“ฮองเฮาเพคะ อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารรสเลิศที่ห้องเครื่องทรงตั้งใจทำเพื่อพระองค์ เชิญพระองค์ทรงเสวยเพคะ” นางกำนัลอาวุโสจากห้องเครื่องเอ่ยขึ้นเมื่อจัดวางอาหารบนโต๊ะเสร็จ
หลี่เยว่เล่อยกยิ้มขึ้นเมื่อมองดูอาหารบนโต๊ะที่ตกแต่งอย่างประณีตแลดูสวยงามน่าลิ้มลอง หากหลู่ม่านม่านไม่ได้เล่าเรื่องที่นางกำนัลพวกนี้กลั่นแกล้งน้องสาวของนางมาก่อน นางคงเผลอกินอาหารเหล่านี้เข้าไปอย่างไม่ระวังเป็นแน่ เพราะน้องสาวของนางร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก นางจึงกินยาหลายขนานทำให้ลิ้นของนางไม่รับรส บางครั้งอาหารก็เปรี้ยวจัด บางครั้งอาหารก็ไม่สดใหม่ ทำให้น้องสาวของนางปวดท้องบ่อยครั้ง
หลี่เยว่เล่อใช้ตะเกียบคีบอาหารเพียงเล็กน้อยเข้าปาก เพียงอาหารแตะที่ลิ้นนางก็รับรู้ถึงความเปรี้ยวของอาหาร นางพยายามฝืนกลืนและทำสีหน้าให้ปกติราวกับว่าไม่รับรู้รสชาติใดๆ
‘ในเมื่อน้องสาวของข้าให้อภัยพวกเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเจ้ากลับไม่สำนึก เช่นนั้นวันนี้ข้าจะให้พวกเจ้าได้รับโทษที่ทำกับน้องสาวของข้า’ หลี่เยว่เล่อคิดในใจก่อนจะส่งยิ้มมายังเหล่านางกำนัลที่ยืนอยู่
“วันนี้ข้าไม่ค่อยอยากอาหาร แต่จะทิ้งอาหารเหล่านี้ข้าคงรู้สึกผิดต่อชาวบ้านที่อดอยาก อีกทั้งอาหารทุกจานก็ล้วนมาจากภาษีของราษฎร เช่นนั้นจะทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ได้พวกเจ้าช่วยเรากินหน่อยแล้วกัน” หลี่เยว่เล่อเอ่ยพร้อมมองหน้าเหล่านางกำนัลที่ยืนหน้าซีดเผือด พวกนางต่างมองกันไปกันมาอย่างเลิ่กลั่ก
“เช่นนั้นพวกหม่อมฉันจะเอากลับไปแจกจ่ายให้นางกำนัลในห้องเครื่องได้ทานนะเพคะ” นางกำนัลอาวุโสรีบเอ่ยปาก
“คงทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะหากเจ้าเอาอาหารเหล่านี้กลับไป นางกำนัลห้องเครื่องของไทฮองไทเฮาเห็นเข้าก็คงไปรายงานไทฮองไทเฮาเป็นแน่ ไม่เพียงแค่ข้าจะลำบากใจที่ทำให้ไทฮองไทเฮาเป็นห่วง หากไทฮองไทเฮาทรงคิดมากจนประชวรข้าคงรับโทษนี้ไว้ไม่ไหว พวกเจ้าคิดเหมือนเราหรือไม่ แต่หากพวกเจ้ารับโทษนี้ไหวก็เอากลับไปเถิด”
เมื่อหลี่เยว่เล่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับอันใดก็ลุกจากโต๊ะไปนั่งที่เก้าอี้ที่มีพนักพิงก่อนจะนั่งแอ่นตัวอย่างสบายใจ นางผายมือเป็นนัยให้เหล่านางกำนัลเหล่านั้นนั่งกินอาหารบนโต๊ะ นางนั่งดูหน้าเหยเกของนางกำนัลยามเอาอาหารเหล่านั้นเข้าปากและยกยิ้มอย่างพอใจ