ข้ากลับมาเพื่อล้างแค้น

   ณ ห้วงเวลาหนึ่งในความรุ่งโรจน์ของมนุษย์และปีศาจ พื้นที่อิทธิพลของทั้งสองฝ่ายเริ่มขยายและกัดกินขึ้นเรื่อยๆ ทรัพยากรถูกฉกฉวยแย่งชิงจากเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่า จนเกิดความบาดหมางลุกลามกว่าครึ่งมหาทวีป บรรดาปีศาจนั้นเห็นอีกฝ่ายเป็นเพียงสิ่งที่ต้องกำจัดให้พ้นทาง

กับมนุษย์เองต้องดิ้นรนเพื่อความคงอยู่ของเผ่าพันธุ์ ในปีที่3ของสงครามอันโหดร้ายและป่าเถื่อน ภายใต้ความกดดันราวกับถูกผลักให้อยู่บนปากขอบเหวลึก เหล่าพันธสัญญาแห่งแสงได้ยื่นมือเข้าสนับสนุนฝ่ายมนุษย์ โดยส่งอาวุธหนึ่งเดียวที่แสนอันตรายและทรงพลังอย่าง 'อัศวิน อีรอส '

นำกำลังเข้าตีกองทัพของปีศาจจนละลายหายไปกว่าครึ่ง 

 

     สถานการณ์เริ่มพลิกกลับและตั้งตัวได้ ฝ่ายมนุษย์ผนึกกำลังกัน ขับไล่ผู้บุกรุกจนถอยร่นสุดเขตชายแดนตนเอง นั่นเป็นเพียงโอกาสเดียวในการยุติสงครามที่จะยืดเยื้อในอนาคต อีรอสทำการชักธงรบในสรภูมิสุดท้าย ซึ่งถูกขนานนามในเวลาต่อมาว่า สมรภูมิเลือดแห่งทุ่งกราเวน ปีศาจถูกสังหารและไล่ต้อนไม่ผิดฝูงมดแตกรัง จนลมหายใจของปีศาจตนสุดท้าย ที่รวยรินอยู่ภายใต้ต้นไม้แห่งชีวิตของทวีปมืดได้หมดลง มนุษย์ได้รับชัยชนะ ทว่า มันยังเหลือปีศาจอีกหนึ่งตน และปีศาจที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าปีศาจในสายตาของมนุษย์นั่นก็คือ อีรอส

 

      เขาถูกฝ่ายมนุษย์ด้วยกันเองหันดาบใส่ และแน่นอนว่าแรงสนับสนุนไม่ได้มาจากไหน นอกจากคำยุยงของพันธสัญญาแห่งแสง ที่ต้องการปลดระวางตัวเขาหลังจากครองอำนาจนานเกินไป การหักหลังในครั้งนี้นำโดย มัสติน แกรนเดรส

ผู้เสียบดาบทะลุหัวใจอีรอสจากด้านหลัง เลือดและร่างของเขาถูกทิ้งไว้ที่เดียวกับร่างของปีศาจตนสุดท้าย ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้แห่งชีวิต ไม่มีแม้การสรรเสริญ ไม่มีแม้คำกล่าวถึง ราวกับต้องการทำให้ผู้คนลืม มีแต่ความมืด ผนวกกับความแค้นที่ฝังรากลึกถึงจิตวิญญาณสุดท้ายก่อนสิ้นลม 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (1)

5.0

ของรีวิวบอกว่าคุ้มค่ากับการอ่าน
ของรีวิวบอกว่าการบรรยายลื่นไหล
ของรีวิวบอกว่าเนื้อเรื่องสนุกชวนติดตาม