โปรยปราย
“ประกันงั้นเหรอ เงินประกันคุณจะพอซ่อมรถผมหรือเปล่า เอาแบบนี้แล้วกันนะ ต่างคนต่างซ่อม คุณซ่อมรถคุณไป ส่วนรถผมผมซ่อมเอง” ดูแล้วน่าจะไม่ไหว
กวินกานต์อ้าปากค้าง นี่เขากำลังดูถูกประกันรถชั้นหนึ่งของเธอ ที่เฝ้าอุตส่าห์เก็บเงินต่อเมื่อ... พอนึกได้จึงหันไปมองแผ่นกระดาษที่ติดอยู่หน้ากระจกรถ ชิ-หายละ ประกันหมดอายุ นี่เขาคงเห็นใช่ไหม ถึงได้พูดประโยคนั้น โชคดีนะที่ยังไม่โวยวายคิดว่าเขาดูถูก แก้มเอ้ยแก้ม รถยับเยินขนาดนี้ ประกันก็ดันมาขาด
“อ้าว! ว่าไงล่ะคุณ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ไม่ให้ฉันรับผิดชอบ” คนผิดยิ้มเศร้า “ฮือ”
มาร์ตินตกใจเมื่อจู่ ๆ คนผิดกลับร้องไห้โศกเศร้าเหมือนญาติเพิ่งเสีย อะไรของผู้หญิงคนนี้เนี่ย สติสมประกอบอยู่หรือเปล่า
“คุณโอเคไหม” มาถึงจุดที่คนถูกชนท้ายต้องถามคนมาชนแล้วเหรอเนี่ย และไม่ใช่แค่นั้น เจ้าหล่อนยังเดินเข้ามาซบอก ใช้เสื้อตนเป็นที่ซับน้ำตา เอ้า! เอาเข้าไป ซับน้ำตาไม่พอยังสั่งน้ำมูกใส่อีก ผู้หญิงอะไรเนี่ย
“ฉันโอเค ขอบคุณนะที่ให้เช็ดน้ำตา” บอกเขาแล้วยกใบหน้าออก และต้องตกใจซ้ำหนักกว่าเดิม เมื่อเห็นคราบน้ำมูกบนเสื้อของเขา
“เป็นผู้หญิงแบบไหนเนี่ย” มาร์ตินเริ่มไม่เข้าใจ เจอผู้หญิงมากมายแต่ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้
“ฉันโทรหาประกันไม่ได้แล้วล่ะ” น้ำเสียงเศร้าบอกคนตรงหน้า
“ทำไม” อย่าบอกนะว่าลืมเอาโทรศัพท์มา
“ฮือ” กวินกานต์ร้องไห้โฮเสียงดังขึ้นมาอีก “ประกันหมดอายุเมื่อวานน่ะสิ ฉันงานยุ่งจนลืมดูแจ้งเตือน”