“หมายความว่ายังไง?” น้ำเสียงเย็นชาช่วยยืนยันความไม่พอใจของเขาได้เป็นอย่างดี “คุณกำลังปฏิเสธความรู้สึกของผมอยู่งั้นเหรอ? เพียงเพราะผมเป็นเด็กใช่ไหมฮะ?”
“นี่...” ไม่ว่าจะเป็นความฝันหรือไม่ก็ตามฉันควรรีบไล่เขาให้ออกจากห้องไป แต่แค่เอื้อนเอ่ยได้เพียงคำเดียว เขาก็พูดขัดฉันขึ้นมาทันที
“คุณรู้ไหม?” ฉันสังเกตว่าน้ำเสียงที่ต่ำกว่าเคยนั้นกำลังสั่น อาจจะด้วยความโกรธหรือห้วงอารมณ์อื่นใด แต่แขนเรียวเล็กที่โอบกอดฉันนั้นยิ่งรัดแน่นกว่าเดิมจนฉันเริ่มรู้สึกอึดอัด “ผมต้องรวบรวมความกล้านานแค่ไหนเพื่อจะมาสารภาพรักคุณในวันนี้น่ะ แต่คุณกลับประเมินค่าว่าเป็นความรู้สึกของเด็กแค่นั้นเองเหรอฮะ?”
“โอ...” เป็นอีกครั้งที่คำพูดของฉันถูกเขาขัดเพียงแค่อ้าปากเอ่ยพยางค์แรกออกมา
“จะไล่ผมอีกแล้วเหรอฮะ?” เขาโพล่งถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูปลงตกจนน่าสงสาร “ทุกคืนเลย...”
“มัน...ดึกมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เธอจะเข้าเรียนสายเอาได้นะ”
“พรุ่งนี้วันหยุดนี่ฮะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาเช่นทุกครั้ง “แต่เอาเถอะ ผมกลับออกไปก็ได้ คุณเองก็ควรจะได้พักผ่อน”
ฉันรู้สึกโล่งใจมากขึ้นเมื่อได้ยินประโยคหลัง จึงนั่งเงียบแล้วรอให้เขาปล่อยฉัน ความเงียบงันสิงสู่ห้องนี้อยู่หลายครู่ แต่เขาก็ยังคงโอบกอดฉันเอาไว้แน่นโดยไม่พูดอะไรเช่นกัน ฉันพยายามลุกออกไปจากตักของเขาแต่ก็ไม่อาจฝืนแรงจากอ้อมแขนที่รัดแน่นได้เลย
“โอเวน เอ่อ... กลับดีๆ นะ” ฉันพยายามไล่เขาอย่างอ้อมโลก
“ได้ฮะ” เขาตอบรับคล้ายกับจะรู้ความแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนออกจากฉัน
“แล้ว...ทำไมยังไม่กลับล่ะ?”
“ผมไม่ได้บอกนี่ฮะ ว่าจะกลับตอนไหน”
“…”
*** เรื่องนี้เป็นภาคต่อของเรื่องเด็กหนุ่มลึกลับท่ามกลางสายฝนนะคะ