“เพชร...ผมมีเรื่องอยากจะตกลงกับคุณก่อนที่เราจะแต่งงานกัน” ธรรศภาคย์เอ่ยเสียงเข้ม ใบหน้าเคร่งเครียด สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานของเพชรน้ำผึ้ง มองตาไม่กะพริบ เธอกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะละสายตาจากงานที่ทำอยู่ แล้วเงยหน้าขึ้นสบสายตาด้วยความหวั่นไหวเพียงชั่วครู่ ก่อนจะปรับสายตาให้เรียบเฉยไร้ความรู้สึก รู้ทั้งรู้ว่าเขาต้องการคุยเรื่องอะไร แต่ก็ยังทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่หัวใจเจ็บเจียมตาย ขนาดยังไม่ได้แต่งเขายังแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการเธอ คิดแล้วก็สมเพชตัวเอง
“คุณภาคจะพูดอะไรก็รีบพูดเถอะค่ะ เพชรฟังอยู่” เธอตอบเสียงเรียบ ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอย่างที่เจ้าตัวชอบแสดง
“คุณก็รู้ว่าคนที่ผมต้องการแต่งงานไม่ใช่คุณ...”
“แล้วไง...คุณมาหาเพชรเพราะเรื่องนี้?”
“ทำไมคุณถึงไม่ปฏิเสธว่าคืนนั้นเราไม่ได้มีอะไรกัน” ธรรศภาคย์เค้นเสียงถามในสิ่งที่อยากรู้ งานแต่งงานที่จะเกิดขึ้นอีกหนึ่งสัปดาห์ถูกสลับเปลี่ยนตัวเจ้าสาวเป็นอีกคน อย่างช่วยไม่ได้
“แล้ววันนั้นทำไมคุณไม่ปฏิเสธไปล่ะ แสดงว่าคุณเองก็ไม่มั่นใจถูกต้องมั้ย?” ธรรศภาคย์บดกรามแน่นอย่างโกรธจัด ไม่รู้ว่าตัวเองไปอยู่ในห้องของหญิงสาวได้อย่างไร รู้แค่ว่าวันนั้นเขาเมามากจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้ จนทุกคนเปิดเข้ามาในห้อง เหมือนฉากในละครน้ำเน่าไม่มีผิด
“เพชร...” เสียงเข้มเค้นเสียงเรียกชื่อหญิงสาว
“สรุปคุณมีเรื่องแค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด เพชรจะได้ทำงานต่อมันเสียเวลางาน”
“จำไว้นะเพชร...คุณจะได้แค่งานแต่งงานเท่านั้น แต่อย่าหวังว่าผมจะยอมจดทะเบียนกับผู้หญิงอย่างคุณ และเราจะอยู่ด้วยกันแค่สองปี หลังจากนั้นทางใครทางมัน” ธรรศภาคย์เอ่ยทิ้งท้าย ก่อนจะหมุนตัวกลับไปยังประตู
“แล้วผู้หญิงอย่างเพชรมันเป็นยังไงเหรอคะ” เพชรน้ำผึ้งตะโกนตามหลัง เธอไม่ได้คาดหวังในคำตอบ เพราะยังไงเธอก็ไม่ใช่คนดีอยู่แล้วในสายตาของเขา
“ผู้หญิงขี้อิจฉาอย่างคุณทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งแย่งว่าที่สามีของน้องสาว” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เขาตัดสินเธอไปแล้ว โดยที่เธอไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ร้องขอความบริสุทธิ์ของตัวเอง