ถนนสายนั้น...ทอดยาวเกือบร้อยกิโลเมตรจากตัวอำเภอสู่ตัวจังหวัด
เด็กต่างอำเภอหลายคนเข้ามาเรียนหนังสือในตัวจังหวัด
เขาและเธอเคยนั่งรถบัสสีเขียวเข้าตัวจังหวัดทุกบ่ายวันอาทิตย์
และนั่งกลับบ้านพร้อมกันทุกเย็นวันศุกร์ มุ่งมั่นตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตที่ดี
คีรินทร์...มีใฝ่ฝันที่จะเป็นตำรวจ ขณะที่อิงธารใฝ่ฝันที่จะเป็นแพทย์
วันเวลาผันผ่าน...ต่างคนต่างไขว่คว้าความฝันของตนเองได้สำเร็จ
เรียนจบ หน้าที่การงานมั่นคง แต่งงาน มีพยานรักเป็นโซ่ทองคล้องใจ
เด็กชายภูผาม่านและเด็กหญิงธารปาว
มองผิวเผินคล้ายเส้นทางชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบ
คีรินทร์มุ่งมั่นตั้งใจและทุ่มเทกับการทำงานจนได้เป็นผู้กำกับคนแรก ๆ ของรุ่น
เป็นที่รักของผู้บังคับบัญชาและลูกน้อง ทว่า...กลับแลกมาด้วยเวลาของครอบครัวที่ลดลง
เส้นทางชีวิตเริ่มห่างกันทีละน้อย กว่าจะรู้ตัว...พอหันกลับไป กลับไม่เหลือใคร
“พี่คีมีเวลาให้ทุกคนเสมอ ยกเว้น...น้ำกับลูก”
“น้ำ...มันเปรียบเทียบกันไม่ได้” น้ำเสียงแห้งโหย อกใจวูบโหวง ความรู้สึกของคนที่กำลังจะเสียของรักเป็นอย่างนี้นี่เอง
“เรา...หย่ากันดีไหมคะ ก่อนที่...น้ำจะเกลียดพี่จนไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า”
“น้ำ...”
ไม่มีแล้ว...ไม่มีอีกแล้วรอยยิ้มสดใสที่เปรียบเสมือนสายน้ำ ‘อิงธาร’ ที่เคยชโลมหัวใจและให้ความชุ่มชื้นแก่ภูผา ‘คีรินทร์’
ฝากนิยายเรื่องที่ 5 ของเรือไฟด้วยนะคะ ^^
ติดตาม พูดคุยกับผู้เขียนได้ทางเพจ #เรือไฟ ค่ะ