บทที่22 :โลกจริง
-
ความเดิม ---- ยกมือแนบหลังมืออีกฝ่ายกับใบหน้าตัวเองไว้อย่างนั้น อีกข้าวก็เท้ากับเตียงเพื่อรับน้ำหนักตัวเอง ได้ยินทั้งเสียงลมหายใจ ทั้งเสียงหัวใจที่ยังเต้นแรงอย่างต่อเนื่องของมัน "อยู่ด้วยกันนะ.." ---
-
ซิลวา
กระซิบบอกและแนบริมฝีปากลงไป เขาไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้แล้วจริงๆ
-
ซิลวา
กระซิบบอกและแนบริมฝีปากลงไป เขาไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้แล้วจริงๆ
-
ริชาร์ด
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีช่วงเวลาอะไรแบบนี้หรอก...มองซึ้งกันไปมาเหมือนช่วงละครหลังข่าวที่เพิ่งจะมารักกันหลังจากผ่านอะไรมา และเขาก็ไม่คิดว่าชีวิตในโลกนั้นจะได้มีรสชาติแบบนี้
-
ริชาร์ด
จนมาเจอมัน.. อะไรที่ไม่เคยคิด มันก็เป็นไปได้ทั้งหมด
-
ริชาร์ด
"อือ...อยู่ด้วยกัน" คำพูดกระซิบที่เอ่ยกึ่งร้องขอกึ่งบอกเล่านั่นทำให้เขาอดที่จะตอบกลับไปด้วยความรู้สึกทั้งหมดไม่ได้เลย อยากอยู่กับมัน..คนเดียว รับจูบจากริมฝีปากคู่นั้น มันช่าง..อบอุ่น ทำให้หัวใจชุ่มชื่นอย่างบอกไม่ถูกเลยจริง ๆ
-
ซิลวา
"อืมมม.." ฮัมรับในลำคอเบาๆพร้อมกับบดริมฝีปากแนบสนิท คลึงหากันด้วยความรู้สึกต่างจากเดิม คำตอบนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ไกลไปจากที่เขาคิดเท่าไหร่...แค่อยากจะย้ำให้ชัด ว่าอยากอยู่ด้วยกันจริงๆ..
-
ซิลวา
ทั้งหัวใจเขาอุ่นวาบด้วยความรู้สึกที่มีอีกคนเข้ามาในชีวิต... เรียวลิ้นชื้นแทรกตวัดพัวพันหากัน...ลมหายใจเริ่มถี่ขึ้นตามความต้องการของร่างกายที่ยังไม่ถูกปลดปล่อย
-
ซิลวา
ถึงพวกเขาจะไม่ได้พูดคำนั้นออกมา...แต่เขาจะรักมันด้วยการกระทำ..ตอกย้ำความในใจให้ได้รู้ต่อกันและกัน ร่างกายเริ่มบดเบียดหากันอีกครั้ง..ค่ำคืนนี้คงยาวนานมากกว่าที่คิด
-
ริชาร์ด
พวกเขา...แทบไม่จำเป็นต้องบอกรักกัน วันนี้ก็เพิ่งเข้าใจจริง ๆ ว่าความรู้สึกแบบนี้ มันสื่อถึงกันได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดแล้ว เพราะการกระทำของเขากับมันเกินไปกว่าที่แค่คำพูดจะเข้าใจได้แล้ว โอบรอบต้นคอแกร่งของมันแล้วดึงรั้งลงมาบดริมฝีปากจูบกันให้ดูดดื่มยิ่งขึ้น
-
ริชาร์ด
ไม่รู้ว่ามันจะจบตอนไหน..หรือจะหมดแรงกันเมื่อไร รู้แค่ตอนนี้ ร่างกายเขาเริ่มต้องการมันอีกแล้ว แม้ว่าจะอ่อนล้าจากอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในวันนี้
-
ริชาร์ด
"อืมม..." อ้ารับลิ้นอุ่นแล้วตวัดเลียไล้กันไปมา ร่างกายทั้งสองเริ่มเบียดเข้าหากัน..ครั้งที่เท่าไรแล้วเขาก็นับไม่ไหว
-
ซิลวา
เคลื่อนไหวร่างกายไปตามที่บรรยากาศนำพา ความกระหายอยากมีเพียงน้อยนิดหากเทียบกับความรู้สึกที่อยากโอบกอดอีกคนเอาไว้ไม่ห่าง เสียงลมหายใจและร่างกายที่เบียดกับผ้าปูที่นอนดังสวบสาบท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มหนาวเย็นกลางดึก
-
ริชาร์ด
ไม่เคยมีความรู้สึกอยากถูกกอดเลยสักครั้ง จนกระทั่งได้ถูกอีกฝ่ายมอบความรู้สึกเหล่านี้ให้..และเขาก็ไม่คิดจะปล่อยตัวให้ใครอีกแล้ว ทั้งที่มันเป็นคู่ของเขา แม้อาจจะเป็นได้แค่ในโลกนี้.. แต่มันจะเป็นตลอดไป
-
..ร่างสูงสะบัดมือแอบร่ายเวทย์ฟื้นฟูให้อีกคนรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ก่อนที่จะลงมือบรรเลงบทรักกันอีกครั้งและสิ้นสุดลงในเวลาเกือบรุ่งสาง
-
ริชาร์ด
อาจจะเพราะความกลัวโลกในชีวิตจริงของตัวเอง ทำให้เขาไม่กลัวว่าตัวเองจะเหนื่อย จะน่าอายหรืออะไร เขาแค่อยากใช้เวลาอยู่ที่นี่กับมันให้นานที่สุด อาจจะฟังดูน่าขัน แต่เขาก็เป็นของมันหมดแล้วทั้งตัวและหัวใจ ไม่ว่าจะกอด แนบกายชิดใกล้กันกี่ครั้ง..ทั้งความต้องการ และความรู้สึกข้างในมันก็ทำให้เขาไม่อยากห่างมันเลย กว่าจะได้นอนจริง ๆ ..ก็ตอนที่เห็นแสงของพระอาทิ
-
ซิลวา
นอนกอดก่ายด้วยร่างกายเปลือยเปล่าตลอดทั้งคืน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ได้หลับตาลงนอนอย่างที่ควรจะเป็น จนพระอาทิตย์ฉายแสงขึ้นมา เขาเสกให้ผ้าม่านผืนใหญ่บดบังแสงสว่างลงกลับเป็นความมืดสลัวเหมือนเดิม
-
ซิลวา
ทอดสายตามองคนข้างๆที่กอดซบไม่ห่าง ...ความรู้สึกตอนนี้ราวกับว่าตัวเขาและจิตใจของเขาไม่ได้เป็นแค่ของคนคนเดียวอีกต่อไป
-
ซิลวา
หลังจากที่ออฟไลน์ออกไป..เขาคงใช้ชีวิตอย่างเดิมไม่ได้จริงๆนั่นแหละนะ..
-
ซิลวา
ผ่อนลมหายใจออกและยื่นใบหน้าไปแตะหน้าผากอีกคนเบาๆ ปล่อยให้อีกคนนอนต่อไปโดยที่เขาเองก็จมลงสู่ห้วงนิทราไปด้วยเหมือนกัน
-
ริชาร์ด
เขาไม่อยากออกจากที่นี่เลย...ไม่แม้สักนิด เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าโลกของความจริงไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว ถ้าหากไม่มีอีกคนข้างเขา มันอาจจะติดภาพในนี้..ภาพที่เขากับมันได้อยู่ด้วยกัน รู้สึกว่าไม่เหงา เขาหวังได้ใช่มั้ย
-
ริชาร์ด
ว่าถ้าออกไปแล้วจะสามารถพบเจอมันได้ ไม่ใช่แค่โปรแกรม หรือตัวอะไรที่ไม่มีอยู่จริง แค่คิดก็รู้สึกโหวงเหวงไปหมด
-
ริชาร์ด
แต่ความเหนื่อยและล้าที่สะสมมาทั้งวันทั้งคืนทำให้เขาทนถ่างตามากกว่านี้ไม่ไหว และหลับอยู่ข้างเคียงร่างของมันไปด้วยกัน
-
ซิลวา
เหลือบมองแถบสถานะของอีกคนก่อนที่จะหลับตามไป ..เขามีเวลาอีกมาก กว่าอีกคนจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พอหลับตาลง เขาก็ออฟไลน์จากเกม..
-
ซิลวา
โลกในเกมก็กลับกลายมาอยู่ในห้องหลักที่เป็นคล้ายๆห้องรับรองโหมดปกติ เป็นโซนที่เชื่อมต่อเข้ามาก่อนจะเลือกล้อกอินเข้าเกมต่างๆ หรือท่องไปบนเว็บ เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาว่าใกล้ถึงเวลาที่เขาควรออกบ้านแล้ว
-
โลกจริง...
-
พ.ศ.2600 กรุงเทพมหานคร
-
ติม
ร่างสูงถอดเฮดเกียร์และลุกขึ้นมาจากเก้าอี้โซฟาตัวใหญ่ ลูบหน้าตัวเองเบาๆ และถอนหายใจยิ้มๆ
-
ติม
"เป็นไปได้จริงๆเหรอวะ.."
-
ติม
ในหัวสมองเขามีแต่ภาพอีกคนติดอยู่เต็มไปหมด... ไม่ว่าจะลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดเพื่อไปงานดินเนอร์โปรโมทเกมในเครือบริษัท ภาพอีกคนก็ยังไม่เลือนออกไปจากสมองเลย
-
ติม
วันนี้เขาไม่ให้ที่บ้านมารับแต่ขับออกไปเอง เพราะกะว่าจะออกงานกลับมาก่อน...ก่อนที่อีกคนจะตื่นขึ้นมา
-
อีกด้านหนึ่ง
-
รัม
เขาผละออกจากหน้าห้องของตัวเองแล้วนวดหัวตาไปมา.. ออกมาแล้วสินะ
-
รัม
จริง ๆ ริชาร์ตไม่ได้เหนื่อยจนถึงสลบ แต่ตัวเขาที่จะไม่ไหวเอา เหมือนว่าถ้ามากกว่านี้เขาจะกลัวตัวเองมากไปกว่านี้แล้ว แค่นี้ก็น่ากลัวเกินเหตุแล้ว.... ให้ตาย
-
รัม
หยิบมือถือขึ้นมาตอนที่เห็นจำนวนแจ้งเตือนในไลน์
-
GoLF : มึงอยู่ไหนวะ
-
รัม
เขาอ่านแค่ข้อความล่าสุดที่ส่งมาเมื่อชั่วโมงที่แล้วแล้วพิมพ์ตอบกลับไป R*m : ในเกม เพิ่งออฟ ไล่ดูข้อความเก่า ๆ ที่พวกเพื่อนทักเขาว่าเหมือนตายห่าไปไหนแล้ว ถ้ายังไม่ตอบภายในสามชั่วโมงจะโทรเรียกตำรวจให้มาค้นแล้วอะไรทำนองนั้น
-
รัม
"กูไม่ตายหรอกน่า.." ตอบเสร็จก็โดดขึ้นเตียงไป จะนอนให้เวลามันผ่านไปตอนที่ตัวละครตัวเองตื่นดีมั้ยล่ะ?
-
ในงานโปรโมท
-
ติม
"พ่อหวัดดี แม่หวัดดีครับ"
-
ติม
ยกมือไหว้พ่อตัวเองเมื่อถึงที่นั่งของตัวเองและครอบครัว ระหว่างที่พ่อของเขาขึ้นไปพูดเปิดงาน แม่ก็ขยับมาใกล้และถามไถ่เกี่ยวกับเรื่องเดิมๆที่เขาไม่เคยคิดอยากจะตอบ เพราะไม่รู้จะให้คำตอบแม่ยังไง
-
แม่
"วันนี้ดูเรารีบๆนะติม นัดใครไว้รึเปล่าจ๊ะ?"
-
ติม
"..อืม...ประมานนั้นมั้งครับ..ถึงไม่ได้นัดแต่เขาคงรอผมน่ะ" ยิ้มออกมานิดๆยามที่นึกถึงอีกคน..
-
แม่
"แหน่ะ...ถ้ามีใครดูๆอยู่ก็พามาแนะนำกับแม่บ้าง...จะได้เห็นหน้าคนที่ทำให้ลูกแม่ยิ้มจนสาวๆในงานแอบมองแบบนี้น่ะ"
-
ติม
พอรู้ตัวว่าตัวเองนึกถึงอีกคนแล้วทำท่าทางแบบไหนก็หันไปมองในงานว่ามีคนมองมาจริงๆ หุบยิ้มแล้วทำหน้านิ่งค่อยหันไปส่ายหน้าน้อยๆกับแม่
-
ติม
"คงไม่ได้หรอกครับ เขาอยู่ไกล...." "แล้วก็ไม่ต้องหาคนมาให้ผมแล้วนะ..เพลาๆเถอะผมอยู่คนเดียวไม่เหงาหรอก"
-
ติม
ก่อนที่แม่จะซักมากไปกว่านี้เขาก็ชวนแม่คุยเรื่องอื่นกันแทน เพราะถึงเขาจะไม่ปฏิเสธว่าคนที่ทำให้เขายิ้มได้น่ะคือคนในโลกนั้น..แต่เขาคงพามาเจอครอบครัวไม่ได้จริงๆ... แต่เรื่องอยู่คนเดียวไม่เหงาน่ะ...เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ตอนนี้มันมีแค่คำว่าคิดถึงอยู่ในหัวเต็มไปหมด
คลิกบริเวณนี้เพื่ออ่าน
หรือสัญลักษณ์ด้านขวาเพื่ออ่านต่อเนื่อง
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น