มหายุทธบัลลังก์สวรรค์ 天武皇座 The Great Battle of the Heavenly Throne โดย กิมจ๊อ 金橘

จีน

มหายุทธบัลลังก์สวรรค์ 天武皇座 The Great Battle of the Heavenly Throne โดย กิมจ๊อ 金橘

มหายุทธบัลลังก์สวรรค์ 天武皇座 The Great Battle of the Heavenly Throne โดย กิมจ๊อ 金橘

ศรีวริญ

จีน

4
ตอน
203
เข้าชม
0
ถูกใจ
3
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง
เด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสำนักกระบี่ ต้องว่ายวนไปในคลื่นแห่งโชคชะตา กว่าจะพบความจริงของชาติกำเนิดในฐานะผู้เปลี่ยนชะตาของสามภพ ทั้งยังต้องเลือกระหว่างความรัก หน้าที่ และความกตัญญู

คาแรคเตอร์ตัวละคร มหายุทธบัลลังก์สวรรค์  

  

เซียวหลิงเทียน (萧凌天 - Xiao Ling Tian) ชายหนุ่มอายุ 18 ปี รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาแฝงความแน่วแน่ นิสัยมุ่งมั่น กล้าหาญ แต่ไม่ใช่คนหยิ่งผยอง รักพวกพ้องและพร้อมเสียสละ เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงในสำนักเล็ก ๆ ก่อนจะพบว่าตัวเองเป็นผู้สืบทอดสายเลือดของจักรพรรดิเทพโบราณ 

วรยุทธประจำตัวคือ 

o         กระบวนท่า "มังกรสะบั้นสวรรค์" (天龙斩 - เทียนหลงจ่าน) 

o         เคล็ดลับ "มหายุทธบัลลังก์สวรรค์" (天武皇诀 - เทียนอู่หวงเจวี๋ย) 

  

  

ไป๋ชิงซิน (白清心 - Bai Qing Xin) หญิงสาวอายุ 17 ปี งดงามราวหิมะบนยอดเขา มีรัศมีเย็นชา แต่จิตใจอ่อนโยน ฉลาดหลักแหลม สุขุม เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของยุทธภพ บุตรีของเจ้าสำนักกระบี่หิมะ นางต้องเลือกระหว่างความรักและหน้าที่ในการปกป้องยุทธภพ 

วรยุทธประจำตัวคือ

o         "ดรรชนีจันทร์เยือกแข็ง" (寒月指 - หานเยวี่ยจื่อ)

o         "พลังเทพเซียนลี้ลับ" (玄仙心法 - เสวียนเซียนซินฝ่า)

 

เฟิงจื่อหาน (风子寒 - Feng Zi Han) 

ชายหนุ่มอายุ 22 ปี รูปงามราวเทพเซียน สวมชุดขาวบริสุทธิ์ มือถือพัดหยก ดวงตาลึกล้ำ อัจฉริยะนิ่งขรึม ดูเยือกเย็นแต่ภายในเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ทายาทของตระกูลขุนนางเก่าแก่ แต่ถูกหักหลังและจมดิ่งสู่เส้นทางแห่งความแค้น เขาเป็นคู่หมั้นของไป๋ชิงซินตั้งแต่วัยเด็ก   

วรยุทธประจำตัวคือ 

o         "กระบี่พยัคฆ์คำราม" (虎啸剑法 - หู่เสี้ยวเจี้ยนฝ่า) 

o         "พลังสุริยันนิรันดร์" (太阳真气 - ไท่หยางเจินชี่) 

  

เซียวอวิ๋นห่าว (萧云昊) ชายวัยกลางคนอายุ 50 ปี รูปร่างสูงใหญ่ บึกบึน ปรมาจารย์แห่งสำนักกระบี่เทวะฟ้า มีจิตใจเด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น บิดาของเซียวหลิงเทียน เป็นคนเดียวที่รู้จักสถานที่ซ่อนและผนึกรหัสคัมภีร์มหายุทธไว้ 

  

ไป๋หานเสว่ (白寒雪)  หนุ่มใหญ่อายุ 45 ปี รูปร่างผอมสูง สีหน้าเคร่งขรึม จิตใจเย็นชา บ้าอุดมการณ์ ให้ความสำคัญต่อเรื่องของยุทธภพมากกว่าความรู้สึกของคนในครอบครัว เป็นเจ้าสำนักกระบี่หิมะ ( 雪剑派 ) และเป็นบิดาของไป๋ชิงซิน 

 

เฟิงจิ้นเจา (風進昭) หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ห้าวหาญ เย่อหยิ่งในเกียรติศักดิ์ของตระกูล เป็นบิดาของเฟิงจื่อหาน และเป็นอดีตขุนพลของราชวงศ์เทพยุทธ   

ม่อเทียนหลง (墨天龙) ชายหนุ่มวัย 30 ปี ชุดดำสง่าดุดัน ร่างสูงใหญ่ดั่งขุนเขา ดวงตาสีแดงฉาน จิตใจโหดเหี้ยม ทะเยอทะยาน ต้องการโค่นสวรรค์เพื่อสร้างโลกใหม่ เป็นอดีตขุนพลเทพเซียนที่ถูกขับไล่จากสวรรค์เพราะต้องการครอบครองบัลลังก์ มีวรยุทธแก่กล้าคือวิชา "ฝ่ามือมังกรโลหิต" (血龙掌 - เซวี่ยหลงจ่าง) และ "พลังมารกลืนสวรรค์" (吞天魔功 - ทุนเทียนหมอกง) 

ม่อซั้งซั่ง (墨喪喪) เทพีแห่งงานศพ เป็นลูกสาวของม่อเทียนหลง ใครเป็นปฏิปักษ์กับบิดาของหล่อน นางจะนำความตายไปสู่ครอบครัวนั้น   

 เจียงเฟยหลง 姜飛龍 เจ้าสำนักมังกรฟ้า ผู้ถ่ายทอดวิชามังกรสะบั้นสวรรค์ให้แก่เซียวหลิงเทียน

เจียงลี่ซือ 姜丽思 ลูกสาวของเจียงเฟยหลง เจ้าสำนักมังกรฟ้า หน้าตาสวยงามราวนางฟ้า อายุสิบห้าแต่ปัญญาอ่อนเท่าเด็กห้าขวบ

หลี่เจียเป่า 李佳保 บุตรชายของหลี่เนี่ยนเจิน 李念真 เจ้าเมืองกัวโจว 涡州

ภูตน้ำแข็ง 冰雪精靈 สมุนคนหนึ่งของพรรคมาร เป็นคนที่ฝึกวิชาฝ่ามือน้ำแข็งเยือกเย็น เหยื่อที่ถูกเขาทำร้ายจะกลายเป็นศพที่มีเกล็ดน้ำแข็งเกาะ

 

ตัวละครประกอบบางตอน 

(1) ฉู่เยวี่ย 楚月 – เด็กหญิงสามตาแห่งเผ่าฮูลาปา 

เด็กหญิงที่มีตาที่สามซึ่งสามารถมองเห็นพลังชีวิตของผู้คน 

เชี่ยวชาญการควบคุมพลังปราณ  

มีความสามารถด้านเวทมนตร์ที่ทำให้มองเห็น "ทางเลือกที่ดีที่สุด" ในสถานการณ์คับขัน 

(2) เฉินกู่ – ภูติเต่าพันปีในทะเลสาบหมอกดำ 

เต่ายักษ์ที่มีอายุพันปี สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ 

เคยเป็นคู่ปรับของเทพเจ้ามาก่อน มีความรู้เกี่ยวกับวิชาที่หายสาบสูญ 

(3) เฮยลั่ว 黑雒 – นักดาบคลั่งที่ถูกผนึกในคุกน้ำแข็ง อดีตยอดนักดาบที่ถูกจองจำเพราะครั้งหนึ่งเขาพยายามทำลายสมดุลของโลก 

มีบุคลิกเยือกเย็นแต่พอพูดเรื่องดาบแล้วจะคลุ้มคลั่ง

(4) ฮัวซาง – หมอผีที่มีร่างเป็นกึ่งมนุษย์กึ่งแมลง 

ใช้วิชาพิษและเวทมนตร์วิญญาณ 

มีลูกศิษย์เป็นแมลงปีศาจที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ 

(5) หลี่จื่อเหวิน – มือสังหารที่ตาบอดแต่มีสัมผัสพิเศษ 

นักฆ่าในตำนานที่ไม่เคยพลาดเป้าหมาย 

(6) ซานเทียน – นักพรตจอมเมาแห่งภูเขาหมอกม่วง 

มักปรากฏตัวพร้อมกับไหเหล้า แต่ความจริงเป็นผู้ใช้วิชากระบี่ที่ร้ายกาจ 

(7) หงเทียน – ราชันย์อสรพิษแห่งป่าต้องห้าม 

อสรพิษขนาดมหึมาที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ 

ให้พลัง "พิษอสรพิษเทวะ" ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายได้ 

(8) ไป่เซียนจื่อ – เศรษฐีบ้าคลั่งที่สะสมสมบัติลับในแดนใต้ 

อดีตเซียนที่ใช้พลังของตนเพื่อสะสมสมบัติแทนการช่วยเหลือผู้คน 

มีหอสมบัติที่เต็มไปด้วยวัตถุโบราณและตำราเคล็ดวิชา 

(9) มี่มู่ 暮密 (ซานกุ่ย 山鬼)  – ผีสาวแห่งขุนเขา 

อดีตลูกสาวนายพรานที่ป่วยเป็นไข้ป่าเสียชีวิตกลายเป็นผีเฝ้าภูเขา ผิวขาว ผมยาวถึงเท้า 

มีพาหนะเป็นเสือดำ นุ่งห่มกายด้วยเถาวัลย์และใบไม้ ประดับผมด้วยดอกไม้หลากสี 

ชอบเป่าขลุ่ยไม้ไผ่ มักปรากฏตัวในเวลาโพล้เพล้ ใกล้ค่ำ ชื่อมี่มู่หมายถึงยามเย็นที่ลึกลับ 

 

 

เรื่องย่อ มหายุทธบัลลังก์สวรรค์ โดย กิมจ๊อ 金橘 

 

เซียวอวิ๋นห่าว (萧云昊) ปรมาจารย์แห่งสำนักกระบี่เทวะฟ้า นำทารกน้อยหลบหนีการไล่ล่าของจอมมารม่อเทียนหลง เพราะหากปล่อยให้เด็กรอดและเติบโตไปได้ จะเป็นอุปสรรคในการยึดครองสามภพของพวกปีศาจ 

หลังจากใช้วิชา ค่ายกลผนึกเก้าชั้นฟ้า 九霄封印阵 (Jiǔxiāo Fēngyìn Zhèn) สลักอักษรโบราณให้ซึมซาบเข้าไปยังหน้าผากของเด็กแล้วเขาก็โยนทารกลงไปยังหุบเหวเบื้องล่าง พร้อมตะโกนว่า เจ้าต้องรอด จักต้องลิขิตชะตาแห่งสามภพใหม่ แล้วสายอสุนีบาตก็ฟาดลงยังร่างของเซียวอวิ๋นห่าว พร้อมเมฆหมอกที่กลืนกินทารกน้อยหายไปในความมืด 

15 ปีต่อมา

อาหนิว เด็กกำพร้า ที่เติบโตมาในสำนักกระบี่หิมะ ( 雪剑派 ) ซึ่งเจ้าสำนักคือไป๋หานเสว่ (白寒雪)   เขาไม่รู้ว่าพ่อแม่คือใคร ตั้งแต่ลืมตาดูโลก เขาก็เรียกหานเสว่ว่าพ่อ ผู้ที่เก็บเขามาเลี้ยง ท่ามกลางคนในและนอกสำนักที่รังแก เหยียดหยามเขา ยกเว้นสองคนที่เป็นศิษย์ร่วมสำนักคือ ไป๋ชิงซิน ลูกสาวเจ้าสำนักและเฟิงจื่อหาน แม้อาหนิวฝีมือการร่ำเรียนวรยุทธจะต่ำต้อยที่สุดในสำนัก แต่คู่หมั้นคู่นี้หาได้ดูหมิ่นถิ่นแคลนเขาเลย กลับให้กำลังใจ คอยกระตุ้นเตือนให้เขาพัฒนาตนเองอยู่เสมอ 

 เฟิงจิ้นเจา อดีตขุนนางซึ่งผันตัวมาเป็นประมุขกองโจรป่า บิดาของเฟิงจื่อหาน ได้มาเยี่ยมลูกของตน พร้อมทั้งกำชับถึงพันธสัญญาในการหมั้นหมายของหนุ่มสาวทั้งคู่ รวมถึงภารกิจในการตามหาคัมภีร์มหายุทธบัลลังก์สวรรค์ เพื่อทำลายให้ฟ้นไปจากมือของพวกมาร และยังเล่าถึงอดีตอันเจ็บช้ำที่ตนถูกขุนนางกังฉินใส่ร้ายจนถูกไล่ออกจากราชการ จึงต้องการให้เฟิงจื่อหานเป็นเจ้ายุทธสามภพ จะได้ช่วยล้างมลทินให้พ่อ อีกทั้งกำจัดม่อเทียนหลงที่คุมอำนาจของราชสำนักเหนือจักรพรรดิหุ่นเชิด ที่มันแต่งตั้งจากพระโอรสองค์เล็กของฮ่องเต้องค์ก่อน ซึ่งจอมมารก็ส่งคนตามล่าคัมภีร์นั้นเช่นกัน

 

อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่เขาได้รับมอบหมายให้ขึ้นไปเก็บยาสมุนไพรบนยอดเขา ก็บังเอิญไปสะดุดก้อนหินประหลาดที่ส่องแสงสีน้ำเงินอ่อน เขาหยิบขึ้นมาดู พลันมโนสำนึกของเขาก็ถูกดึงดูดเข้าไปสู่ภาพเหตุการณ์ในอดีต บุรุษลึกลับในชุดขาว ฉากสงครามแห่งสวรรค์ และเสียงดังกึกก้องในหัวของเขาว่าสายเลือดของเจ้าถูกกำหนดมาเพื่อเปลี่ยนแปลงสวรรค์และปฐพี แล้วกระแสพลังปริศนาก็พลุ่งพล่านภายในร่างเขา 

หลายวันต่อมา มีชาวบ้านมาฟ้องว่าถูกสมุนของม่อเทียนหลงรังแก ประมุขไป๋จึงให้อาหนิว พร้อมชิงซินและจื่อหาน พร้อมกับบรรดาศิษย์ในสำนักไปช่วย กับทหารที่เป็นคนธรรมดาก็ไม่ยากที่จะรับมือ  แต่กับปีศาจระดับผู้คุมนั้นพวกสำนักกระบี่หิมะสู้ไม่ได้ ขณะที่ชิงซินกำลังจะได้รับอันตรายนั้น อาหนิวก็พุ่งตัวเข้าไปขวางคมดาบ แต่พลังลึกลับในตัวของเขาได้เปล่งประกายเป็นสายฟ้าฟาดใส่อสูรเหล่านั้นหงายหลังไป พร้อมกับหน้าผากของเขาที่แสดงสัญลักษณ์อักขระโบราณออกมาก เหล่าอมนุษย์เห็นดังนั้นก็ตกใจกลัวหนีกลับไป เหตุการณ์นั้นสร้างความประทับใจให้ชิงซินที่มีต่อความกล้าหาญของอาหนิวมาก

 

เมื่อกลับไปยังสำนัก ชิงซินได้เล่าเรื่องที่ไปพบเจอให้บิดาฟัง ประมุขไป๋ก็กล่าวกับเฟิงจิ้นเจาว่า ชะรอยอาหนิวจะเป็นเซียวหลิงเทียน (萧凌天) ทายาทของเซียวอวิ๋นห่าว (萧云昊) ปรมาจารย์แห่งสำนักกระบี่เทวะฟ้าที่สาบสูญไปเมื่อ 15 ปีก่อน จึงกำชับให้ไป๋ชิงซินจับตาดูอาหนิวให้ดี ถ้าพบว่าเขาคือเซียวหลิงเทียนจริงและเกี่ยวข้องกับคัมภีร์มหายุทธก็ให้ฆ่าเขาเสียเพื่อมิให้พวกม่อเทียนหลงได้คัมภีร์ไป 

 

แท้จริง เฟิงจื่อหานมิได้เต็มใจที่จะแต่งงานกับไป๋ชิงซิน เพราะมิได้รักเหมือนคู่รักหนุ่มสาว แต่จำต้องรับภาระนี้เพื่อบรรลุเจตนารมณ์ของบิดาในการผนึกพลังสองตระกูล และสร้างความแข็งแกร่งให้ตระกูลเฟิง เพื่อล้างมลทินให้บิดา แล้วจึงจะปลดพันธสัญญาออกจากตระกูลไป๋ และคัมภีร์มหายุทธคือสิ่งที่ตระกูลของเขาต้องการครอบครองเพื่อให้จื่อหานเป็นเจ้ายุทธภพ ซึ่งเขาไม่ปรารถนาตำแหน่งนั้นเลย

ฝ่ายไป๋ชิงซินเองก็มีใจให้อาหนิวมาแต่ไหนแต่ไร เพียงมิกล้าแสดงออก ยิ่งได้รับคำสั่งให้ฆ่า หากรู้ว่าอาหนิวคือเซียวหลิงเทียน นั่นยิ่งทำให้หล่อนลำบากใจที่จะเลือกระหว่างความรักกับหน้าที่

 

ทางด้านม่อเทียนหลง เพื่อได้รับรายงานจากสมุนที่ไปพบสัญลักษณ์บนหน้าผากของอาหนิว เขาก็มั่นใจว่าอาหนิวจะต้องเป็นเซียวหลิงเทียนที่ตามหามานานแน่นอน จึงสั่งให้ส่งกองกำลังปีศาจออกตามล่าอาหนิวมาให้ได้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเปิดผนึกคัมภีร์มหายุทธ ซึ่งยังไม่รู้ว่าคัมภีร์อยู่ที่ไหน

 

นอกจากสองตระกูลใหญ่และจอมมารแล้ว สำนักกระบี่เทวะฟ้าก็ตามหาเซียวหลิงเทียนเช่นกัน หลังจากเซียวอวิ๋นห่าวสูญหายไปพร้อมบุตรชาย ก็ไร้ผู้นำที่เข้มแข็ง สถานะของสำนักง่อนแง่นคลอนแคลนจนเกือบถูกลบออกจากบัญชียุทธภพ บังเอิญมีคนของสำนักไปพบเหตุการณ์ปะทะกันของพวกอาหนิวกับปีศาจที่ตลาดวันนั้น ทำให้มั่นใจว่าทายาทของอดีตเจ้าสำนักยังมีชีวิตอยู่และอาหนิวก็คือเซียวหลิงเทียนแน่นอน

 

กองกำลังปีศาจของม่อเทียนหลงได้บุกไปยังสำนักกระบี่หิมะ เรียกร้องให้ประมุขไป๋ส่งตัวอาหนิวให้พวกเขา เพื่อหวังจับให้อาหนิวไปค้นหาและเปิดผนึกคัมภีร์ แต่ไป๋หานเสว่ไม่ยอมมอบให้ กลับสั่งให้ไป๋ชิงซินและเฟิงจื่อหานแอบพาอาหนิวหนีไป พร้อมกำชับให้ฆ่าอาหนิวเสียระหว่างทาง เพื่อตัดหนทางการได้คัมภีร์ไปตลอดกาล แล้วประมุขไป๋กับเฟิงจิ้นเจาก็ช่วยกันต่อสู้กับเหล่าปีศาจถ่วงเวลาให้บุตรของตนหนี และทั้งสองคนก็โดนปีศาจฆ่าตาย

 

ไป๋ชิงซินใช้วิชาดรรชนีจันทร์เยือกแข็ง (寒月指 - หานเยวี่ยจื่อ)  

เฟิงจื่อหาน ใช้วิชากระบี่พยัคฆ์คำราม (虎啸剑法 - หู่เสี้ยวเจี้ยนฝ่า)

และอาหนิวใช้ วิชามังกรสะบั้นสวรรค์" (天龙斩 - เทียนหลงจ่าน) ในการต่อสู้กับพวกสมุนของม่อเทียนหลงเพื่อเปิดทางหนี

อาหนิวไม่เข้าใจว่าทำไมพวกปีศาจจึงต้องการตัวเขาไป และเขาไปเกี่ยวอะไรกับคัมภีร์ซึ่งเขาไม่รู้จัก

 

พวกสำนักกระบี่เทวะฟ้าซึ่งมีลายแทงที่ซ่อนคัมภีร์ ได้สะกดรอยตามอาหนิวไปจนถึงสำนักกระบี่หิมะ ก็พบว่าเขาไม่อยู่แล้ว จึงแบ่งกำลังออกติดตามถึงสิบทิศ 

 

เมื่อตามไปจนทราบที่อยู่ของทั้งสามหนุ่มสาว พวกสำนักกระบี่เทวะได้จัดฉากว่าตายายสองคนถูกโจรปล้น เพื่อล่อให้ไป๋ชิงซินกับเฟิงจื่อหานออกไปช่วย ทิ้งให้อาหนิวอยู่เพียงลำพัง เมื่อศิลาสีน้ำเงินในมือของผู้ติดตามเข้ามาใกล้ พลังลึกลับในตัวของเซียวหลิงเทียนก็ยิ่งแผ่ซ่าน แทรกซึมทั่วทุกอณูกาย เขากุมหน้าอกและถามตนเองว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พร้อมกับเงาดำลึกลับ 

เบื้องหลัง เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา เงาดำลึกลับปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางสายลมอันหนาวเหน็บ 

“ในที่สุด เจ้าก็ตื่นขึ้นมาแล้ว...ทายาทแห่งจักรพรรดิเทพ” 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว