เธอหนีการคลุมถุงชนของมารดาและเสี่ยออกมาได้อย่างเฉียดฉิว เธอไม่รู้จะไปที่ไหน ได้แต่ขับรถมาเรื่อย ๆ เพียงอยากหนีออกมาจากตรงนั้นให้ไกลที่สุด ลืมไปเลยว่าขับรถออกมาไกลแค่ไหนและกี่ชั่วโมง รู้ตัวอีกทีสองข้างทางก็เต็มไปด้วยท้องไร่ท้องนา ป่าเขา และฝูงวัวควายที่กำลังยืนเล็มหญ้าอยู่กลางทุ่ง
สโรชาค่อย ๆ ผ่อนรถจนจอดสนิทอยู่ริมถนนลูกรัง นาทีนี้ไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหน จุดหมายปลายทางอยู่แห่งหนใด ทว่าหล่อนกลับมีรอยยิ้มพิมพ์บนใบหน้า เมื่อเห็นป้ายบอกทางว่าที่นี่คือที่ใด อย่างน้อยก็ไกลกรุงเทพฯ พอสมควร เสี่ยกุลชรกับผู้เป็นมารดาคงตามมาไม่ได้แน่
พอนึกได้อย่างนั้นก็รีบเปิดแอปพลิเคชันเพื่อหาห้องพักสำหรับคืนนี้ เมื่อเลือกสถานที่ที่พอใจแล้ว สโรชาจึงรีบขับรถไปยังจุดหมายที่เลือกในทันที นี่ก็จวนจะค่ำแล้ว ด้วยความที่หล่อนขับรถมาเป็นเวลานานเกือบแปดชั่วโมง บวกกับเพิ่งเคยขับนาน ๆ อย่างนี้เป็นครั้งแรก จึงเกิดอาการเมื่อยล้าและวูบไปชั่วขณะ ทำให้รถของหล่อนเสียหลักลงข้างทาง
รู้ตัวอีกทีหล่อนก็มานอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว และมีชายแปลกหน้าคนหนึ่งอ้างตนว่าเป็นญาติ หล่อนถามให้แน่ใจว่าไม่ใช่คนของเสี่ยกุลชรแน่ ก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ คลายความกลัวลงอย่างมากมาย ส่วนเขาคนนี้เป็นใครค่อยว่ากันอีกที อย่างน้อยเขาก็คือผู้มีพระคุณกับหล่อน
นับจากนี้อะไรจะอุบัติขึ้นกับชีวิตของเธอ ก็จะยอมรับมัน อย่างไรก็ตาม แค่เพียงเธอไม่ต้องกลับไปตกนรกอยู่กับเสี่ยพุงพลุ้ยกุลชรก็พอ
ชลัน