ม่านหมอกปกคลุมเมืองธารหมอก ราวกับม่านแห่งกาลเวลาที่ขังอดีตเอาไว้ไม่ให้เลือนหาย
มินตรา อัศวเมฆิน เดินทอดน่องไปตามตรอกแคบๆ ที่เรียงรายด้วยร้านค้าเก่าแก่และอาคารไม้ทรงโบราณ กลิ่นอับของกระดาษเก่าและไม้สักที่ผุพังตามกาลเวลาทำให้เธอรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในอีกยุคสมัย เมืองนี้มีเสน่ห์ดึงดูดแปลกประหลาด อะไรบางอย่างซ่อนอยู่ใต้ความเงียบงันของผู้คน และเธอตั้งใจจะค้นหามันให้เจอ
เธอเป็นนักเขียนสารคดีอิสระที่เดินทางมาเพื่อรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานท้องถิ่นและวัฒนธรรมโบราณ แต่แทนที่จะพบเพียงเรื่องเล่าปรัมปรา เธอกลับพบสิ่งที่มีอยู่จริง—บางสิ่งที่ไม่ควรถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงกระดิ่งเก่าๆ ดังขึ้นเมื่อเธอผลักประตูร้านขายของเก่า "ธารหมอกมาร์เก็ต" แสงไฟวอมแวมจากโคมเก่าให้บรรยากาศน่าขนลุก ท่ามกลางกองของสะสมโบราณและวัตถุที่มีเรื่องราวซ่อนอยู่ เธอเห็นมัน—แหวนทองคำโบราณ วงหนึ่งนอนนิ่งอยู่ในกล่องไม้สีดำ
ราวกับมันเฝ้ารอเธออยู่แล้ว
เธอเอื้อมมือไปแตะมัน และในเสี้ยววินาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสผิวโลหะเย็นเฉียบ ภาพบางอย่างแล่นวาบเข้าสู่จิตสำนึก—เสียงกรีดร้อง ความมืดมิด และแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความคลุ้มคลั่ง
มินตราสะดุ้งและรีบชักมือกลับ ทว่า… มันสายไปแล้ว
เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นข้างหู
"ในที่สุด...เจ้าก็มาถึง"