i
My Letter
อาภารัตน์เพ่งสายตาออกไปไกล คำนึงถึงอนาคตอาภารัตน์ปิดสมุดบันทึกประจำตัวลง พร้อมเก็บรวบรวมจดหมายปึกใหญ่ของคูก้าลงกล่องแยกห่างจากจดหมายโต้ตอบฉบับล่าสุดของชายหนุ่มซึ่งได้รับจากดาราเมื่อเย็นวาน
อาภารัตน์หยุดบันทึกเรื่องราวต่างๆ มานานมากแล้ว นับตั้งแต่เธอคบหาเพื่อนทางจดหมาย ชื่อคูก้า เขากลายเป็นผู้มีอิทธิพลของชีวิตไอแอนไปแล้ว ถึงขนาดจดจ่อรอจดหมายตอบกลับจากคูก้า อย่างตื่นเต้นเฝ้ารอ แทบทุกสัปดาห์ระหว่างรับจ้างทำงานอิสระ ไร้หลักแหล่ง หลังตกงานช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พร้อมทั้งผลัดกับดารา เลี้ยงหลานชายหลานสาววัยกำลังซนไปด้วยสายลมพัดเอื่อยๆ ลอดผ่านช่องกรงหน้าต่างขณะฝูงนกนานาชนิดบินหอบฝูง บินข้ามผ่านทิวไม้ สีท้องฟ้าเบื้องบนช่างขุ่นมัวพอๆกับสีดวงตาของเธอ
มันมีสีน้ำตาลมากกว่าสีขุ่นดวงตาโตนับเป็นเสน่ห์ที่สุดในวงหน้ากลมๆ หน้าตาที่ถือว่าจัดไม่ขี้เหร่ ผมยาวดำขลับถูกรวบตรึงมัดเป็นปมยังท้ายทอย อาภารัตน์คุ้นชินความเป็นชนบทมากกว่าเทคโนโลยี แม้ว่าเธอจะผ่านการทำงานมาอย่างหลากหลาย ในโลกที่แข่งขันสูงซึมซับเรื่องแบร์นดังหลายแบร์นจนติดเป็นรสนิยมไปจนถึงเรื่องการฟังเพลงอาจเป็นเพราะ งานแปลเอกสารของดารา
อาภารัตน์จึงฟังเพลงที่เปิดคลอเป็นไปทางอ้อม แม้อาภารัตน์จะเป็นหญิงไทยยุคใหม่ เธอกลับนิยมชมชอบความล้าสมัยประเพณี และวัฒนธรรม สมัยเก่า กลืนกินเธอชนิดตั้งมาตรฐานขยายไปยัง ชายในอนาคตว่าต้อง ส.ว. สูงวัย ในแบบฉบับ มาตรฐานสากลเสียด้วยกับความอยากถึงสเปคสามีในอนาคต จากเด็กกำพร้าสู่การเป็นมาดามอาภารัตน์ดึงสายตากลับมาที่สมุดบันทึกอีกครั้ง ข้างกันมีกระดาษซองจดหมายลายน่ารักขนาบข้าง วางอยู่ มันคือจดหมายฉบับสุดท้ายที่อาภารัตน์จะตอบกลับคูก้า
มันเป็นความสมัครใจ เป็นการตัดสินใจของอาภารัตน์เพียงฝ่ายเดียว เพราะงานใหม่ที่ไกลบ้าน และที่อยู่ใหม่ กับงานดูแลผู้ป่วย ไม่สะดวกกับการคบหากันอีกต่อไปสำหรับตัวอาภารัตน์เอง ที่ต้องย้ายไปทำงานถึงเชียงใหม่
คูก้าจะเป็นเพื่อนชายเพียงคนเดียวที่อาภารัตน์จะจดจำเขาเอาไว้ในความทรงจำที่แสนดีเสมอไป อาภารัตน์หยิบซองจดหมายของคูก้าขึ้นมาอีกครั้ง พลิกมันไปมาในมือ ตัดสินใจที่จะอ่านมันตอนนี้ มากกว่าจะอ่านมันบนรถไฟ ช่วงเดินทางอาภารัตน์หยิบกรรไกรตัดผ้าตัดซองจดหมายคลี่กระดาษออกค่อยๆ อ่านมันอย่างละเอียด
ถึงโจนาธาน
ตอนนี้ ฉันตกต้นไม้ขาหัก มันยุ่งเหยิงไปหมด กับช่วงที่ฉันเป็นผู้นำมันแย่พอๆ กับที่นายบอกตัดรอนมิตรภาพระหว่างกัน ฉันจะไม่ร้องขอความเห็นใจจากนายหรอกนะโจนาธาน
ฉันพอจะนึกขึ้นได้ว่าฉันยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ฉันยังไม่ได้อ่าน เดาว่ามันสนุกมากกว่านั่งอ่านจดหมายนายบ้างแหละนะเอาละ ไม่ว่าอย่างไร นายจะยังเป็นเพื่อนฉันเสมอ โจนาธานก็แค่ช่วงนี้ฉันโง่เง่าหงุดหงิดเป็นบ้า จนไม่มีใครอยากดูแลฉัน
ฉันเหวี่ยงโทสะไม่ได้ดังใจ เสียทุกคนออกห่าง นายเชื่อเถอะไม่มีอะไรบรรเทาอารมณ์ถลากไถลของฉันอยู่เท่าหยิบจดหมายของนายขึ้นมาอ่านดับอารมณ์อีกแล้วขณะที่ทุกคนพยายามออกห่าง ใครจะแคร์ นายคงคิดว่าฉันยโส นี่แหละที่ฉันอยากจะบอกนายโจนาธานเรื่องยุ่งมากมาย มักเกิดขึ้นได้กับทุกคน
นี่ยังไงละ… ตอนนี้ในช่วงเวลาย่ำแย่ที่สุดของฉัน ฉันยังมี “เพื่อน” อย่างนายไงละโจนาธานแม้ว่าฉันยังแคลงใจที่นายยืนยันหนักแน่น
ว่านายมีความจำเป็นที่จะไม่เขียนจดหมายมาหาฉันอีก ฉันก็ยังเจียดเวลาเขียนจดหมายมาหานายจนได้ไม่ได้ร้ายแรง เหมือนที่นายคิดจะตัดรอนมิตรภาพระหว่างเราถึงอย่างไร นายลองคิดดู เขียนหาฉันได้ตลอด โจนาธานระหว่างนี้ทุกคนแนะนำให้ฉันเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อที่ฉันจะมีอาการดีขึ้น
อย่างที่นายรู้ ฉันดื้อรั้นขนาดไหนไม่มีใครรู้จักร่างกายของฉันได้ดีเท่าฉันอีกแล้วนายว่างั้นไหมโจนาธาน?
นี่ละบ้านของฉัน ฉันอยู่บ้านของฉันแล้ว
เอาละจดหมายฉบับนี้ฉันคงต้องลา ฉันยังคงรอจดหมายตอบจากนายอยู่….
ปล. ฉันหวังว่านายจะชอบของขวัญที่ฉันส่งมาด้วยความปรารถนาดีคูก้า
อาภารัตน์ตาโต ที่เธอเพิ่งรู้ว่าคูก้าส่งของมาด้วย รีบลุกพรวดออกจากโต๊ะริมระเบียงหน้าต่าง เมื่ออ่านจบเอาป่านนี้ข้ามวัน หลานๆ จอมซนของเธอจะไม่ทำลายมันแล้วหรือ?
อาภารัตน์วิ่งลงชั้นล่างสุดของตัวบ้าน เต็มฝีก้าว สองมือจับราวบันไดแน่นใจเต้นตึกตักแม้อยากรู้ว่าคูก้าส่งอะไรมามากกว่า แต่ก็กลัวว่าหลานๆ จะแกะกล่องออกมาเล่นทำพังเสียก่อน
“หยุดนะ”
อาภารัตน์กระโจนร่างลงบนเสื่อทอผืนใหญ่กระโดดตะครุบขาป้อมหลานชายวัยสี่ขวบไม่ให้ตีนแตะเหยียบย้ำตลับดีวีดี กว่ายี่สิบตลับโดนทำลายแตกหักเสียหายด้วยเท้าป้อมของเด็กชายปราณ บอกให้ไปเล่นใกล้ๆ กับดารา แทน
หลังห้ามทัพจับเท้าป้อมเอาไว้ได้อาภารัตน์จึงรีบกุลีกุจอเก็บตลับดีวีดีโยนใส่ลงกล่องพัสดุอย่างรวดเร็วตามเดิมราวกับดาราจงใจ ปล่อยให้หลานเล่นทำลายข้าวของอาภารัตน์กลับไม่ตำหนินอกจากบอกดาราว่าเธอกำลังเก็บข้าวของใช้สำหรับการเดินทางขึ้นรถไฟเป็นครั้งแรกในชีวิต
ขณะดารานั่งตีเนียน หน้ายุ่งกับการแปลเอกสารอยู่หน้าจอคอมป์พิวเตอร์อาภารัตน์ดูออกว่าดาราไม่พอใจที่เธอจะไม่ตอบกลับจดหมายคูก้าอีก อย่างไม่เคยปิดบัง
ดารายังชอบ ขออาภารัตน์อ่านอีกด้วย ซึ่งอาภารัตน์ก็ไม่ถือ กระทั้งกวาดเก็บจนเสร็จไม่เหลือ
อาภารัตน์จึงแยกตัวยกกล่องพัสดุพาร่างย้ายกลับขึ้นชั้นบน สำรวจของฝากบนเตียงอย่างตื่นตา
ถูกอกถูกใจนั่งอมยิ้มแก้วปริ ลิงโลด ในห่วงอารมณ์ มันเป็นดีวีดีภาพยนตร์เก่าๆ หายาก ตั้งแต่ปี หนึ่งเก้าแปดสอง ของดาราภาพยนตร์ในดวงใจเธอ บริลแยนท์ แมคเคอร์รีมอตต์ดาราดังฮอลลี วู๊ด ชาวฝรั่งเศส อาภารัตน์เคยคุยกับคูก้าอย่างถูกคอ เรื่องนักแสดงในดวงใจซึ่งส่วนใหญ่ เน้นฉากอีโรติคเป็นหลัก ในช่วงขาขึ้นมากที่สุด ในปี หนึ่งเก้าเก้าสี่บทอีโรติคเน้นเป็นหลักในส่วนประกอบของภาพยนต์สร้างชื่อในหลายๆ เรื่องจนเกิดเป็นตำนาน เจ้าพ่อ อีโรติค แห่งบรัสเซล
แน่นนอนว่าอาภารัตน์ชอบบทบู๊ของ เขามากกว่า บทอีโรติคซึ่งเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น อาภารัตน์ไม่คิดว่าคูก้าจะทำเซอร์ไพร์การบอกเลิกเป็นเพื่อนทางจดหมายของเธอด้วยของขวัญชิ้นใหญ่ที่ทำเธอตาโตและอาจซื้อใจเหนี่ยวรั้งให้อาภารัตน์อย่าได้ตัดรอนมิตรภาพยาวนาน
เป็นปีๆระหว่างกันมอบของขวัญล้ำคาดีต่อใจให้เธอ ได้มากขนาดนี้ บางเรื่องเธอยังตามหาซื้อตามร้านทั่วไปยังไม่ได้เสียด้วยซ้ำ ดูจากการบรรจุแล้ว มันเป็นของนำเข้าเสียมากกว่า จะมีขายตาม ร้านดีวีดีทั่วๆ ไป ภายในประเทศ
ทั้งที่เธอจะเลิกเขียนจดหมายถึงเขาแล้วแท้ๆ เขายังเหนี่ยวใจเธอด้วยสิ่งของล้ำค่าทำเอาอาภารัตน์แทบใจอ่อน
ทางจิตใจ เธอไม่รู้ว่าจะตอบแทนน้ำใจคูก้าอย่างไรดี? เหนือจากนี้ อาภารัตน์ยังอยากได้ของอีกชิ้น ซึ่งมันค่อนข้างหายากเอามากๆเฉพาะงานเปิดตัวภาพยนตร์ เรื่องใหม่ๆ เท่านั้น
เขาถึงจะมี สินค้าออกมาวางจำหน่าย และแจกกัน นั้นก็คือหมวกแก๊ป ปักอักษรชื่อย่อ บริลแยนท์เอาไว้บนปีกหมวกนั้นเอง
ซึ่งส่วนตัวอาภารัตน์ตั้งใจจะสั่งร้านทำหมวกในเมืองปักมันสักหลายใบเพื่อแจกดาราและหลานๆ
รวมไปถึงคูก้าด้วย อาภารัตน์คิดดีแล้วว่าเธอจะไม่ตอบจดหมายคูก้าอีก จนกว่าเธอจะสั่งทำหมวกเสร็จ และส่งมันกลับไปเป็นการขอบคุณชายหนุ่ม
อาภารัตน์หยิบสมุดบันทึก ริมระเบียงหน้าต่างขึ้นมา จรดปากกาลงคัดเรียงตัวอักษรที่เรียบเรียงออกมาจากใจนับจากห่างหายไปนานกับการจดบันทึก ที่นานๆ ทีจะหยิบมาพลิกเปิดดูเท่านั้น เพื่อฟื้นความทรงจำบางอย่าง อาภารัตน์บันทึกข้อความที่เธออยากจะเขียนจดมันเก็บเอาไว้เตือนความทรงจำ เพื่อในสักวันอาภารัตน์จะมีอารมณ์หวนเขียนตอบกลับคูก้า
ถึงคูก้า
ผมเสียใจกับอาการบาดเจ็บของคุณ มาก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะหายโดยเร็วมันก็จริงอย่างที่คุณว่า ไม่มีใครรู้จักร่างกายเราดีกว่าตัวเรา
แต่แบบนั้นมันจะทำให้คุณโดดเดี่ยวเกินไป บางทีคุณควรหยุดฟังคนอื่นบ้างคงดีสำหรับทุกฝ่ายและคนที่รักคุณ การเชื่อมั่นตัวเองจนไม่เห็นหัวคนอื่นนั้นไม่ดีแน่ๆ ผมขอบคุณสำหรับของขวัญที่มอบให้
ผมยินดีรับมันด้วยความเต็มใจและหวังว่าคุณจะเข้าใจกับการตัดสินใจของผม มันแย่มากๆ ที่ผมกลับเป็นฝ่ายเขียนไปหาคุณก่อนแท้ๆ ข้อความนี้ไม่ใช่การจากลาเสียที่เดียว คุณจะยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม เสมอครับคูก้า ดูแลตัวเองด้วย
จาก โจนาธาน
ปล. คุณคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผม
อาภารัตน์ปิดสมุดบันทึกลง สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ราวอยากจะนอนหลับฝันกลางวัน ทว่าชีวิตในความเป็นจริงเธอยังมีงานบ้านและอีกมากมายที่ต้องรีบทำ กับการเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง......
mage