#ห้วงความรู้สึก
EPISODE 1
เคยมีคนนิยามในเรื่องของความรักไว้ว่า...
เปอร์เซ็นต์ของความรักถูกแบ่งเป็นสามส่วนจากร้อย
ส่วนแรกคือผิดหวังมีเปอร์เซ็นต์มากถึง 80% ส่วนที่สองคือสมหวังมีเพียงแค่ 15%เท่านั้น ส่วนที่สามคือปล่อยวางเหลือเศษจากทั้งหมดเพียงแค่ 5%
" ปล่อยวาง "
คือเปอร์เซ็นต์ที่น้อยที่สุดของสามส่วนที่ถูกแบ่งจากร้อย
ห้าเปอร์เซ็นต์นี้ถูกนิยามให้สำหรับพระที่จำศิล
แม่ชี หรือแม้กระทั่งคนที่เจ็บปวดกับรักมาตลอดจนไม่คิดจะมีความรักจึงตัดสินใจใช้ชีวิตสันโดษในช่วงเวลาที่เหลือของชีวิต
" สมหวัง "
คือสิบห้าเปอร์เซ็นต์จากร้อยในสามส่วน ส่วนนี้นิยามไว้สำหรับบุคคลที่สมหวังในชีวิตรัก
มีชีวิตคู่อยู่ด้วยกันในบั้นปลาย หรือแม้กระทั้ง
ชีวิตคู่ที่ใครคนนึงจากไปก่อนในห้วงสุดท้ายก็ถือว่าสมหวังในรักอยู่ดี เพราะในลมหายใจสุดท้ายเค้าก็ยังคงมีรักให้กันและกัน
" ผิดหวัง "
เปอร์เซ็นต์ที่สูงที่สุดจากสามส่วนในร้อย
บุคคลที่ผิดหวังจากความรักมีอยู่มากที่สุด
ในร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ถูกแบ่ง คนที่อยู่ในแปดสิบเปอร์เซ็นต์นี้ถูกความรักทำร้ายอย่างหนัก
ถูกพิษรักเล่นงานจนสาหัส
คนที่ทนกับบาดแผลได้ก็ยังคงใช้ชีวิตต่ออย่างผิดหวังใช้ชีวิตลำพังเพียงคนเดียวไม่มีคนรัก
ส่วนคนที่ทนกับความเจ็บปวดผิดหวังจากบาดแผลที่ถูกความรักเล่นงานไม่ได้ ก็เลือกจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากความเจ็บปวดและผิดหวัง
แต่จะรอดหรือไม่รอดจากบาดแผลครั้งนั้นมั้ยมันก็คงไม่ต่างกัน
เพราะสุดท้ายคนพวกนี้ก็ถูกจัดอยู่ในส่วนของบุคคลที่ผิดหวังต้องอยู่อย่างอ้างว้างคนเดียว
ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าถูกจัดอยู่ในสามส่วนใหน
แต่ถ้าวัดจากตอนนี้ก็คงอยู่ในส่วนแรก
คือแปดสิบเปอร์เซนต์ของความผิดหวัง
เห้อ...ผมเองก็ถูกพิษรักเล่นงานอย่างหนัก
แต่โชคดีหน่อยที่ไม่ถึงกับตาย แต่ก็อย่างว่า
กว่าผมจะผ่านมันมาได้...ก็ปางตายเหมือนกัน
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว....
ผมเองเรียนอยู่มัธยมปลายปีที่ห้า
จุดเริ่มต้นมันเริ่มขึ้นเมื่อปลายเทอมตอนมอห้า
วันนั้นที่โรงเรียนของผมมีอาจารย์กับนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยมาแนะแนวรุ่นพี่มอหกเรื่องการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย
ในคาบนั้นพวกผมไม่มีเรียน ครูก็เลยให้เข้าไปฟังแนะแนวร่วมกับพี่ๆมอหก
ในช่วงแรกอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเป็นคนแนะแนว ช่วงหลังพี่ไปนักศึกษาจะเป็นคนรับช่วงต่อให้อาจารย์ไปพัก
ระหว่างที่ผมฟังบรรยาย
อยู่ๆก็มีคนเปิดประตูเข้ามา
ผู้ชายร่างสูงผิวขาวตาคมที่อยู่ในชุดนักศึกษา
เดินมายืนข้างหน้าเข้ากับพี่ไปที่แนะแนวอยู่
" ทำมัยมาช้าว่ะ เค้าแนะแนวกันไปครึ่งแล้ว "
รุ่นพี่ที่แนะแนวอยู่พูดขึ้นกับคนที่เดินมาใหม่
" รถติดว่ะ...ถึงในแล้วต่อเลยดิ "
รุ่นพี่ที่มาใหม่พูดขึ้น ก่อนที่พวกพี่ๆจะแนะนำตัวใหม่ทั้งหมด
" พี่ชื่อเทค..ตัวแทนคณะนิติศาสตร์นะครับ "
พี่เทค..ผู้ชายหน้าหล่อมีลักยิ้มที่ทำให้สาวๆ
มอหกดี๊ด๊าซะจนออกนอกหน้า
" พี่ชื่อชานนท์นะครับ จากคณะนิเทศศาสตร์ "
พี่ชานนท์..หน้าตี๋ หุ่นสูงแต่งตัวสะอาดสะอ้าน
" พี่ชื่อซัน.. จากคณะบริหารธุรกิจ "
พี่ซันคนที่มาช้าสุดพูดจบเราก็เริ่มฟังต่อ
ผมเริ่มรู้สึกตัวว่าถูกพี่ซันมองมาบ่อยๆ
จนตอนที่จบแนะแนวผมกับเพื่อนออกหลังสุด
อยู่ๆพี่เค้าก็เดินมาหา
" พี่ขอไลน์เราหน่อย...ได้มั้ย "
พี่ซันยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้า ผมมองมันนิ่งๆอย่างไม่เข้าใจว่า..จะขอไปทำมัย แต่สุดท้ายผมก็กดให้อยู่ดี
" ตั้งใจเรียนล่ะ "
พี่มันพูดกับผมแล้วยกมือลูบหัว ก่อนจะรับโทรศัพท์แล้วแยกกลับไป
ความรู้สึกในตอนนั้นมันปั่นป่วนไปหมด
ใจเจ้ากรรมก็เต้นไม่หยุดเล่นซะผมเหนื่อย
#โซยิกา🍀