เรื่องราวบางเรื่อง บางครั้งก็ถูกลบจากหน้าประวัติศาสตร์โดยสิ้นเชิง ถูกปรับเปลี่ยนและเป็นเพียงนิทานพื้นบ้านเล่าขานปากต่อปากจนเปลี่ยนเรื่องราว นานวัน จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี หลายสิบปีหลายร้อยปี กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าดัดแปลงคล้ายนิทานสอนเด็กให้เข้ากับยุคสมัยและบ้านเมืองนั้นๆ กลายเป็นเพียงเรื่องแต่งเรื่องหนึ่ง
อมนุษย์ที่กล่าวถึงกลายเป็นผีพื้นบ้านดัดแปลงของชาวสยาม แต่เรื่องจริงของชาวฝาหรั่งต้นกำเนิดความสยองอมตะกาลไม่ใช่มีเพียงท่านเคาน์ แดรกคูล่า แต่ยังมีเรื่องราวของชายหนุ่มพี่น้องตระกูลบลันเชตต์ที่ไม่ถูกกล่าวถึง เป็นเพียงคนไร้ตัวตนที่ใช้ชีวิตยาวนาน ไม่แก่ไม่ตาย ทนทุกข์รอหญิงสาวผู้เป็นที่รักกลับมาเกิดใหม่อีกครา...
มนุษย์ก็ไม่ใช่ปีศาจก็ไม่เชิง ข้า...เป็นสิ่งใดกัน! เหตุใดพวกพ้องทหารใต้บังคับบัญชาของข้าถึงได้ไม่เป็นเช่นข้าและพี่ชายของข้า พวกเขาต่างล้มตาย กัดกินเลือดเนื้อมนุษย์และกัดกินกันเอง บางคนต่างล้มตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ยาพวกนั้นที่กองทัพบังคับให้ฉีดเข้าร่างกายก่อนยกกองกำลังประชิดสยาม คืออาวุธเช่นนี้หรือ เหตุใดข้าถึงกระหายยิ่งนัก กินเท่าไรก็ไม่พอ มีเพียงเลือดเนื้อสดๆ ถึงจะบรรเทาอาการได้
กองพันของ 'ฟิลิป บลันเชตต์' รองผู้บังคับบัญชาพันโทแห่งกองกำลังฝรั่งเศสยกทัพ 'อมนุษย์' ที่เหลือเพียง 20 นายรวมถึงพี่ชายของเขา ต่อสู้เอาชนะกับกองทัพสยามประเทศหลายร้อยนายจนล้มตายภายในพริบตา พวกเขาไม่เจ็บไม่ปวด ไม่มีใครต้านทานพละกำลังเหนือมนุษย์ของกองพันฝรั่งเศสของเขาได้ แต่....
กระสุนเงินจากพวกโปรตุเกสที่ทหารชาวสยามนำมาใช้ ทำให้พวกพ้องทหารของเขา 19 นายล้มตายหายไปราวเศษฝุ่นผง แร่เงินคือสิ่งที่แผดเผาพวกเขา มีเพียงเขาและ 'มาร์คัส' พี่ชายของเขาที่ไม่ตายแต่บาดเจ็บสาหัส
"แยกกันไป หากรอดคงได้พบกันอีกน้องชาย" มาร์คัสผู้พี่บอกกับเขาเช่นนั้น นายทหารพันเอกผู้บังคับบัญชากองพันทหารราบฝรั่งเศสผู้โหดเหี้ยมถึงกับพูดแบบนี้ เห็นทีชีวิตนี้หลุมฝังศพสุดท้ายของพวกเขาคงจะเป็นสยามประเทศเมืองเล็กเช่นนี้ หรืออาจไม่ต้องฝัง อาจสลายกลายเป็นฝุ่นผงเฉกเช่นอมนุษย์!
"เตี่ย เหตุใดตลาดถึงเงียบเช่นนี้ หรือว่าพวกฝาหรั่งบุกตลาดหรือเจ้าคะ" ซือหลิวหรือชาวบ้านเรียกเธอว่าแม่ทับทิมเอ่ยกับผู้เป็นบิดาเมื่อทั้งสองกำลังเดินกลับร้านขายยาของตน
กงลี่ผู้เป็นบิดามองสอดส่องรอบกายทันใดนั้นสายตาเฉียบคมหรี่เล็กเมื่อสังเกตเห็นเงาดำตะคุ่มใหญ่ยักษ์ใต้แคร่ไม้ที่ร้านขายเนื้อฝั่งตรงข้ามร้านขายยาของเขา ชายชรารีบดึงมือบุตรสาวให้หลบเข้าหลังร้านและแอบเฝ้ามองร่างใหญ่ยักษ์ที่แววตาเป็นประกายคล้ายสัตว์ป่า
ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยเลือดชุ่มโชกมองเด็กชายผมจุกที่แอบอยู่ข้างแคร่ใกล้ตนอย่างตัวสั่นเทา เด็กน้อยจวนเจียนจะร้องไห้เต็มที ร่างสูงจึงยื่นห่อกระดาษที่ถูกเปิดไว้เผยให้เห็นแท่งสีน้ำตาลเข้มให้เด็กชาย เมื่อร่างสูงใหญ่ราวยักษ์ปักหลั่นเขาค่อยๆ เข้าใกล้เด็กชายผมจุก เสียงร้องไห้แผดดังกึกก้องของเด็กชายก็ดังลั่น เขาจึงยกนิ้วเรียวยาวของตนแนบริมฝีปากสีซีด
"ชู่ว ข้าไม่ได้ทำอันใดเจ้า เพียงแค่จะให้ช็อกโกแลตเจ้าเท่านั้น เจ้าเข้าใจข้าหรือไม่" ภาษาวิลาสผิดแผกจากชาวสยามเอ่ยบอกเด็กชาย
แม่ทับทิมเมื่อเห็นและได้ยินสิ่งที่ชายร่างใหญ่พูด เธอถึงกับตาโตและบอกกับบิดาอย่างตื่นเต้น
"เตี่ย นั่นภาษาของชาวฝาหรั่ง ข้าเข้าใจที่ชายผู้นั้นพูด เขาไม่ได้ทำร้ายเด็ก"
กงลี่แม้จะไม่เข้าใจภาษาชาววิลาสแต่เขาก็มองออกว่าสิ่งที่ชายผู้นั้นถือคือสิ่งใด เขาทำการข้าขายมานาน เดินทางทั่วทิศกว่าจะมาหยุดอยู่ที่สยามประเทศแห่งนี้ จึงพอรู้มาบ้างว่ามันคือของกินของชาววิลาส
"เขาบาดเจ็บ ข้าอยากช่วยเขา" โสตประสาตสัมผัสว่องไว ทั้งกลิ่น และการได้ยินชัดเจนของชายหนุ่มทำให้รับรู้ว่ามีผู้อื่น และอีกไม่นานเสียงร้องของเด็กชายผอมแห้งคนนี้กำลังจะนำมาซึ่งทหารสยามมากมายที่มาจับเขา
สายตาคมแวววาวมองหญิงสาวผมเปียในชุดชาวจีน ผิวขาวราวน้ำนมแต่ดวงหน้าคมเหมือนชาวสยามที่แอบในร้านขายยาอย่างรวดเร็วและถอนสายตาทันที เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็จดจำรายละเอียดสลักลึกในความทรงจำ เขาฟังภาษาของสยามออกและรับรู้ว่าเสียงหวานนั่นกำลังทำให้หัวใจที่คล้ายไร้ชีวิตของเขากลับมาเต้นแรงอีกครั้ง
ฟิลิป&แม่ทับทิม
.........................................................................................
ร่างสูงในความมืดมิดจ้องมองผู้มาใหม่อย่างไม่วางตา กลิ่นกายหอมหวาน เสียงหัวใจเต้นตุบๆ เลือดสดๆ สูบฉีดพลุ่งพล่านทั่วร่างทำให้มาร์คัสกระหายในลำคอแม้ว่าเขาจะกินมาอิ่มแต่ทำไมถึงกระหายคล้ายต้องตบท้ายด้วยของหวาน แม้ว่าสิ่งแรกที่คิดคือกระหาย แต่ตอนนี้เขามีสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้น
หญิงสาวในชุดเสื้อคอจีนแขนยาวสีขาวปักลายดอกเหมยงดงามกับกางเกงขายาวทรงกระบอกสีกรมท่า ผมยาวทั้งถูกถักเปียตะขาบเปียเดียวยาวถึงสะโพก ดวงตากลมโตแต่ชั้นตากลับมีสองชั้นข้างหนึ่งและชั้นเดียวอีกข้างทำให้รู้ว่าเธอมีเชื้อผสม หน้าผากนูนสวย จมูกเล็กเชิดรั้น ริมฝีปากอวบอิ่ม คางบุ๋มเล็กน้อย มีโหนกแก้มสวยรับกับกรอบหน้าเรียว ผิวขาวเหลืองนวลเนียน ความสูงราว 160 เซนติเมตรทำให้หญิงสาวตัวเล็กแค่หน้าอกของชายหนุ่มราวกับเด็กน้อยทว่ากลิ่นกายสาวทำให้เขารู้ว่าเธออยู่ในวัยเจริญพันธุ์เต็มที่แล้ว
ร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้และคลำทางอย่างยากลำบาก ยามที่ร่างหอมหวานเฉียดใบหน้าของเขาไปเพียงนิดกลิ่นกายจากหญิงสาวทำให้ร่างสูงสูดดมอย่างเคลิบเคลิ้มและน้ำลายสอ
แม่มะลิเดินไปจุดตะเกียงและหันกลับมามองทั่วร้าน แต่สิ่งที่หญิงสาวพบกลับไม่ใช่มารดาแต่เป็นชายหนุ่มร่างสูงที่แววตาสีแดงดุจเลือดกำลังแยกเขี้ยวยาวคล้ายปีศาจอยู่ที่ด้านหลังของเธอ
หญิงสาวตัวสั่นและกรีดร้องจนสุดเสียงแต่เสียงของเธอก็ไม่อาจหลุดลอดได้เพราะมือใหญ่ปิดปากปิดจมูกเธอไว้แน่นจนร่างเล็กแทบหายใจไม่ออกและคล้ายคนขาดอากาศหายใจ
“รักษาข้า ถ้าเจ้าไม่ทำ ข้าจะกินเจ้าจนมิอาจเหลือร่างไว้ได้กลบฝัง”
มาร์คัส&แม่มะลิ
.........................................................................................
แนะนำตัวละคร
ฟิลลิป บลันเชตต์ : นายทหารยศพันโทของกองกำลังฝรั่งเศส เป็นรองผู้บังคับบัญชากองพันที่จะมาบุกสยามประเทศ เขาถูกกองทัพบังคับให้ฉีดยาตัวหนึ่งก่อนรบ ก่อนหน้านั้นบิดาของเขาได้ให้ยาตัวหนึ่งและฉีดให้เขา มันทำให้ชายหนุ่มกลายเป็น 'ตัว' บางอย่างที่แม้แต่กองทัพก็มิอาจคาดเดา ไม่แก่ไม่ตาย...
ซือหลิว หรือ แม่ทับทิม : หญิงสาวชาวจีนลูกครึ่งชาวสยาม บิดาเป็นหมอแผนจีนทำการค้าขายและเปิดร้านขายยาในเมืองปากน้ำ ชอบเรียนรู้และแอบเรียนหนังสือกับภาษาของชาววิลาสกับครูแหม่มชาวโปรตุเกส
มาร์คัส บลันเชตต์ : นายทหารยศพันเอกของกองกำลังฝรั่งเศส เป็นผู้บังคับบัญชากองพันที่จะมาบุกสยามประเทศ โดนฉีดยาตัวเดียวกันกับฟิลลิป เป็นพี่ชายของฟิลลิป บ้าสงครามและไร้ซึ่งความปรานี
ลี่ฮวา หรือ แม่มะลิ : หญิงสาวชาวจีนลูกครึ่งชาวสยาม บิดาเป็นหมอแผนจีนทำการค้าขายและเปิดร้านขายยาในเมืองปากน้ำ เป็นพี่สาวของแม่ทับทิม ชอบการตัดเย็บและออกแบบผ้า สนใจในเสื้อผ้าของชาววิลาส
***เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการและเรื่องราวที่ผู้แต่งคิดเอง อาจบอกอ้างอิงถึงยุคสมัย สังคมวัฒนธรรมและเครื่องแต่งกายตามประวัติศาสตร์ แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับวิถีการเมืองการปกครองในประวัติศาสตร์แต่อย่างใด***
****ภาพที่ใช้ประกอบหน้าปกและคาแรกเตอร์ตัวละครเป็นภาพที่ถูกลิขสิทธิ์โดยภาพที่ผู้แต่งใช้ เป็นภาพที่ซื้ออย่างถูกต้องตามกฏหมาย****
ไซคี (PSYCHE)
ผลงานของไรท์ทุกเรื่องเป็นการใช้สมอง ความคิด จิตนาการ และข้อมูลการศึกษาเยี่ยงไรท์ทำวิทยานิพนธ์อีกครั้ง มีความเหนื่อยและยากลำบากในการกลั่นกรองทุกตัวอักษรกว่าจะมาเป็นนิยายหนึ่งตอนหรือหนึ่งเรื่อง
เพราะฉะนั้นไม่อนุญาตให้คัดลอกหรือลอกเลียนแบบ ทำซ้ำหรือดัดแปลงตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือละเมิดสิทธิ จะดำเนินคดีโดยไม่ปรานี เตือนไว้ก่อนน้า
....................................