เดือนล้อมดาว (นิยายกะเทย)

Y

เดือนล้อมดาว (นิยายกะเทย)

เดือนล้อมดาว (นิยายกะเทย)

LoveArrow

Y

27
ตอน
151K
เข้าชม
445
ถูกใจ
336
ความคิดเห็น
404
เพิ่มลงคลัง
คำเตือนเนื้อหา
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องอาจมีการสปอยล์ถึงเนื้อเรื่องหลัก
นิยายกะเทย

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย X 

นี่ฉันสอบติดคณะที่ตัวเองอยากเรียนได้แล้วจริง ๆ เหรอ? แทบไม่อยากเชื่อเลย... 

ก็ที่นี่น่ะ ถือว่าเป็นมหา’ลัยอันดับหนึ่งของประเทศเลยก็ว่าได้ แถมคณะที่ฉันสอบติด ยังเป็นคณะที่ต้องใช้คะแนนแอดมิชชันโคตรสูง เผลอ ๆ รองจากคณะแพทย์เพียงไม่กี่คะแนนเท่านั้น 

ทุกคนคงอยากรู้แล้วสินะ ว่าไอ้คณะที่ว่านี้คือคณะอะไร... 

คณะที่ว่านั้นก็คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ค่ะ! และตอนนี้ฉันก็กำลังยืนอยู่หน้าตึกคณะ บอกตรง ๆ ว่าโคตรตื่นเต้น แต่ก็ทำได้แค่กระโดดโลดเต้นอยู่ในใจเท่านั้น 

ฉันกวาดตามองไปรอบ ๆ บรรยากาศที่นี่น่าเรียนสุด ๆ ทั้งร่มรื่น และที่สำคัญ...เต็มไปด้วยผู้คน (หน้าตาดี) โดยเฉพาะผู้ชาย ไม่รู้ว่ามหาลัยนี้นอกจากจะคัดสมองแล้ว เขายังคัดหน้าตาด้วยรึเปล่า ถึงได้มีแต่ผู้ชายหล่อ ๆ เดินไปมาทั่วมอ 

และนี่ก็คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่มหาลัยแห่งนี้เป็นมหาลัยในฝันของสาว ๆ หลาย ๆ คน รวมถึงฉันด้วย 

ฉันเพิ่งเสร็จจากการสอบสัมภาษณ์ และกำลังเดินผ่าน “ลานเกียร์” ลานกิจกรรมของคณะวิศวะ เป็นพื้นที่กว้าง รายล้อมด้วยอาคารเรียนและตึกกลางของคณะ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ มีโต๊ะให้นักศึกษานั่งจับกลุ่มคุยกันในช่วงพักเที่ยง ที่แห่งนี้เลยกลายเป็นจุดรวมพลของคณะไปโดยปริยาย แถมยังอยู่ใกล้โรงอาหารอีกด้วย ทำให้ช่วงกลางวันคนเลยเยอะเป็นพิเศษ 

ฉันในชุดนักเรียนนานาชาติลายสก็อตสีเทาอ่อน กวาดตามองรอบ ๆ ด้วยความประหม่าเล็กน้อย เพราะไม่มีใครแต่งชุดเหมือนฉันเลยนี่สิ เลยตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคน 

ฉันพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ เดินตัวลีบมุ่งหน้าตรงไปยังโรงอาหาร แต่ระหว่างทางต้องเดินผ่านโต๊ะรุ่นพี่ผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ท่าทางปากปีจอไม่เบา ยิ่งได้ข่าวว่าผู้ชายวิศวะขึ้นชื่อเรื่องแซวสาว ๆ ไอ้เราก็พยายามก้มหน้าเลี่ยงสายตา  

แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีพี่ผู้ชายคนนึงในกลุ่มตะโกนขึ้นมาว่า… 

“เดินดี ๆ นะน้อง ระวังสะดุดลานเกียร์นะครับ!” 

ฉันตกใจเฮือก หยุดเดินทันที กลัวว่าจะสะดุดอะไรตามที่พี่เขาเตือน 

จนถูกคนที่เดินก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ตามมาข้างหลังชนเข้าเต็ม ๆ 

ก็ปลิวสิคะ รออะไร… 

แต่โชคดีที่คนคนนั้นคว้าตัวฉันไว้ได้ทัน ร่างไร้การทรงตัวของฉันเลยกระแทกเข้ากับแผงอกของเขาเต็ม ๆ 

แรงกระแทกทำให้เราล้มลงไปทั้งคู่ ดีที่ฉันล้มทับเขาเลยไม่เจ็บมาก แต่เขาล่ะ…คงจุกน่าดู น้ำหนักฉันไม่ได้น้อย ๆ เลยนี่หน่า 

แต่ที่แย่กว่านั้นคือ… 

ฉันดันล้มไป “หอมแก้ม” เขาเต็ม ๆ !! 

“เชี้ยยยย!” 

เสียงอุทานของรุ่นพี่โต๊ะใกล้ ๆ ดังขึ้นพร้อมกัน สายตาหลายคู่หันมามอง ก่อนเริ่มมีเสียงซุบซิบ… 

“ลานเกียร์แม่งเอาเรื่องว่ะ” 

ฉันเองก็เผลออุทานออกมา “เหี้ย!!” 

ก่อนรีบยันตัวลุกขึ้นยืน จนลืมไปว่ากระโปรงทรงเอของฉันมันรัดยิ่งกว่ากางเกงในวาโก้ พอขยับแรง ๆ มันก็… 

แขว็กกกกกกก! แหวกขึ้นมาถึงขาอ่อน  

“กรี๊ดดดดดด!” 

ฉันรีบใช้สองมือปิดรอยแหวกไว้ แม้รู้ว่าปิดยังไงก็ไม่มิด อย่างน้อยขอแค่ไม่เห็น “เป็ดน้อย” ของฉันก็พอ 

ใช่ค่ะ…กางเกงในลายเป็ด ไม่ใช่เป็ดอย่างที่คิด 

อีตาคนที่นอนจุกอยู่เบิกตากว้าง รีบถอดเสื้อคลุมมาคุมให้ฉัน แต่ก็นะ…หลายคนคงเห็นไปแล้วว่า วันนี้ฉันใส่กางเกงในลายเป็ดมา ให้ตายเถอะ… 

“เป็นอะไรรึเปล่าคุณ?” เขาถาม พลิกฉันไปมาเพื่อสำรวจ 

ฉันตวัดสายตาอันเกรี้ยวกราดขึ้นไปมอง แต่พอเห็นหน้าชัด ๆ ถึงกับพูดไม่ออก 

แม่ง…หล่อฉิบหาย คิ้วเข้ม ตาคม จมูกโด่ง สูงน่าจะเกือบ 190 เพราะฉันที่สูง 170 กว่า ๆ ยังสูงแค่ไหล่ของเขา แถมยังขาวเนียนเหมือนไม่เคยโดนแดดมาก่อนในชีวิต 

แต่ความหล่อก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกอายน้อยลงเลย กลับกัน…อายยิ่งกว่าเดิมเสียอีก 

“อย่ามายุ่งกับฉัน” ฉันหมุนตัวหนี สลัดมือเขาออก ก่อนมัดเสื้อคลุมไว้ที่เอวลวก ๆ 

“เพราะนายคนเดียว เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ” พูดจบก็สะบัดตัวออกมา 

“อ้าวคุณ ใครจะไปรู้ว่าคุณจะหยุดเดินดื้อ ๆ แบบนั้น” เขาก้าวขายาว ๆ มาขวางหน้า 

ให้ตายเถอะ ตานี่ขายาวจังวะ 

“นี่นายไม่คิดว่าตัวเองผิดบ้างเหรอ?” ฉันจ้องหน้าหล่อเขม็ง 

“ไม่นี่ ก็คุณหยุดเดินกะทันหัน ผมถึงเดินชนคุณ แล้วคุณก็…หอมแก้มผม” 

โอ้โห ย้ำอีก! แค่นี้ก็อายจะตายอยู่แล้วนะเว้ย! 

“นายนี่มัน…” ฉันถอนหายใจแรง หมดคำจะเถียง เดินหนีอีกรอบ 

“เห้ย เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนน่ะ?” 

“จะอยู่ให้อายทำไมล่ะ” ฉันแอบได้ยินโต๊ะรุ่นพี่ข้าง ๆ ซุบซิบ 

“อีกคู่แน่ ๆ” 

“ลานเกียร์นี่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ นะเว้ย” 

“กูจิ้นคู่นี้ว่ะ”  

โอ๊ย! ยิ่งอยู่นานยิ่งอาย หนีสิคะรออะไร! 

“เดี๋ยวคุณ! นั่นเสื้อผมนะ” 

ฉันชะงัก เออจริงด้วย…เอาไงดี? 

ซื้อต่อแม่ง! 

ฉันหันขวับกลับไป พร้อมกับควักแบงก์พันยัดใส่มือเขาแบบลวก ๆ 

“ถือซะว่าฉันซื้อเสื้อต่อแล้วกัน โอเค้? เสื้อผ้ามือสองพันนึงนี่แพงมากเลยนะ” 

เขายังยืนงง มองเงินในมือ 

“เดี๋ยวสิคุณ!” 

“อะไรอีกล่ะ?” ฉันหันขวับไปอย่างหัวเสีย 

“ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย” 

“อ๋อ… 

ฉันชื่อ…” 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (3)

5.0