใช่เด็กใจแตก แต่เมื่อมีความรักมันห้ามไม่ได้ที่จะมีเรื่องที่เกินเลยไปบ้าง เป็นธรรมดาของวัยรุ่นสมัยนี้ 

                                       _______________________________    

  

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว