“เธอ!...”
“อคิราห์ หนุ่มหล่อวัยยี่สิบแปดปี เจ้าของร้านขายอะไหล่รถจักรยานยนต์”
เขาเอ่ยเรียกแฟนสาวของตนเองด้วยคำแทนชื่อเล่นและชื่อจริง แฟนสาวที่เขาคบหามานานถึงสามปี
“ว่าไง?”
“เกสรา เธอมีชื่อเล่นว่า แก้ว หญิงสาววัยยี่สิบหกปี เธอมีอาชีพขายของออนไลน์ เธอเป็นคนค่อนข้างมีชื่อเสียงในโลกโซเชียล หรือที่เรียกกันว่า คนดังหรือเน็ตไอดอลนั่นเอง”
เธอขานตอบอคิราห์ด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยหน่ายเนื่องด้วยรู้ทันว่าเขาจะพูดอะไรต่อหลังจากนี้
เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มที่เธอกำลังนั่งทำงานอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นของบ้าน
“วันนี้คินไปเตะบอลกับเพื่อนนะ”
เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“จะมีสักวันไหมที่ไม่ไปเตะบอล?!”
เธอถามอย่างไม่พอใจ แสดงสีหน้าท่าทางชัดเจนเพื่อให้เขารับรู้ถึงอารมณ์ของเธอ
“อยู่บ้านก็ไม่มีไรทำ น่าเบื่อ! คินไปเตะบอลกับเพื่อนสนุกกว่า”
เขาตอบอย่างไม่ได้สนใจความรู้สึกของอีกฝ่าย
“อยากไปมากก็ไปเหอะ”
เธอพูดจบก็ก้มหน้าทำงานต่อ
“ไปซิ!”
เธอเงยหน้าไล่เขาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขานั้นยืนจ้องหน้าเธออยู่ไม่ยอมกระดิกตัวไปไหน และเขาแสดงสีหน้าไม่พอใจเช่นกัน
“ถ้าคินไปเธอก็งอนอะ”
เขาว่าแล้วก็เดินไปนั่งโซฟาตัวยาวที่อยู่มุมห้องนั่งเล่น
“ถ้าอยู่แล้วมานั่งทำหน้าบูดหน้าเบี้ยวแบบนี้ก็ไปเถอะคิน!”
เธอพูดประชดประชันอีกครั้ง และครั้งนี้อคิราห์ก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป เพียงไม่นานเสียงรถยนต์ก็ดังขึ้นและค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ตามระยะที่ขับห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียง
เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างเบื่อหน่ายกับชีวิตคู่ที่หนีกันไปไม่พ้นเสียที จะกี่ร้อยครั้งที่เขาทำให้เธอเสียใจ เพียงเขากล่าวคำขอโทษและออดอ้อนเท่านั้นก็ให้อภัยเขาทุกที
เธอคบหากับเขามานานถึงสามปี ในช่วงปีแรกๆ เขาเป็นผู้ชายที่ดีมากๆ ใครๆ ก็ต่างอิจฉาเธอที่มีคนรักดีๆ อย่างอคิราห์ จนเธอกับเขาตกลงย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของเธอทั้งที่เพิ่งคบหากันได้เพียงไม่นาน
พอเริ่มคบหากันถึงสองปีกว่าๆ เขาก็เริ่มออกลาย นิสัยของผู้ชายห่วยๆ ที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่ได้รู้และได้เห็น จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลานี้ ครบรอบสามปีที่อยู่ในสถานะแฟนกัน
“ทำไรอยู่? ว่างคุยไหม?”
หลังจากนั่งสงบสติอารมณ์ตัวเองได้แล้ว เธอจึงกดโทรหาเพื่อนสาวคนสนิทที่คอยอยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด ไม่เคยหายไปไหนเลยสักครั้ง
“ว่างๆ ว่าไง?”
“เหงา”
“แกนี่นะ! เมื่อไหร่จะเลิกกับผู้ชายห่วยๆ ได้สักที”
“จิณดา หรือจิน หญิงสาวเพื่อนสนิทของเกสรา เธอเป็นผู้หญิงที่มีความเด็ดขาดและมีทัศนคติที่ดี เนื่องจากถูกเลี้ยงดูมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างอบอุ่น เพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน ตอนนี้เธอมีร้านขนมหวานเป็นของตัวเอง และที่สำคัญก็คือเธอมีแฟนที่คบหากันมานานถึงหกปีและกำลังจะแต่งงานกันในกลางปีหน้า”
“ก็ฉันรักมัน…”
“แล้วแต่แกจะทนแล้วกัน ยังไงแกก็เพื่อนสนิทคนเดียวของฉัน ฉันไม่ทิ้งแกอยู่แล้ว แต่ฉันเชื่อนะว่าถ้าแกเลิกกับมันได้เมื่อไหร่แกจะเจอผู้ชายที่ดีจริงๆ แล้วก็รักแกมากๆ จนไม่กล้าทำให้แกเสียใจเลยสักนิดเดียว ยกตัวอย่างเช่นน้องชายของฉัน!!”
จิณดาพูดประโยคนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนสนิทนั้นจบความสัมพันธ์กับผู้ชายห่วยๆ แบบอคิราห์เสียที ด้วยนิสัยเธอเป็นคนที่เด็ดขาดจึงค่อนข้างตัดคนออกจากชีวิตได้ง่ายดาย หากคนผู้นั้นทำให้เธอเสียใจแม้แต่นิดเดียว
อีกทั้งยังพูดถึงน้องชายแท้ๆ ของตัวเองที่มีใจรักมั่นในตัวของเกสรามาตั้งแต่ก่อนที่เกสราจะรู้จักกับอคิราห์เสียอีก
“ขอบใจนะแก แต่ตอนนี้ฉันยังรักมันอยู่…”
เธอใช้เวลาคุยเรื่องราวต่างๆ กับเพื่อนสนิทอยู่ครู่เดียวก็วางสายจบบทสนทนา
สายตาเหลือบไปมองรูปถ่ายขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนังห้องนั่งเล่น พรางถอนหายใจออกมาเบาๆ อีกครั้ง ในใจภาวนาให้คนรักกลับตัวกลับใจได้เสียที บอกให้เขานั้นกลับมาเป็นคนเดิมที่แสนดีของเธออีกครั้ง แต่ก็ต้องหลับตาลงอย่างเหนื่อยๆ เนื่องจากรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นเพียงความหวังลมๆ แล้งๆ
กริ่งๆๆๆ
เสียงกริ่งดังจากหน้าบ้านทำให้เธอหลุดออกจากความคิดลมๆ แล้งๆ นั่น เธอได้สติจึงรีบลุกขึ้นไปดูว่าใครกันที่มาหาเธอในเวลามืดค่ำขนาดนี้
“วินท์”
เธอขานชื่อคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจ เพราะเธอกับจิณดาเพิ่งพูดถึงเขาไปเมื่อครู่
“ไรวินท์ หรือวินท์ น้องชายแท้ๆ ของจิณดา อายุห่างกันเพียงหนึ่งปี เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา อารมณ์ดี เข้ากับทุกคนได้ง่าย เป็นที่รักของคนรอบข้าง เขามักจะสร้างเสียงหัวเราะให้คนใกล้ตัวเสมอ เขามีทัศนคติที่ดี มีจิตใจเมตตาแก่ผู้อื่นอยู่เสมอ เขาอ่อนโยนกับทุกคน แต่จะแข็งกร้าวหากโดนเอาเปรียบ เขารักความยุติธรรม และเขาเป็นคนที่มั่นคงต่อความรักอย่างชัดเจน”
ไรวินท์กับเธอรู้จักกันมานานมากแล้วจากการแนะนำจากจิณดา ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เธอรู้ดีว่าไรวินท์รู้สึกเช่นไรกับเธอ แต่เธอเองไม่อยากที่จะเสียเพื่อนรักไปเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับน้องชายของเพื่อนรัก…
“วินท์เอาขนมเค้กร้านพี่จินมาฝาก”
เขายื่นถุงขนมให้แก่เธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ขอบใจนะ”
เธอรับมาถือไว้ในมือก่อนจะกล่าวขอบคุณเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ทำอะไรอยู่เหรอ? หน้าตาเครียดเชียว…”
เขาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย ทุกครั้งที่เธอมีเรื่องไม่สบายใจเขามักจะดูออกเสมอ…
“ทะเลาะกับแฟนนิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้โอเคแล้ว”
เธอตอบไปด้วยท่าทีเหนื่อยๆ
“อ๋อ…งั้นวินท์กลับก่อนนะ”
เขาจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เธอพูดถึงอคิราห์ เขาไม่เคยปลอบใจเธอเลยสักครั้งหากเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับอคิราห์ แต่หากเป็นปัญหาเรื่องอื่นไรวินท์จะหาคำพูดมาปลอบโยนเธอจนกว่าเธอจะหายเครียดหรือหายกังวลใจ ไม่รู้ว่าทำไมกัน…
“ขับรถดีๆ นะ”
เขาพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถยนต์คันหรูของเขาและค่อยๆ ขับออกไปช้าๆ เธอยืนมองรถเคลื่อนออกไปไกลจนลับตาก่อนจะเดินถือถุงขนมเข้าบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว