และมีหญิงสาวร่างเล็กๆ สวมเสื้อกล้ามกางเก่งขาสั้นยืนพลิกไก่ย่างพร้อมเปิดเพลงเสียงดัง เธอก็โยกย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนาน
"ส้มตำมาแล้วจ้า ไก่ย่างจ้า ไก่ย่างหอมๆ น่ากินเด้อจ้า "หญิงสาวร่างเล็กและปากจัดจ้าน เธอมีชื่อว่าลูกน้ำตาลหรือน้ำตาล อายุยี่สิบปีใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากอวบอิ่มจมูกโด่งคมสันดวงตาโตๆ ขนตางามงอน รูปร่างของเธอผิวพรรณดั่งน้ำผึ้ง เธอเป็นแม่ค้าขายส้มตำ และอาหารอีสานฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวย ขายของแต่ละวันก็ไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่
บางวันก็ขายขาดทุน แทบจะไม่พอซื้อของมาขายใหม่ บางครั้งขายได้เท่าต้นทุนก็มีถมไปและ เธอวาดฝันอยากเก็บเงินเยอะ จะได้เป็นมหาเศรษฐี สักครั้งในชาตินี้ นิสัยเธอร่าเริงและติดตลกแต่ว่าเรื่องเงินเธอขี้งกและตระหนี่ที่สุด และคำพูดจาแต่ละครั้งโผงผางไม่เหมือนผู้หญิงเลยสักนิด
แต่แล้วทันใดนั้นเธอยืนปิ้งไก่ ได้ยินน้ำเสียงดนตรีขบวนรถแห่นาคผ่านหน้าร้านของเธอ
"นังลูกตาลแกจะไปไหนวะ"หญิงชรานั่งสับมะละกอมองหญิงสาวก้าวขาอย่างรีบร้อน
"หนูไปเก็บเงินโปรยทานแป๊บป้า เดี๋ยวหนูมา"กระนั้นลูกตาลรีบขึ้นมอเตอร์ไซค์ขับออกไป เธอตามรถขบวนแห่นาค และยังมีเงินโปรยทานเต็มกระบุง และเธอก็มาถึงวัดแห่งหนึ่ง กระนั้นนาคกำลังเดินรอบโบสถ์และมีเสียงบรรเลงเพลงอย่างสนุกสนาน เหล่าผู้คนเต้นแร้งเต้นกาตามจังหวะมากมาย
บางคนสำราญกับการดื่มสุรา จนกระทั่งเดินวนโบสถ์ครบสามรอบ และฝ่ายนาครีบขึ้นประตูเตรียมเงินโปรยทาน ลูกตาลเตรียมร่มสีดำมาหนึ่งอันเธอกางออกและบอกให้ทุกคนหลบเธอแต่แล้ว เขาก็โปรยทานลงมามากมาย ต่างผู้คนในงานบวช ก็แย่งชิงเก็บเงินที่ห่อจากพัสดุต่างๆ มีสีสันหลายหลากอย่างวุ่นวาย
แต่แล้วลูกตาลถูกชายร่างมีน้ำหนักถึงร้อยกว่ากิโลกรัมทับร่างเล็ก แขนและขาเล็กๆ แทบจะหลังหัก เธอมาเก็บเงิน ครานี่แทบจะไม่คุ้มค่านัก
"เฮ้ยไอ้อ้วนออกไปหลังฉันจะหักแล้ว"
"