Just keep this (love) between us เก็บรักนี้ไว้ระหว่างเรา บทที่ 13
" ปั้นหยา "
" ปั้นหยา "
ลูกโม่กระซิบเรียกสองครั้งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากคนที่นั่งเผลอปล่อยใจให้หลุดลอย จู่ๆก็ถูกยูจู่โจมด้วยจูบแบบนั้นทำเอาปั้นหยาทำตัวไม่ถูก ยูไม่ได้แค่มาเพื่อซื้อเครื่องดื่มแต่แวะมาบอกเรื่องเจ้าแมวดำด้วย
" โทรติดต่อไปตามที่ลงทะเบียนในปลอกคอแล้วนะครับไม่มีใครรับสาย -- ส่วนผลตรวจเลือดของเจ้านั่นติดเชื้อต้องให้ยาประคอง ยังไงผมจะรักษาเจ้าแมวดำให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วงนะครับ คุณปั้นหยา "
" ปั้นหยา!! "
" ห้ะ! " ปั้นหยาหันกลับมาทางลูกโม่ สีหน้าสีตาดูเลิ่กลั่กหลังถูกดึงออกจากภวังค์
" เป็นอะไรปั้นหยา เราเรียกตั้งสองสามครั้งแล้วนะ "
" อ่อ ขอโทษที พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ " คำตอบของปั้นหยาทำเอาลูกโม่หรี่ตามอง
" แอบคิดถึงหมอยูอยู่เหรอ " ปั้นหยาทำตาโตที่สุดเท่าที่ทำได้ใส่รอยยิ้มล้อเลียนของลูกโม่ " ไม่ต้องเขินหรอกก็หมอยูหล่อซะขนาดนั้น เป็นธรรมดาของสาวๆที่จะอดจิ้นตัวเองว่าเป็นแฟนกับหมอยูไม่ได้ "
" เออ -- " ปั้นหยาไม่รู้จะพูดอะไรออกมา กระอักกระอ่วนกับคำพูดของลูกโม่เลยถามกลับ " ลูกโม่เคยเหรอ " ลูกโม่ส่ายหน้า
" หมอยูไม่ใช่สเปคเรา -- เห็นหมอยูหล่อละมุนแบบนี้ก็อันตรายไม่น้อยเลยนะ สาวๆที่เข้ามาหาหมอยูไม่ปล่อยให้หลุดสักคน วันไนท์สแตนแล้วก็จบกันไป " ปั้นหยาที่นั่งฟังอยู่ขยับตัวไม่เป็นสุขรู้สึกเหมือนลูกโม่เอาก้อนหินขนาดมหึมาทุ่มใส่เธออย่างจัง " สไตล์อย่างหมอยูเลยไม่เข้าตาเรา "
" แล้วแบบไหนถึงเข้าตาลูกโม่ล่ะ "
" แบบดุๆสิ " ลูกโม่ตอบแทบจะไม่ต้องคิด ปั้นหยาทำหน้าประหลาดใจ
" ทำไมอะ "
" ก็มันกร้าวใจดีไง " ลูกโม่ตอบสีหน้ามั่นใจ ปั้นหยาขำพรืดออกมาแล้วปล่อยเสียงหัวเราะเสียงใส ลูกโม่เองก็หัวเราะตามไปกับความคิดของตัวเอง
" ลูกโม่! เราไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกโม่จะคิดแบบนี้ โถ่ๆ เอ็นดูอะ "
" เราชอบอ่านนิยายน่ะเลยคิดว่าผู้ชายปากร้ายใจดีนี่มันกร้าวใจมากๆ "
ปั้นหยาหัวเราะจนน้ำตาเล็ด " ผู้ชายโลกจริงกับในนิยายไม่เหมือนกันหรอกนะ ลูกโม่ " ปั้นหยาว่า
" ก็รู้แหละ แต่ก็ขอให้ได้ฝันเฟื่องก็พอ แล้วตกลงที่เหม่อตะกี้คิดถึงหมอยูจริงๆเหรอ " ลูกโม่ย้อนกลับมาถามซ้ำ ปั้นหยารีบส่ายหัวดิก
" ทำไมจะต้องไปคิดถึงเขาด้วยล่ะ ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวสักหน่อย อีกอย่างก็พึ่งจะเคยเห็นหน้ากันเองนะ " ปั้นหยาโกหกเป็นชุดพาลอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้อภัยที่เธอโกหก ก่อนมาที่เพชราอพาร์ทเม้นท์นี่ ปั้นหยาทำโกโก้หกใส่เสื้อยูทำให้เขาต้องเปลี่ยนเสื้อ เธอเลยอาสามาเอาเสื้อที่อยู่ในรถของเขากลับไปให้เพื่อเป็นการไถ่โทษแต่ว่ายูกลับเดินออกมาเอาเสื้อเองปั้นหยาไม่รู้ว่าเขาตั้งใจตามเธอออกมาหรือแค่คิดว่าเธอหายไปนานอย่างที่เขาบอกเธอ แต่ที่แน่ๆเขาจูบเธอนั่นน่ะของจริงและที่น่าอายกว่าคือเธอไม่ได้ปฏิเสธจูบของเขา
คิดแล้วปั้นหยาก็ได้แต่ครางกรอดอยู่ในใจ 'บ้าบอชะมัดเลย คนที่ไม่น่าจะกลับมาเจอกันได้ ดันมาเจอกันที่นี่'
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังที่หน้าห้องหมายเลข 302 ที่ทั้งสองคนเข้ามาขอเช่าหนึ่งคืนเพื่อพิสูจน์ความจริงเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นที่นี่ ปั้นหยาหันไปมองหน้ากับลูกโม่ ทั้งสองลุกไปดูที่ตาแมวก็เห็นว่าเป็นคุณเพชราเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ปั้นหยาเปิดประตูออก
" มีอะไรหรือเปล่าคะ คุณเพชรา พวกหนูก็จ่ายค่าเช่าของคืนนี้ให้แล้วนิคะ " ปั้นหยาว่า
" ฉันไม่ได้จะมาทวงค่าเช่า " เพชราตอบสายตามองเข้าไปในห้อง กองถุงขนมขบเคี้ยว น้ำเปล่า กระป๋องน้ำอัดลมและกล่องตั้งวางอยู่กลางห้อง " นี่มาแค่คืนเดียวต้องขนเสบียงกันมาขนาดนี้เลยเหรอ "
" กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ " ลูกโม่ว่า เพชราบึนปากใส่
" ยังไงก็อย่าทำเลอะเทอะ แล้วก็ช่วยเก็บกวาดให้เรียบร้อยล่ะ ถ้าพรุ่งนี้เช้าเห็นว่าสกปรกฉันคิดค่าปรับพวกเธอแน่ "
" โหดจังเลยค่ะ คุณเพชรา " ลูกโม่บ่นหน้าง้ำ
" เรื่องความสะอาดไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ หนูกับเพื่อนจะทำความสะอาดให้เหมือนว่าห้องนี้ไม่เคยถูกใช้งานมาก่อนเลย " ปั้นหยายกยิ้มยั่วให้คิ้วของหญิงวัยกลางคนเจ้าของอพาร์ทเม้นท์กระตุก
" อย่าลืมที่พูดล่ะ " เพชราจ้องตาใส่สองสาวก่อนจะถาม " คืนนี้จะได้เรื่องใช่มั้ย "
ปั้นหยานิ่งไป " ไม่แน่ใจเลยค่ะ เพราะไม่รู้ว่าเรากำลังเล่นกับอะไรอยู่ คนหรือผี -- ลุงมีบอกว่าเมื่อวานไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นใช่มั้ยคะ "
" ใช่ เมื่อคืนเป็นคืนแรกที่ทุกอย่างเงียบสงบ ทั้งๆที่มีแบบนี้ทุกคืน " เพชราตอบ ปั้นหยาพยักหน้า " เชิญพวกเธอตามสบายนะ ฉันจะไปพักผ่อน " เพชรากำลังจะเดินกลับ ปั้นหยารีบเรียกไว้
" เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณเพชรา -- หนูมีคำถามอยากถามคุณค่ะ " ปั้นหยาเว้นช่วงเพื่อรออีกฝ่ายตอบรับเธอ
" ว่ามาสิ "
" ทำไมคุณถึงเรียกให้เรามาทำข่าวเรื่องประหลาดที่นี่ ทั้งๆที่เรื่องแบบนี้คุณน่าจะเรียกพวกที่เค้าชำนาญกว่าเรามาทำพอจะบอกเหตุผลได้มั้ยคะ " ปั้นหยามองแววตาเรียบนิ่งของอีกฝ่าย
" เพราะมีคนเคยขอฉันไว้ว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะทำให้ทุกคนได้รู้จักที่นี่น่ะสิ " พูดจบเพชราก็เดินกลับออกไป
" คุณเพชรานี่แปลกจังแหะ " ลูกโม่ว่ามองตามเพชราที่เลี้ยวจะลงบันไดสวนกับอลงกรณ์ผู้เช่าหมายเลขห้อง 304 ที่เดินขึ้นมา ปั้นหยาเห็นทั้งคู่ทักทายกันเล็กน้อยแล้วอลงกรณ์ก็เดินทางพวกเธอ
" สวัสดีครับ คุณอัญญา คุณเมทินี " อลงกรณ์เอ่ยทักทายสองสาวพลางมองสำรวจในห้องหมายเลข 302 " วันนี้พวกคุณสองคนจะมาพิสูจน์ความจริงกันเหรอครับ "
" ค่ะ คุณอลงกรณ์พึ่งเลิกงานเหรอคะ " ปั้นหยาถามกลับ สายตาไปเจอกับรอยข่วนบนแขนข้างซ้ายของอลงกรณ์
" ครับ แล้วนี่พวกคุณต้องทำอะไรบ้างครับ "
" คงจะนั่งเฝ้าจนถึงเวลา ฉันกับลูกโม่ตกลงกันว่าถ้ามีเสียงดนตรีไทยกับแสงไฟดังขึ้นมาฉันจะเป็นคนไปที่ห้อง 303 เองส่วนลูกโม่จะเป็นคนบันทึกวิดีโอไว้ "
" ใช่ค่ะ เราได้กุญแจห้อง 303 มาจากคุณเพชราแล้ว คิดว่าคืนนี้ต้องได้เรื่องแน่ " ลูกโม่เสริม
" โห! ท่าทางดูมุ่งมั่นแบบนี้ ขอผมร่วมมือกับพวกคุณสองคนได้มั้ยครับ " สีหน้าและแววตาของอลงกรณ์ดูสนุก เขามองปั้นหยาสลับกับลูกโม่ " เถอะนะครับ ผมเองก็อยากรู้ความจริงด้วยเหมือนกันว่าตกลงแล้วแค่แกล้งกันหรือลุงก้อยแกกลับมาที่นี่จริงๆ " พอได้ยินผู้เช่าห้อง 304 พูดแบบนั้นลูกโม่ก็ห่อไหล่ทันที " คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนรับรองว่าจับได้แน่นอนครับ " อลงกรณ์ฉีกยิ้มกว้าง
" ฉันว่าก็ดีเหมือนกันนะ ปั้นหยา " ลูกโม่กระซิบที่ข้างหูเห็นดีเห็นงามตามอลงกรณ์ ปั้นหยาจึงยอมให้อลงกรณ์เข้าร่วมทีมพิสูจน์ในคืนนี้ได้
" แบบนี้พวกคุณสองคนก็ต้องวิ่งหาข่าวกันทั้งวันเลยสิครับ " บทสนทนาของทั้งสามในคืนที่เฝ้ารอพิสูจน์ความจริงอลงกรณ์ดูสนใจงานข่าวของทั้งคู่
" ทุกวันเลยด้วยค่ะ " ลูกโม่ตอบ
" แล้วไปหาข่าวกันที่ไหนครับ "
" เราจะมีกล่องรับข่าวค่ะ ถ้ามีคนแจ้งมาเราก็จะตามไปทำข่าวจากแหล่งที่ส่งมา แต่ว่าบางทีก็มีแกล้งกันเล่น ไม่ได้ข่าวก็มี แต่ว่าบางครั้งก็จะได้ข่าวจากเพื่อนในสายงานเดียวกันอย่างเมื่อเช้านี้พี่นักข่าวที่รู้จักกับลุงศิริ อ่อ ลุงศิริเป็นนักข่าวในทีมซีเอ็นเอ็กซ์นิวส์ค่ะ เขาส่งข่าวมาบอกให้พวกเราไปทำข่าวฆาตกรรมสาวผมแดง " ลูกโม่ร่ายยาว อลงกรณ์ยกคิ้วมองสลับไปมาทั้งคู่
" ฆาตกรรมสาวผมแดงเหรอครับ "
" ก็น่าจะเรียกอย่างนั้นได้ค่ะ " ปั้นหยาหันไปส่งสายตาเตือนลูกโม่
" เดี๋ยวนะ เมื่อเช้าตอนผมเข้างานได้ยินคนที่ร้านขายยาพูดว่ามีผู้หญิงถูกทำร้ายจนตายและทิ้งไว้ที่ทิ้งขยะ ใช่ข่าวเดียวกับพวกคุณหรือเปล่าครับ "
" คิดว่าใช่นะคะ " ปั้นหยาตอบ
" แล้วทำไมถึงเรียกว่าฆาตกรรมสาวผมแดงล่ะครับ "
ลูกโม่หันไปมองปั้นหยาเป็นเชิง " ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ พอดีผู้ตายมีผมสีแดงสะดุดตาน่ะค่ะเลยเรียกตามนั้น "
" อ่อครับ "
บทสนทนาดูจะจบลงไปเสียดื้อๆ แล้วความเงียบก็เข้าครอบคลุม ปั้นหยาชวนลูกโม่ออกไปเช็คกล้องวิดีโอเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถเก็บภาพได้ในช่วงเวลาที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
" จะมีผีออกมาจริงๆมั้ยปั้นหยา " ลูกโม่ละสายตาจากหน้ากล้องมามองปั้นหยาให้แน่ใจ
" ถ้าเป็นผี ลูกโม่ต้องถือกล้องไว้ดีๆนะ เพราะมันจะกลายเป็นข่าวใหญ่ของซีเอ็นเอ็กซ์นิวส์เลย " ปั้นหยาส่งยิ้มทะเล้นแล้วดูเวลาบนหน้าจอมือถือ " อีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเที่ยงคืน ลูกโม่จะงีบก่อนมั้ย เดี๋ยวสิบห้านาทีก่อนเที่ยงคืนเราปลุก "
" จะดี หะ หาาาาาวววววว " ลูกโม่อ้าปากหาวหวอดยาว " แล้วปั้นหยาไม่ง่วงเหรอ " ลูกโม่ถาม
" ง่วงแหละ แต่ยังไหวอยู่ งีบเถอะ เดี๋ยวปลุก "
" งั้นของีบแป๊บนะ " ลูกโม่กลับเข้าไปด้านในแล้วล้มตัวลงนอนเอาท่อนแขนหนุนต่างหมอน ปั้นหยาขยับไปนั่งใกล้ๆไม่นานลูกโม่ก็หลับไปจริงๆทิ้งให้ปั้นหยานั่งเผชิญหน้ากับอลงกรณ์
" คุณปั้นหยาไม่นอนเหรอครับ " อลงกรณ์เรียกชื่อเล่นของปั้นหยามันทำให้ปั้นหยาขนลุกหน่อยๆ แบบที่ตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะน้ำเสียงและแววตาของอีกฝ่ายหรือเปล่า ปั้นหยาส่ายหัว
" ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังไหว คุณเองถ้าไม่ไหวก็พักได้นะคะ ฉันกับเพื่อนจัดการได้ค่ะ "
อลงกรณ์ส่ายหัว " ผมนั่งเป็นเพื่อนคุณปั้นหยาดีกว่าครับ " ปั้นหยาทำทีเป็นดูมือถือเพราะไม่ต้องการสบตากับอลงกรณ์ช่วงเวลาแห่งการรอคอยจากวินาทีสู่นาทีกำลังเดินไปอย่างเงียบเชียบ ทุกอย่างรอบตัวปั้นหยาเหมือนถูกหยุดเวลาไว้หนังตาปั้นหยาเองก็ดูจะอ่อนล้าเต็มทีแม้เธอจะพยายามฝืนแค่ไหนปั้นหยาก็ไม่สามารถทานทนต่ออาการง่วงของตัวเองได้ ปั้นหยาเอนหัวพิงไปกับกำแพงแล้วผล็อยหลับไป
แอ อี๊ แอ เต่ง อี๊ แอ ชึ้ง เต่ง เต่ง
ปั้นหยาสะดุ้งเฮือกไม่ใช่แค่เสียงดนตรีไทยที่ดังอยู่ตอนนี้แต่เธอยังรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่อยู่ใกล้เธอในระยะประชิด
" คุณปั้นหยาครับ! มันเกิดขึ้นแล้วครับ "
ปั้นหยามองสีหน้าตื่นๆของอลงกรณ์ อี๊ แอ เต่ง อี๊ แอ ชึ้ง เต่ง เต่ง เสียงของปี่พากย์ ระนาดเอก ฉิ่งกำลังโหมโรงบรรเลงดังไปทั่ว ปั้นหยาลุกพรวดปลุกลูกโม่ทันที
" ลูกโม่ตื่น!! มาแล้ว!! "
" ผีเหรอ!! " ลูกโม่ขยับลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย
" กล้อง! ลูกโม่!! " ปั้นหยาร้องสั่งฉวยเอาไฟฉายที่ยืมมาจากลูกหินก้าวไปที่ประตูเปิดออกอย่างเร็วแล้วตรงไปเปิดห้อง303 ออกด้วยกุญแจที่ได้มาจากเพชรา เสียงดนตรีไทยโหมชัดขึ้นเมื่อยืนอยู่หน้าห้องเช่า 303 ปั้นหยาก้มลงมองช่องว่างระหว่างประตูก็เห็นแสงไฟลอดออกมา เจ้าตัวผลักประตูเข้าไปทันทีแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบและหายเมื่อปั้นหยาก้าวเข้ามาในห้อง 303
ปั้นหยาเดินสำรวจทั่วห้อง ไฟในห้องยังคงเสียเหมือนเดิม ปั้นหยาเปิดไฟฉายสาดไปทุกทิศในห้องที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อยู่สักชิ้นนอกจากแผ่นโปสเตอร์ของนางแบบสาวในชุดบิกินี่
" เอาไงต่อดีครับ คุณปั้นหยา " อลงกรณ์ที่วิ่งตามปั้นหยามาติดๆเอ่ยถาม ปั้นหยาเดินไปที่ระเบียงชะโงกหน้าถามลูกโม่
" เป็นไงบ้าง ลูกโม่ จับภาพได้มั้ย "
ลูกโม่หันใบหน้าซีดเซียวที่ดูเหมือนจะร้องไห้กลับมา ปั้นหยามองสีหน้านั้นอย่างไม่ไว้ใจ " เราขอโทษ ปั้นหยา " ปั้นหยายกมือกุมขมับตัวเองรู้สึกเส้นประสาทที่ข้างขมับกำลังจะระเบิดออกและตอนนี้เธออยากได้โกโก้ร้อนถ้วยโตมาดับไฟโทสะของตัวเอง
" อะไรนะ!! เมมเต็ม!! " ลูกหินร้องลั่นคาเฟ่หลังทั้งปั้นหยาและลูกโม่กลับมาถึงในเช้าวันรุ่งขึ้น ลูกหินทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้" ก็ไหนเช็คแล้วไงว่าทุกอย่างโอเค "
" เช็คแล้วแต่เช็คว่าแบตเต็มเท่านั้น ไม่ได้เช็คว่าเมมมันไม่มีพื้นที่เหลือ แต่ว่านะตอนที่ใช้งานครั้งสุดท้ายเรายังเห็นว่าเมมมันยังมีพื้นที่เหลืออยู่ ไม่คิดว่าเมื่อคืนพอจะใช้งานมันดันเต็มซะนี่ " ลูกโม่ไม่กล้าสบตาปั้นหยากับลูกหิน เจ้าตัวก้มหน้างุด
" โอ๊ย! นังโม่เอ๋อเหรอจริงๆ แบบนี้ก็เสียเที่ยวน่ะสิ "
" ใช่ เจ๊ -- พอปั้นหยาวิ่งตามเสียงเข้าไปในห้องทุกอย่างก็หายไปหมดเลย "
" วุ้ย แล้วแบบนี้จะได้รู้มั้ยเนี่ยว่าผีหรือคน " ลูกหินบ่นอย่างหัวเสีย ทั้งที่เป็นคนวงนอกแท้ๆ ปั้นหยาวางถ้วยโกโก้ของตัวเองลงบนโต๊ะ เธอไม่พูดอะไรเลยนับตั้งแต่ออกจากเพชราอพาร์ทเม้นท์มาเมื่อตอนรุ่งสาง ลูกโม่เองเห็นอาการแบบนั้นก็ไม่กล้าคุยด้วยเพราะเข้าใจดีว่าหน้าที่รับผิดชอบดูแลกล้องวิดีโอเป็นของเธอ
" พี่ลูกหินเท่าไหร่คะ " ปั้นหยาเตรียมหยิบกระเป๋าเงินออกมาจ่ายค่าเครื่องดื่ม แต่ลูกหินปฏิเสธ
" ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเก็บกับนังโม่มันเอง "
ปั้นหยายกคิ้วขึ้นหันไปมองสีหน้าจืดเจื่อนของลูกโม่ " ถือเป็นคำขอโทษจากเรานะ ปั้นหยา " ปั้นหยาแค่พยักหน้ารับแล้วหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาลุกออกจากเก้าอี้
" เราขอลาครึ่งวันนะ เดี๋ยวจะส่งไปบอกหัวหน้าในกลุ่ม "
" แล้วปั้นหยาจะเข้าออฟฟิศมั้ย เราจะไปตามเรื่องผู้หญิงที่ถูกฆ่ามั้ย แล้วเรื่องห้อง 303 อีก เราจะตามต่อมั้ย " ลูกโม่ลุกออกจากเก้าอี้ตาม มองปั้นหยาอย่างมีความหวัง
" เราจะตามทั้งสองเรื่องต่อ ไว้เราโทรหานะ ลูกโม่ " ปั้นหยาตอบเผยยิ้มบางๆที่ดูเหนื่อยอ่อนเต็มที " ไปนะ " ปั้นหยาหันไปขยี้หัวของเฉาก๊วยที่มานั่งเฝ้าปั้นหยาทุกครั้งที่มานั่งที่คาเฟ่ก่อนจะเดินออกจากร้านไป เจ้าไซบีเรียนมองตามตาละห้อยเหมือนกับลูกโม่ที่ยืนสำนึกผิด
" เจ๊! ปั้นหยาจะไปอีกคนมั้ยอะ " ลูกโม่หันมาถามลูกหิน -- ลูกหินถอนหายใจ
" ฉันจะช่วยภาวนาให้แกแล้วกัน "
ปั้นหยาที่กลับมาขึ้นรถของตัวเองได้ก็ถอนหายใจอย่างหมดแรงเอนหัวพิงไปกับพนักด้านหลัง เธอรู้ดีว่าการทำงานข่าวไม่ใช่เรื่องง่ายและมักจะเจออุปสรรคอยู่บ่อยครั้งแต่ทุกครั้งปั้นหยาก็มั่นใจได้ในระดับที่รู้ว่าตัวเองสามารถจัดการมันได้
แต่ว่าพอมาอยู่ที่ซีเอ็นเอ็กซ์นิวส์ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามที่เธอคิด มันไม่มีอะไรลงตัวสักอย่าง -- เรื่องเมื่อคืนเธอยอมรับว่าโกรธลูกโม่มากที่เรื่องเล็กน้อยยังพลาดได้ แต่เอาเข้าจริงๆต่อให้เมมโมรี่ไม่เต็มแล้วลูกโม่ถ่ายวิดีโอได้ในห้อง 303 มันก็ไม่มีอะไรให้ดูจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเช่านั้นมันไม่ใช่เรื่องของสิ่งลี้ลับ ลุงก้อยไม่ได้กลับมา ไม่มีผีในห้อง…มันต้องเป็นฝีมือคนแน่ๆ แต่ว่าใครกัน?
ปั้นหยายกมือขึ้นนวดข้างขมับตัวเองรู้สึกอยากนอนเต็มแก่แล้ว จากนั้นปั้นหยาก็ขับรถกลับบ้านแล้วทิ้งตัวลงนอนที่เตียงโดยไม่สนใจว่าตัวเองยังไม่ได้อาบน้ำมาหนึ่งคืนเต็ม
หลังจากที่ได้นอนไปสามถึงสี่ชั่วโมงสมองที่ตีบตันและอารมณ์ที่ขุ่นมัวก็จางหายไป ปั้นหยาจัดการอาบน้ำชำระร่างกายของตัวเองจนสดชื่นจึงคิดว่าเธอจะแวะไปที่ 'Medical Pet' โรงพยาบาลสัตว์เพื่อไปให้กำลังใจเจ้าแมวดำ
" สวัสดีค่ะ ฉันชื่ออัญญาจะมาดูเจ้า -- " ปั้นหยาแจ้งพนักงานเคาน์เตอร์ต้อนรับของ 'Medical Pet' สองคนที่มาประจำวันนี้ไม่ใช่คู่เดิมที่ปั้นหยาเจอเมื่อคืนก่อน แล้วปั้นหยาก็ยังไม่รู้ชื่อเจ้าแมวดำโชคร้ายตัวนั้นด้วย " คืนก่อนฉันพาแมวดำที่ได้รับบาดเจ็บมารักษาที่นี่น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าฉันจะขอดูมันหน่อยได้มั้ยคะ "
" รอสักครู่นะคะ " พนักงานเคาน์เตอร์สาวยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา เธอพยักหน้าและกดแป้นโทรศัพท์สองครั้ง " หมอยูคะพอดีคุณอัญญาที่พาเจ้ามิดไนท์มาคืนก่อนจะขอเข้าไปเยี่ยมน้องค่ะ " ปั้นหยายกคิ้วสูงกับชื่อเรียกขานของทั้งคนและแมว เมื่อพนักงานคนนั้นวางสายปั้นหยาก็เอ่ยถาม
" หมอยู!? มิดไนท์!? "
" ใช่ค่ะ หมอยูเป็นเจ้าของไข้น้องแมวที่คุณพามา เราไม่รู้ชื่อของน้อง หมอยูเลยตั้งชื่อให้ว่ามิดไนท์ค่ะ -- เดี๋ยวเชิญทางด้านนี้เลยนะคะ "
" ทำไมเขาถึงตั้งชื่อน้องว่ามิดไนท์คะ " ปั้นหยาถามพนักงานสาวเดินนำเข้าไปด้านในที่คืนก่อนปั้นหยาเคยเดินเข้ามาแล้ว พนักงานที่เดินนำอยู่ข้างหน้าพาปั้นหยาเดินเลี้ยวไปอีกทางเพื่อเข้าสู่โถงทางเดินที่ทอดยาวไปยังส่วนอื่นของ'Medical Pet' โรงพยาบาลอาคารชั้นเดียวแต่กลับกว้างขวาง ฝั่งของโถงทางเดินนี้มีทั้งส่วนของห้องพักฟื้นของสำหรับบรรดาสัตว์เลี้ยง ห้องผ่าตัดใหญ่ ห้องกายภาพและห้องพิเศษ
" หมอยูว่าเพราะขนของน้องมีสีดำแล้วก็น้องมาที่นี่ช่วงเที่ยงคืนกว่า ชื่อมิดไนท์เลยน่าจะเหมาะกับน้อง แต่ว่าใช้เรียกชั่วคราวก่อนนะคะรอเจ้าของตัวจริงมารับกลับไป ซึ่งทางเรากำลังพยายามติดต่ออยู่ค่ะ " พนักงานสาวระบายยิ้มก่อนจะเคาะประตูแล้วเลื่อนประตูเปิดออก
" หมอยูคะ คุณอัญญาขอมาดูอาการเจ้ามิดไนท์ค่ะ "
" เชิญเลยครับ " ยูตอบรับพร้อมรอยยิ้ม
" ถ้าคุณอัญญาสงสัยหรือต้องการถามอะไรคุณหมอ สามารถถามหมอปรินทร์ได้เลยนะคะ " พนักงานสาวบอกกับปั้นหยาแบบนั้นเสร็จก็เดินเลี่ยงกลับไปทำงานของตัวเองต่อ ปั้นหยาได้แต่มองตามพนักงานต้อนรับสาวด้วยสายตาละห้อยก่อนจะมองกลับมาที่ร่างสูงในชุดกราวน์สีขาวสวมทับเสื้อยืดสีเทา เสื้อตัวนั้นที่ทำให้เธอถูกขโมยจูบไป
****************
สวัสดีค่า รี้ดที่น่ารักทุกคน
ก่อนอื่นเลย สวัสดีปีใหม่นะคะ วันที่สองของปีแล้วก็ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีสำหรับทุกคน มีความสุขกันมากๆนะคะ และขอขอบคุณรี้ดทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ขอบคุณมากๆเลยนะคะ^^
ค่ะสำหรับ Just keep this (love) between us ในอีพีนี้ก็ยังต้องร่วมลุ้นกับการคลายปมปริศนาที่เพชราอพาร์ทเม้นท์ไปกับปั้นหยาและลูกโม่ ว่าแท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่ เหตุการณ์ที่เพชราอพาร์ทเม้นท์ เสียงดนตรีไทย แสงไฟในห้องเช่า 303 ลุงก้อยผู้เช่าที่ตกบันไดตายมีความเกี่ยวข้องยังไง แล้วไหนจะยังฆาตกรรมสาวผมแดงอีก (เอ๊ะ! นี่มันแนวไหนกันล่ะเนี่ย ><)
ส่งแรงใจเอาใจช่วยให้ปั้นหยากับลูกโม่คลี่คลายปริศนาที่เพชราอพาร์ทเม้นท์นี้ให้ได้นะคะ