ตัวอย่างบางช่วง บางตอน
“พี่เพลิง ปล่อยพุดนะ”
“ไม่ปล่อย เรายังไม่ได้สะสางเรื่องเมื่อคืนกันเลยนะ” ยังไม่ได้สะสาง เขาพูดออกมาได้อย่างไร แล้วไอ้ที่อะไรมันเกินเลยจนต้องมาอยู่ในสภาพนี้ มันไม่ใช่การสะสาง ความผิดของเขาเหรอ
“เรื่องอะไรคะ” พุดชมพูย้อนถามกลับไป เพราะมั่นใจว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด
“กล้าดียังไง ถึงไปป่าวประกาศว่าเลิกรักพี่ได้แล้ว หือ”
“ทีพี่เพลิงยังทำได้ ทำไมพุดจะทำไม่ได้ละคะ”
“มาเอาอะไรกับคนโลเลแบบพี่ ว่าแต่พุดทำได้จริงเหรอ”
“ได้แน่นอนค่ะ”
“แล้วไอ้ที่ร้องคราง พี่เพลิงคะ อือ อา เมื่อคืนมันคืออะไร”
เพลิงพยัคฆ์ทำเสียงเล็กเสียงน้อย ล้อเลียนเรื่องน่าอับอายของเธอ จนพุดชมพูอยากจะมุดหน้าให้ทะลุฟูกนุ่มลงไปเลยทีเดียว
“พี่เพลิงล่อหลอกพุด ปล่อยพุดนะ พุดจะไปเก็บเสื้อผ้ากลับบ้านแล้วค่ะ” เธอโยนความผิดให้เขารับไป
“ไม่ พี่จะไม่มีวันปล่อยเราไปไหนอีก”
เพลิงพยัคฆ์น้ำเสียงจริงจัง คนฟังหันไปมองหน้าเขาด้วยความไม่แน่ใจ
“แต่พี่เพลิงไม่ได้อยากให้พุดอยู่ที่นี่”
เธอบอกกลับไปอย่างมีแง่งอน เมื่อไม่กี่วันก่อนยังไล่เช้าไล่เย็น พอมาถึงตอนนี้กลับไปให้เธอไปไหน หึ เขาเป็นคนประเภทไหนกันแน่
“นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ใครจะยอมปล่อยไป เมียทั้งคนนะไม่ใช่ลูกหมา” ดูเขาเปรียบเทียบเข้า
“ทำไมเป็นคนโลเลแบบนี้คะ”
“พี่ยอมรับว่าเป็นคนโลเล อ่ะ...จะว่าอะไรอีกว่ามาพี่พร้อมน้อมรับ”
เพลิงพยัคฆ์ขยับร่างเปลือยเปล่าขึ้นพิงหัวเตียงในท่าทางกึ่งนั่งกึ่งนอน ท่อนขาที่กดทับเธอไว้ยกออก แต่เปลี่ยนมาลากร่างนุ่มนิ่มขึ้นมานั่งเกยตักแทน
“พี่เพลิงจะเอายังไงกับพุดกันแน่คะ”
พุดชมพูสับสนกับท่าทีของเขาจนทำตัวไม่ถูก จึงตัดสินใจถามออกไปตรงๆ
“ก็เอาแล้วนี่ไง”
ความหมายกำกวมของคำว่า เอา ทำให้คนฟังหน้าแดง
“พี่เพลิง เอ่อ ขอพุดไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเรามาคุยกันดีๆ ได้ไหมคะ” หญิงสาวยื่นข้อเสนอ
“ไม่ล่ะ พี่ชอบแก้ผ้าคุยกับพุดมากกว่า” พุดชมพูแทบร้องไห้กับคำพูดแบบกำปั้นทุบดินของเขา
“พี่เพลิง...”
เธอเรียกชื่อเขาด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ บทเขาจะร้ายก็ร้ายจนเธอน้ำตาตก บทเขาจะงี่เง่าเอาแต่ใจ พุดชมพูก็รับมือไม่ไหวเช่นกัน