นิยายแนวพีเรียดไทยเรื่องแรกของไรท์
และพระเอกยังธงเขียวขจีเป็นครั้งแรกอีกด้วย!!!
สำหรับเรื่องนี้ไรท์เปิดให้อ่านฟรีจนจบ
ไม่มีติดเหรียญล่วงหน้า
ติดหลังลงจบเท่านั้น!!
อัพเดตนิยายทุกวัน เวลา 16.00 น.
กดเข้าชั้น + กดหัวใจ + คอมเม้น ช่วยไรท์ดันนิยายหน่อยนะคะ
E-BOOK พร้อมโหลดคืนวันศุกร์ที่ 20 มิ.ย. เวลาเที่ยงคืนตรง
ปล. เนื่องจากเป็นแนวไทยโบราณ มีตัวละครหลายตัวที่มียศฐาบรรดาศักดิ์สูงส่ง เป็นเชื้อพระวงศ์ แต่เพื่อไม่ให้อ่านยากจนเกินไป ไรท์ขอสงวนคำราชาศัพท์ใช้กับพระบรมโอรสาธิราชและเจ้าฟ้าเท่านั้น ในส่วนของหม่อมเจ้าจะใช้เพียงคำสุภาพ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกตัวละครและเหตุการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง เป็นเพียงเรื่องสมมติและเกิดจากจินตนาการของไรท์เพียงเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
________________________________________________________________
สายลมพัดเอื่อย ก้อนเมฆลอยเคว้งบดบังเงาจันทร์
ฝีเท้าเร่งรีบก้าวอย่างฉับไวผ่านเส้นทางคับแคบมุ่งตรงไปยังประตูรั้วทางทิศเหนือ มิต้องอาศัยแสงจากที่ใด นางก็ยังสามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง
ก้อนเมฆลอยเอื่อยเคลื่อนตัวออกจากดวงจันทร์ แสงนวลสาดส่องลงมาผ่านกิ่งก้านใบ ตกกระทบลงบนเงาร่างสูงใหญ่ของใครบางคนที่ยืนตระหง่านอยู่ใต้ต้นการเวก
หัวใจดวงน้อยกระตุกเกร็ง เต้นระส่ำสลับหนักเบา ฝีเท้าเร่งรีบเปลี่ยนเป็นเชื่องช้า สายตาทอดมองแผ่นหลังกว้าง
“พี่สิน…”
น้ำเสียงไพเราะกังวานท่ามกลางความเงียบพาให้หัวใจคนรอเต้นระรัวเร็วมิเป็นจังหวะ ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่ง
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา เงียบเชียบราวกับเสียงลมหายใจ ทว่ากลับดังชัดในความรู้สึก ศุภสินค่อยๆ หันหลังกลับ
ภายใต้เงาจันทร์เลือนราง เขามองเห็นใบหน้าสะคราญโฉมของนางได้อย่างชัดเจน
“แม่อนงค์”
เสียงของชายหนุ่มสั่นพร่า มิคิดฝันว่าจะยังได้เห็นแววตาเปี่ยมล้นด้วยความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกับเมื่อครั้งสุดท้ายก่อนลาจาก
๔ ปีมิได้พบหน้า พี่คะนึงหาเพียงเจ้า…
________________________________________________________________________________
“น้องบอกว่ารอให้พี่กลับมาค่อยโตก็ยังมิสายใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นตอนนี้โตแล้วหรือไม่”
นัยน์ตาดำขลับมองแก้มขาวเนียนของนางเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม มิอาจหักห้ามใจมิให้แตะสัมผัส
แต่ก่อนที่ริมฝีปากจะพบกับความอ่อนนุ่มก็ยินเสียงร้องตื่นตระหนกของนาง “มีคนมาค่ะ”
ศุภสินรีบผละถอยด้วยความตกใจ เขาหันรีหันขวางมองรอบด้าน ยังมิทันปรับอารมณ์ที่โหนทะยาน ข้างหูก็แว่วเสียงหัวเราะหยอกเย้า
เขารู้แล้วว่าถูกนางกลั่นแกล้ง
จังหวะที่หันกลับหมายจะเอาเรื่องเด็กตัวแสบ ข้างแก้มก็รับรู้ถึงสัมผัสอ่อนนุ่มกดลงมาไวๆ
“โตแล้วค่ะ โตพอจะขโมยหอมแก้มพี่สินได้แล้ว”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบแก้ม รับรู้ถึงความร้อนลวกไม่ธรรมดา จิตใจล่องลอยขณะมองตามนางในดวงใจค่อยๆ ไกล
ออกไป
“หยุดนะแม่อนงค์ รอก่อนเถิด เจ้ารอพี่ก่อนเถิด!”
ตลอดทางเดินเปลี่ยวร้าง กระทั่งเห็นความพลุกพล่าน มีหนึ่งหญิงวิ่งนำอยู่ด้านหน้า หนึ่งชายวิ่งตามอยู่ด้านหลัง
สายลมพัดไหวลอยละล่อง ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะกังวานใสเจือกระแสความสุขล้นไว้ให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเหลียวมองตามด้วยรอยยิ้ม
_____________________________________________________________________________
- กมนีย์ -