ในโลกที่เต็มไปด้วยความแตกต่างใบนี้ มนุษย์ถูกแบ่งออกเป็นสองจำพวกอย่างชัดเจน: "คนธรรมดา" ผู้ใช้ชีวิตไปตามครรลองของโลก และ "คนพิเศษ" ผู้ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับพรสวรรค์อันน่าอัศจรรย์ที่เรียกว่า "พลังวิญญาณ"
พลังวิญญาณคือสายใยที่เชื่อมต่อโลกมนุษย์เข้ากับ "มิติพิภพสัตว์วิญญาณ" โลกอีกใบที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ ผู้ครอบครองพลังนี้จะมีความสามารถในการ "อัญเชิญ" และ "ผูกวิญญาณ" กับสัตว์วิญญาณเหล่านั้น การผูกดวงจิตให้เป็นหนึ่งเดียวไม่เพียงแต่จะทำให้ได้คู่หูร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ แต่ยังมอบพลังแฝงอันยิ่งใหญ่ให้แก่ผู้เป็นนายอีกด้วย เฉกเช่นผู้ที่ผูกวิญญาณกับ "วานรวายุ" ก็อาจจะได้รับพลังแห่งสายลมมาไว้ในครอบครอง พลังวิญญาณยังสามารถใช้เสริมความแข็งแกร่งและรักษาอาการบาดเจ็บให้กับสัตว์วิญญาณได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ผู้มีพลังวิญญาณจึงเป็นที่หมายปองของตระกูลใหญ่ สำนักฝึกฝน และกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ที่ต้องการนำตัวพวกเขาไปขัดเกลาฝีมือ
ณ หมู่บ้านชาวสวนอันเงียบสงบแห่งหนึ่ง "มู่หลาน" เด็กสาววัยสิบสองปีใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายภายใต้การดูแลของตาและยายที่รักเธอสุดหัวใจ แม้จะดูเป็นเด็กหัวอ่อน มึนงงไปบ้างในบางครั้ง แต่หัวใจของนางเปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ความซื่อสัตย์ และความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณทั้งสองที่เลี้ยงดูนางมาตั้งแต่ยังเป็นทารก
ทว่าเบื้องหลังชีวิตอันแสนธรรมดานี้ กลับมีความลับที่น้อยคนจะล่วงรู้ซ่อนอยู่...
ความจริงแล้ว มู่หลานคือทายาทสายตรงของตระกูลมู่ผู้มั่งคั่งและทรงอิทธิพล เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน เมื่อคุณยายของนางเลือกที่จะละทิ้งฐานะอันสูงส่งเพื่อหนีตามบุรุษชาวสวนที่นางรัก และให้กำเนิดบุตรสาวหนึ่งคน แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อบุตรสาวคนนั้นกลับเดินซ้ำรอยมารดา ชิงสุกก่อนห่ามกับบัณฑิตหนุ่มจนตั้งครรภ์ และเมื่อทารกน้อยลืมตาดูโลก พวกเขาทั้งสองก็เลือกที่จะทิ้งภาระไว้เบื้องหลัง มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า โดยไม่เคยหันกลับมาเหลียวแลบุตรสาวของตนอีกเลย... ทารกน้อยคนนั้นก็คือ มู่หลาน นั่นเอง
บัดนี้ มู่หลานเติบโตขึ้นมาโดยไม่เคยรับรู้ถึงชาติกำเนิดที่แท้จริงของตนเอง แต่พลังวิญญาณที่หลับใหลอยู่ในกายนาง กำลังจะถึงเวลาตื่นขึ้น และเมื่อวันนั้นมาถึง ชีวิตอันแสนสงบสุขของนางจะต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล...
สี่มหาอาณาจักรแห่งพิภพวิญญาณ
1.อาณาจักรพฤกษาบูรพา
ที่ตั้ง: ทิศตะวันออก
ลักษณะ: นี่คือบ้านเกิดของ "มู่หลาน" เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์และอบอุ่นที่สุด ได้รับแสงอรุณก่อนใคร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้เขียวชอุ่ม ที่ราบลุ่มแม่น้ำ และหุบเขาที่งดงาม ผู้คนส่วนใหญ่ยึดถือการเกษตรและการทำสวนเป็นหลัก มีความผูกพันกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เป็นที่เลื่องลือในเรื่องของพืชสมุนไพรและผลไม้วิเศษ สัตว์วิญญาณที่พบส่วนมากมักเป็นประเภทพืช สัตว์ป่า และแมลงต่างๆ เป็นอาณาจักรที่ดูสงบสุขและเรียบง่ายที่สุดในสี่อาณาจักร
เมืองหลวง: นครบุปผา
2. อาณาจักรปราการอุดร
ที่ตั้ง: ทิศเหนือ
ลักษณะ: ดินแดนแห่งความหนาวเหน็บและแข็งแกร่ง ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยหิมะและทุ่งน้ำแข็ง มีป้อมปราการที่แข็งแกร่งตั้งอยู่ตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการรุกราน ผู้คนชาวอุดรขึ้นชื่อเรื่องความทรหดอดทน มีวินัย และเชี่ยวชาญการต่อสู้ เป็นแหล่งผลิตแร่เหล็กและศาสตราวุธชั้นยอด สัตว์วิญญาณมักเป็นประเภทสัตว์เขตหนาวที่มีพละกำลังมหาศาล เช่น หมีขั้วโลก หมาป่าเหมันต์ หรือพยัคฆ์หิมาลัย
เมืองหลวง: นครศิลาทมิฬ
3. อาณาจักรภูผาประจิม
ที่ตั้ง: ทิศตะวันตก
ลักษณะ: ดินแดนที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เป็นที่ราบสูงและเทือกเขาหินทรายสลับซับซ้อน อากาศแห้งแล้งและแปรปรวน ในอดีตเคยเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองด้วยเหมืองแร่และอัญมณี ปัจจุบันยังคงหลงเหลือซากปรักหักพังของนครโบราณอยู่มากมาย ผู้คนมีความเชื่อในเรื่องภูตผีและจิตวิญญาณที่สถิตในหินผา เป็นแหล่งรวมของผู้ฝึกตนที่ต้องการความสงบและแสวงหาพลังจากธาตุลมและดิน สัตว์วิญญาณที่พบมักเป็นประเภทสัตว์เลื้อยคลาน นกนักล่า หรือสัตว์ที่ปรับตัวเข้ากับความแห้งแล้งได้ดี
เมืองหลวง: นครวายุนภา
4. อาณาจักรสมุทรทักษิณ
ที่ตั้ง: ทิศใต้
ลักษณะ: อาณาจักรที่โอบล้อมด้วยทะเลสีครามอันกว้างใหญ่ไพศาล ประกอบด้วยเมืองท่าน้อยใหญ่และหมู่เกาะมากมายนับไม่ถ้วน อากาศร้อนชื้นตลอดปี ผู้คนมีวิถีชีวิตผูกพันกับสายน้ำและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการค้าและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดในสี่อาณาจักร ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล ไข่มุก และศาสตร์การเดินเรือที่ไม่มีใครเทียบได้ สัตว์วิญญาณส่วนใหญ่เป็นสัตว์น้ำนานาชนิด ตั้งแต่เต่าทะเลขนาดยักษ์ วาฬวิญญาณ ไปจนถึงม้าน้ำมายา
เมืองหลวง: นครมุกสมุทร
ระบบการจัดลำดับของสัตว์วิญญาณ
ในโลกแห่ง "คู่หูสัตว์วิญญาณ" ความแข็งแกร่งของสัตว์วิญญาณนั้นสามารถจำแนกได้จากสองลักษณะหลัก คือ "ระดับพลัง" ซึ่งบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งในปัจจุบัน และ "ระดับเผ่าพันธุ์" ซึ่งบ่งบอกถึงศักยภาพและสายเลือดที่สืบทอดมา
1. ระดับพลัง
ระดับพลังคือมาตรวัดความแข็งแกร่งของสัตว์วิญญาณที่สามารถพัฒนาได้ผ่านการต่อสู้และปัจจัยภายนอก ยิ่งสัตว์วิญญาณมีระดับพลังสูงเท่าใด ผู้ผูกวิญญาณก็จะได้รับพลังแฝงและแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย
การแบ่งระดับ: ระดับพลังถูกแบ่งออกเป็น 8 ระดับ โดยในแต่ละระดับจะซอยย่อยออกเป็น 3 ขั้น ได้แก่:
ขั้นต้น
ขั้นกลาง
ขั้นปลาย
วิธีการเพิ่มระดับ: สัตว์วิญญาณสามารถยกระดับพลังของตนเองได้หลากหลายวิธี เช่น:
การดูดซับพลังวิญญาณ: จากการสังหารสัตว์อสูร หรือเอาชนะสัตว์วิญญาณตนอื่น แล้วดูดซับแก่นพลังงานมาเป็นของตน
การบ่มเพาะ: ฝึกฝนเคียงข้างผู้ผูกวิญญาณในสถานที่ที่มีพลังวิญญาณเข้มข้น
ปัจจัยเสริม: การได้รับโอสถวิเศษ, ผลไม้วิญญาณ หรือสมบัติล้ำค่าจากธรรมชาติ
2. ระดับเผ่าพันธุ์
ระดับเผ่าพันธุ์คือการแบ่งลำดับชั้นตามสายเลือดและชาติกำเนิดของสัตว์วิญญาณ ซึ่งเป็นตัวกำหนดพรสวรรค์และศักยภาพสูงสุดที่สัตว์วิญญาณตนนั้นจะไปถึงได้ โดยแบ่งจากต่ำไปสูงได้ดังนี้
ระดับที่ 1: สัตว์วิญญาณป่า
เป็นสัตว์วิญญาณที่พบเห็นได้ทั่วไปตามธรรมชาติ มีสติปัญญาใกล้เคียงกับสัตว์ป่าธรรมดาแต่แข็งแกร่งกว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ผูกวิญญาณมือใหม่
ระดับที่ 2: สัตว์วิญญาณธาตุ
สัตว์วิญญาณที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับความสามารถในการควบคุมพลังธาตุต่างๆ เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ พฤกษา หรือโลหะหรือที่พบเห็นยากสุด แสงและมืด มีความหายากและแข็งแกร่งกว่าสัตว์วิญญาณป่าอย่างชัดเจน
ระดับที่ 3: สัตว์วิญญาณบรรพกาล
สัตว์วิญญาณที่สืบเชื้อสายมาจากยุคโบราณกาล ในสายเลือดของพวกมันแฝงไปด้วยพลังอันเป็นเอกลักษณ์และความสามารถพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง การปรากฏตัวของพวกมันแต่ละครั้งถือเป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งยุทธภพ
ระดับที่ 4: สัตว์วิญญาณสวรรค์
เผ่าพันธุ์ที่อยู่ในระดับตำนาน เป็นที่กล่าวขานดุจเทพเจ้าในหมู่ผู้คน มีพลังอำนาจเหนือจินตนาการและสติปัญญาสูงส่ง ว่ากันว่าผู้ที่ได้ครอบครองสัตว์วิญญาณสวรรค์ จะมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของโลกได้
กฎสำคัญแห่งการมีคู่หูวิญญาณ: ข้อแตกต่างที่ควรจำ
การเลือกคู่หูวิญญาณตัวแรก ถือเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้มีพลังวิญญาณทุกคน เพราะมันจะส่งผลต่อเส้นทางการเติบโตในอนาคตอย่างมหาศาล ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เพิ่งปลุกพลังวิญญาณขึ้นมาได้จึงไม่รีบร้อน แต่จะทุ่มเทเวลาให้กับการศึกษาทฤษฎีจนรู้แจ้งเสียก่อน
1. การได้มาซึ่งคู่หูวิญญาณตัวแรก
มีสองเส้นทางหลักในการค้นหาคู่หูวิญญาณตัวแรก ซึ่งแต่ละวิธีก็มีปัจจัยแห่งความสำเร็จที่แตกต่างกันไป
การอัญเชิญ
เป็นการใช้พลังวิญญาณของตนเองเพื่อเปิดประตูมิติและเรียกสัตว์วิญญาณจากพิภพสัตว์วิญญาณมาโดยตรง
ปัจจัยชี้วัด: คุณภาพและระดับของสัตว์วิญญาณที่อัญเชิญได้นั้น ขึ้นอยู่กับ ความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณตั้งต้น ของผู้อัญเชิญ และ "เอกลักษณ์เฉพาะตัว" ของพลังนั้นๆ ว่ามีแรงดึงดูดหรือเข้ากันได้กับสัตว์วิญญาณประเภทใดเป็นพิเศษหรือไม่
การผูกวิญญาณในโลก
คือการเผชิญหน้าและพยายามผูกพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณที่พบเจอได้ในโลกมนุษย์
ปัจจัยชี้วัด: ความสำเร็จขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้จะสามารถใช้พลังวิญญาณของตน "สยบ" สัตว์วิญญาณตนนั้นให้ยอมจำนนได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเรื่อง "โชคชะตา" เข้ามาเกี่ยวข้อง หากสัตว์วิญญาณเกิดชื่นชอบในพลังวิญญาณของเรา มันก็อาจจะยอมรับการผูกพันธสัญญาโดยง่าย
2. การมีสัตว์วิญญาณมากกว่าหนึ่งตัว
ผู้ผูกวิญญาณสามารถมีสัตว์วิญญาณในครอบครองได้มากกว่าหนึ่งตัว แต่ก็มีเงื่อนไขสำคัญ
เงื่อนไข: ผู้ใช้จำเป็นต้องมี ระดับพลังวิญญาณที่สูงมากพอ
เหตุผล: การดูแลรักษาสัตว์วิญญาณแต่ละตัวนั้น ต้องใช้พลังวิญญาณของผู้เป็นนายหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา หรือที่เรียกว่า "การสิ้นเปลืองพลังวิญญาณในการเลี้ยงดู" หากมีพลังไม่มากพอ การมีสัตว์วิญญาณหลายตัวจะเป็นภาระที่หนักหน่วงเกินไปและอาจส่งผลเสียต่อการพัฒนาของทั้งคนและสัตว์วิญญาณได้
นิยายเรื่องนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อมอบความสนุกสนาน อบอุ่น หัวใจ
โปรดทราบว่า "มู่หลาน" ตัวเอกของเรื่อง ไม่ได้เป็นเด็กสาวที่ฉลาดหลักแหลมหรือมีไหวพริบทันคน ออกจะมึนๆ งงๆ ไปเสียด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เด็กน้อยคนนี้มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม คือ "หัวใจอันงดงาม" ที่บริสุทธิ์และเปี่ยมไปด้วยความเมตตา
ขอเชิญทุกท่านร่วมเดินทางไปกับเรื่องราวใสซื่อของเธอ ที่จะทำให้คุณยิ้มได้ทั้งน้ำตา และสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แท้จริง
สงวนลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนี้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามมิให้สแกนหนังสือ ถ่ายภาพ คัดลอกเนื้อหา ภาพประกอบ หรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่ในรูปแบบหรือวิธีการใดๆ ก็ตาม ทั้งก่อนและหลังได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์และผู้จัดจำหน่าย ยกเว้นเพื่อการประชาสัมพันธ์