ในวันหนึ่งที่แสงอาทิตย์ยังคงอบอุ่นทอดเงาเลียบไหล่ภูเขา ชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่บนทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ท่ามกลางสายลมที่พัดพาความสดชื่นจากธรรมชาติ เขาเงยหน้าขึ้นมองฟ้าใสที่ไร้เงาดำของก้อนเมฆหนา ไม่มีเสียงระเบิด ไม่มีเสียงปืน มีเพียงเสียงนกร้องและใบไม้กระทบกันเป็นบทเพลงธรรมชาติที่ชวนให้ใจสงบ
ชายหนุ่มผู้นี้ชื่อไฮน์ริช เขาเกิดและเติบโตในหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนเหนือของเยอรมัน ที่ซึ่งผู้คนยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและผูกพันกับแผ่นดินที่เลี้ยงดูพวกเขามาตลอดหลายชั่วอายุคน ไฮน์ริชมีครอบครัวอบอุ่นและเพื่อนฝูงที่คอยเป็นแรงใจ วันๆ ของเขาเต็มไปด้วยความสงบสุข ความรัก และความหวังสำหรับอนาคตที่สดใส
ในชนบทแห่งนี้ ฤดูใบไม้ผลิถือเป็นเวลาที่งดงามที่สุด ดอกไม้หลากสีสันผุดขึ้นตามไหล่เขาและริมคลองน้ำไหล บ้านเรือนไม้เก่าแก่ถูกล้อมรอบด้วยสวนผลไม้และทุ่งข้าวโพดสูงตระหง่าน ผู้คนเดินผ่านไปมาด้วยรอยยิ้มและคำทักทายที่จริงใจ ไม่มีใครคิดว่าชีวิตที่สงบสุขนี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า
โลกทั้งใบที่เขาเคยรู้จัก โลกที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ ในเงามืดของช่วงเวลานี้ มีลมพายุบางอย่างที่เริ่มพัดเข้ามาอย่างเงียบๆ สังคมที่เคยสงบกลับมีความเปลี่ยนแปลง แรงกดดันจากความขัดแย้งทางการเมืองเริ่มรุนแรงขึ้น ค่านิยมที่เปลี่ยนไป บทสนทนาเกี่ยวกับสงครามและชาติพันธุ์ค่อยๆ เข้ามาแทนที่บทเพลงธรรมชาติ
ไฮน์ริชและคนรักของเขา แอนนา เดินจับมือกันท่ามกลางสวนดอกไม้ แอนนาไม่ใช่แค่คนรัก แต่เป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตเขา ทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกันหรือแม้แต่ห่างกัน ความหวังและความฝันก็เบ่งบานในใจของเขา ทว่าความสงบนี้นั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเสียงคำรามของสงครามใกล้เข้ามาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง วันหนึ่งที่เขาไม่คาดคิดก็จะมาถึง วันที่เขาต้องเลือกเดินทางบนเส้นทางที่ไม่เคยวาดฝัน ไฮน์ริชอาจจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้าย การสูญเสีย และความเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีวันกลับ เขาจะเลือกเดินทางในเส้นทางที่โหดร้ายและบอบบางนี้อย่างไรเพื่อปกป้องความรักของเขา ครอบครัวของเขา และชีวิตของเขา ให้ผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายนี้ไป เขาจะเดินทางไปในโลกที่เขากำหนดโชคชะตาไม่ได้อย่างไร
Guest
