ท่านอ๋อง ข้าไม่เป็นชายาท่าน![นิยายแปลจีน]

รักโรแมนติก

ท่านอ๋อง ข้าไม่เป็นชายาท่าน![นิยายแปลจีน]

ท่านอ๋อง ข้าไม่เป็นชายาท่าน![นิยายแปลจีน]

Xiaobei

รักโรแมนติก

1
ตอน
5.12K
เข้าชม
33
ถูกใจ
4
ความคิดเห็น
43
เพิ่มลงคลัง

บทนำ

อากาศแจ่มใส

นี่เป็นวันดีที่เหมาะกับการเดินทาง เริ่มต้นอนาคตที่สดใส!

เมื่อกล่องกระดาษใบสุดท้ายถูกอุ้มเข้ามาในห้องรับแขกของชั้นสี่ในอพาร์ทเม้นท์ ขั้นตอนใหญ่ของการย้ายบ้านก็เป็นอันเสร็จสิ้นในที่สุด

“อา เหนื่อยชะมัด!” เจียงเถียนเถียนร้องเสียงดัง วางกล่องกระดาษลงแล้วกระโจนไปที่โซฟา แม้ว่าโซฟาจะเป็นของมือสอง แต่ก็เช็ดถูจนสะอาดมาก นั่งไปแล้วทั้งนุ่มทั้งสบาย เธอที่เหนื่อยจะแย่พอนั่งลงไปก็ไม่อยากขยับอีกแล้ว

ทันใดนั้นเท้าขาวเนียนข้างหนึ่งกลับถีบก้นเธออย่างโหดร้าย

“ลุกขึ้น” เจียงซือฉี่เอ่ย

ตัวขี้เกียจบนโซฟาบิดซ้ายป่ายขวา ยังครองโซฟาไม่ยอมลุก

“ไม่เอา”

“ฉันเอาเค้กทุ่มหัวเธอนะ!”

“อ๊า!” เถียนเถียนกระโดดลุกขึ้น “อย่าเชียวนะ นั่นมันเค้กวันเกิดของพวกเรานะ!” เพื่อซื้อเค้กก้อนนี้แล้ว พวกเธอต้องกระเบียดกระเสียรหักค่าข้าวมื้อหนึ่งไปจ่ายเลยนะ!

“งั้นเธอยังไม่ลุกอีก” เจียงซื่อฉี่ยกยิ้มมุมปาก ใบหน้าสะสวยแม้จะซีดขาวเล็กน้อย แต่กลับยิ่งพาให้คนรักเอ็นดู “ถ้าเธอไม่ลุกแล้วฉันจะนั่งตรงไหน”

เถียนเถียนเขยิบที่ให้ ไปนั่งตรงมุมโซฟาอย่างเชื่อฟัง

เจียงซือฉี่นั่งลงอย่างสง่างาม วางเค้กน่ารักลงบนโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา แล้วหยิบเทียนที่ทางร้านแถมมาให้ปักลงบนเค้ก จุดไฟอย่างระมัดระวัง แสงเทียนแวววาวส่องให้เค้กยิ่งดูน่ากิน

“กินได้หรือยัง” เถียนเถียนรีบถาม “กินได้หรือยัง”

“เธอรีบอะไรนักหนา” ซือฉี่ถลึงตาใส่ “หรือเธอจะไม่รอเสวี่ยขุย”

เถียนเถียนรีบตะโกนเสียงดังไปทางห้องครัว “เจียงเสวี่ยขุยไวหน่อย!”

“มาแล้วๆ!” เงาร่างแบบบางมีเสน่ห์รีบก้าวออกมาจากห้องครัว “มา ฉันล้างแก้วสะอาดแล้ว” เธอเช็ดมือแล้วเปิดน้ำอัดลมในขวดพลาสติกขวดใหญ่ รินใส่ทุกแก้วประมาณแปดส่วนอย่างเอาใจใส่

ฟองน้ำอัดลมฟูฟ่องขึ้นข้างบน

“ทำไมไม่เย็นล่ะ” ซือฉี่ถาม

“ตู้เย็นยังไม่ได้เสียบปลั๊ก”

“หา? งั้นเนื้อมื้อเย็นจะทำยังไง”

“พวกเรามีเนื้อมื้อเย็นที่ไหนล่ะ” เสวี่ยขุยชี้เค้ก “นี่ก็คือมื้อเย็นของพวกเรา”

ซือฉี่มุ่ยปาก ดูน่ารักเป็นพิเศษ

“เวรเอ๊ย วันเกิดคราวหน้าฉันต้องกินมื้อใหญ่ให้ได้!”

“นี่เธอกำลังขอพรอยู่เหรอ”

“ฉันก็อยากขอพรนี้เหมือนกัน!” เถียนเถียนรีบพูด “จะเป่าเทียนเลยไหม”

เสวี่ยขุยส่ายหน้า “ไม่ได้ ฉันยังไม่ได้ขอพร”

“เธอทำอะไรให้มันไวหน่อยสิ!”

“เธออย่าเอาแต่เร่งฉันสิ มา ทุกคนลุกขึ้น” สองคนบนโซฟาส่งเสียงครางขึ้นมาพร้อมกัน แต่เสวี่ยขุยมุ่งมั่นมาก “ตั้งใจหน่อยสิ วันนี้เป็นวันสำคัญสำหรับพวกเรานะ!”

พวกเธอสามคนแซ่เจียงเหมือนกัน แต่กลับไม่ใช่พี่น้อง ความจริงแล้วพวกเธอไม่รู้แม้แต่ว่าพ่อแม่แท้ๆ ของตนเป็นใคร เมื่อยี่สิบปีก่อนพวกเธอถูกส่งไปบ้านเด็กกำพร้าวันเดียวกัน และครูใหญ่เจียงรับพวกเธอเอาไว้

ยี่สิบปีมานี้พวกเธอผูกพันกันเหมือนพี่น้อง ประคับประคองกันและกัน แม้ว่าตอนที่ครูใหญ่เจียงป่วยหนักก็ไม่ทิ้งไม่หนีหาย คอยผลัดกันดูแลจนกระทั่งครูใหญ่เจียงจากไป พวกเธอถึงได้ตัดสินใจไปจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ย้ายเข้ามาในอพาร์ทเม้นท์เก่าโทรมหลังนี้และเริ่มต้นชีวิตใหม่

พวกเธอทั้งสามคนเป็นสาวสวยที่พาให้คนตาลุกวาว แต่สไตล์กลับแตกต่างกัน

ซือฉี่สวยที่สุด เครื่องหน้างามละเอียดอ่อน เป็นสาวงามตามแบบฉบับโบราณที่สมบูรณ์แบบ

เสวี่ยขุยเป็นเหมือนชื่อ

[1]

ผิวขาวดุจหิมะ ยังมีรูปร่างดีอ่อนช้อยดึงดูดสายตา คิ้วเข้มตาโต บวกกับปากเล็กลูกเชอร์รี่สีแดงอีก ดูเพริศพริ้งมีเสน่ห์ไปทั้งตัว

บุคลิกของเถียนเถียนกระโดกกระเดกที่สุด แต่หน้าตาสวยน่ารัก มีรอยยิ้มหวานซึ่งหาใครเทียบไม่ได้ ขอเพียงเธอยิ้มหวานสักครั้ง ไม่ว่าใครก็ต้องสยบให้รอยยิ้มเปล่งประกายนั้น

วันนี้เป็นวันที่พวกเธอย้ายเข้าบ้านใหม่

วันนี้ยังเป็นวันดีที่เสวี่ยขุยได้งานอย่างเป็นทางการ...เช้าวันนี้เธอเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ บอกให้เธอไปรายงานตัวเริ่มงานอาทิตย์หน้า

วันนี้ก็เป็นวันเกิดของพวกเธอพอดี!

“มา ยกแก้วขึ้น!” เสวี่ยขุยพูดอย่างคึกคัก

อีกสองคนก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย ยกแก้วขึ้นตามแล้วชนกันอย่างแรง

“ชนแก้ว!”

“ฉลองให้วันเกิดของพวกเรา!”

“ฉลองให้ชีวิตใหม่ของพวกเรา!”

“แล้วก็ยินดีกับเสวี่ยขุยที่หางานได้ ทำความฝันอันยิ่งใหญ่ตั้งแต่เด็กจนโตสำเร็จ...กลายเป็นนางฟ้าในชุดขาว!”

“ขอบคุณ!” คิกๆ เสวี่ยขุยยิ้มหวานหยด หลังเรียนจบวิทยาลัยพยาบาลอย่างเป็นทางการ เธอก็หางานดีๆ ที่มั่นคงนี้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ โชคดีมากจริงๆ

“ร้องเพลงๆ!” เถียนเถียนตะโกน

ทั้งสามสบตากันวูบหนึ่ง แล้วอ้าปากร้องเพลงธีมการ์ตูน ‘แคนดี้ แคนดี้ สาวน้อยจอมแก่น’ ขึ้นอย่างรู้ใจกันมาก นี่เป็นเพลงหนึ่งที่พวกเธอร้องบ่อยที่สุด เนื้อเพลงคล้ายมีเวทมนตร์บางอย่าง เพียงแค่ร้องออกมา ก็เสมือนช่วยเพิ่มความกล้าหาญเหลือล้นให้พวกเธอได้

ตอนนี้พวกเธอกำลังจะออกเดินก้าวแรกของชีวิตใหม่ อนาคตที่เปล่งประกายงดงามกำลังรอคอยพวกเธออยู่

เสียงเพลงก้องกังวานสะท้อนอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ เมื่อร้องมาจนถึงท่อนสุดท้าย พวกเธอยิ้มพลางชูแก้วขึ้น ร้องเสียงดังอย่างเบิกบาน “ยืนหยัดต่อสู้อย่างมั่นใจ หนทางข้างหน้าสดใสและรุ่งโรจน์...”

บึ้ม!

+++++

แสงสว่างวาบขึ้น

ในแสงนุ่มละมุนมีเสียงดังออกมา

‘ตื่นเถอะ’

รอบดวงแสงนั้นมีหญิงสาวสะสวยสามคนลอยอยู่ ขนตาของพวกเธอขยับไหว ค่อยๆ เปิดเปลือกตาออกประหนึ่งถูกปลุกขึ้นมาจากแดนฝันอันลึกที่สุด

แรกเริ่มพวกเธอยังคงสับสน มองกันและกันอย่างงุนงง นี่คือพื้นที่ว่างกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต แม้ว่าจะมืดมิดแต่ไม่รู้สึกน่ากลัว กลับอบอุ่นจนพาให้คนวางใจ

ดวงแสงเล็กๆ ร่ายระบำรอบๆ พวกเธอ เมื่อสัมผัสโดนพวกเธอก็แตกตัวออกไปเหมือนดอกไม้ไฟ กระจายกลายเป็นดวงแสงที่เล็กยิ่งกว่า

ทันใดนั้นเถียนเถียนก็ร้องตกใจ

“กรี๊ด! ฉะ ฉันๆ ๆ ...ฉันกำลังลอยอยู่!” หวา สองขาของเธอเหยียบไม่ถึงพื้น!

ซือฉี่กลับเยือกเย็นมาก “อย่าโวยวาย พวกเราลอยอยู่กันทั้งนั้น”

“นี่มันเรื่องอะไรกัน” เสวี่ยขุยสับสน เธอจำได้ถึงเค้กวันเกิด ห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยกล่องกระดาษ เสียงเพลงที่ดังกังวาน และ...

บึ้ม?!

แหล่งกำเนิดแสงอันนุ่มละมุนเปลี่ยนเป็นมืดสลัวอยู่บ้าง

‘ชั้นล่างของบ้านใหม่พวกเจ้าเกิดแก๊สระเบิด ดังนั้น...’

ทั้งสามปากอ้าตาค้าง มองไปทางแหล่งกำเนิดแสงนั้น ผ่านไปพักใหญ่เสวี่ยขุยถึงได้เอ่ยปากอย่างสั่นสะท้าน

“พวกเราตายแล้ว?” ดังนั้นที่ว่างมืดมิดนี้ก็คือโลกหลังความตาย?

‘ใช่แล้ว’ เสียงจากในแหล่งกำเนิดแสงนั้นแฝงไว้ด้วยความเสียใจ

“ดังนั้น...” น้ำเสียงเสวี่ยขุยปะปนด้วยความสงสัย “คุณคือเทวดา?”

‘อะแฮ่ม มีมนุษย์มากมายเรียกข้าอย่างนั้นจริงๆ’

ซือฉี่มองไปรอบด้าน ยื่นมือคว้าจับดวงแสงที่ลอยกระจาย ดวงแสงเหมือนดาวเปล่งแสงอยู่ในมือเธอ “ถ้าอย่างนั้นที่นี่เป็นสวรรค์หรือเป็นนรก”

‘ล้วนไม่ใช่’ เสียงของเทวดาดังออกมาจากแหล่งกำเนิดแสง ‘เอ้อ...อันที่จริงพวกเจ้าไม่ควรถูกระเบิดตาย แต่เพราะการทำงานผิดพลาด พวกเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่’

“ทำงานผิดพลาด?!” เถียนเถียนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว พุ่งไปทางแหล่งกำเนิดแสงนั้น “พวกเราตายแล้ว จะชดใช้ยังไง”

แหล่งกำเนิดแสงลอยห่างออก หนีจากการคว้าจับของเธอ

‘ดังนั้นพวกเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่’ ในน้ำเสียงเทวดาเต็มไปด้วยแววรู้สึกผิด ‘พวกเจ้าจะได้คืนชีพ’

สามคนเบิกตาโตขึ้นพร้อมกัน

“จริงเหรอ”

‘แน่นอน’ เสียงนั้นเอ่ย ‘แต่ว่าการคืนชีพต้องมีเงื่อนไข พวกเจ้าต้องทำภารกิจหนึ่งให้สำเร็จ’

เถียนเถียนส่งเสียงออกมาอย่างทนไม่ไหว

“เพราะคุณทำงานผิดพลาด แล้วมีสิทธิ์อะไรมาตั้งเงื่อนไข”

‘นี่เป็นกฎนะ!’

“ฉันไม่สน...”

“เดี๋ยวก่อน” เสวี่ยขุยจับเถียนเถียนที่เดือดดาลไว้ มองไปทางแหล่งกำเนิดแสงนั้น “เงื่อนไขอะไร”

‘ข้าจะส่งพวกเจ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง พวกเจ้าต้องทำให้อ๋องทั้งสามจับมือปรองดองกัน’

“อ๋อง? อ๋องอะไร” อ๋องเจ้าแห่งนักพนัน? อ๋องเจ้าแห่งเรือ? หรืออ๋องเจ้านักกิน?

เทวดาประกาศออกมาอย่างเนิบช้า...

‘เซียวอ๋อง โซ่วอ๋อง ลี่อ๋อง’

“ชื่อนี้แปลกชะมัด” เถียนเถียนขมวดคิ้ว

ซือฉี่กลับหัวเราะเบาๆ

“ไม่เห็นยาก! แค่ให้คนสามคนปรองดองกันง่ายจะตาย” เทียบกับการคืนชีพแล้ว เงื่อนไขนี้ง่ายจนพาให้นึกระแวง

‘ใช่ ไม่ยาก ดังนั้นพวกเจ้าจึงมีเวลาเพียงหกเดือน’

“ยังมีกำหนดเวลาอีก” เถียนเถียนร้องขึ้นมาอีก

‘นี่เป็นกฎ’

“งั้นมีกฎลงโทษการทำงานผิดพลาดไหม”

แหล่งกำเนิดแสงสั่นน้อยๆ แต่ก็กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว ‘เรื่องนี้ไม่อาจชักช้า ถ้าพวกเจ้าตกลง ยินยอมคืนชีพ ก็ต้องรีบออกเดินทางเร็วหน่อย’

เสวี่ยขุยรีบพูดขึ้นก่อน “ฉันตกลง”

“ฉันก็ด้วย” ซือฉี่พยักหน้า

เถียนเถียนได้แต่ยินยอมตามไปด้วย “ก็ได้!”

เสียงในต้นกำเนิดแสงโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด

‘เช่นนั้นพวกเราก็นับว่าบรรลุข้อตกลงกันแล้ว’ แหล่งกำเนิดแสงค่อยๆ แผ่ขยายออก ดวงแสงเล็กละเอียดต่างถูกรวมเข้าไปในกลุ่มแสงแยงตา ‘หากพวกเจ้าร่วมใจอธิษฐาน ก็จะได้มาอยู่ร่วมกัน’

“ถ้าถึงกำหนดเวลาแล้วพวกเรายังทำไม่สำเร็จล่ะ” เสวี่ยขุยถามเรื่องสำคัญที่สุด

กลุ่มแสงแผ่ขยายต่อเนื่อง กลืนกินความมืดมิดและห่อหุ้มร่างของพวกเธอไว้ เสียงนั้นสะท้อนอยู่ภายในแสงโชติช่วง ดังเข้าหูกระจ่างชัดทุกถ้อยคำ

‘เช่นนั้นพวกเจ้าก็ต้องกลับมาที่นี่อีก’

“อะไรนะ?!”

“ไม่ ฉันไม่อยากตายอีกรอบ!”

“ฉันขอคืนคำ!”

ทั้งสามแย่งกันตะโกน ทว่ากลับค่อยๆ สูญเสียสติรับรู้ไปท่ามกลางแสงสว่างที่ท่วมท้นขึ้น พวกเธอรู้สึกว่าถูกพลังบางอย่างดึงลงไปด้านล่าง ตกลงไปเรื่อยๆ ร่วงลงสู่ความมืดมิดที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง

สิ่งที่ทั้งสามได้ยินเป็นอย่างสุดท้าย คือเสียงพึมพำแผ่วเบานั้น...

‘...นี่คือกฎ’

 

++++++++++

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว