หลับเป็นตายไปหนึ่งวันเต็มหลังจากอาการเมาค้าง
เมื่อวานหลังจากสิบทิศออกจากห้อง ตรีภพก็เอาแต่นอนขดตัวอยู่ในห้องตลอดทั้งวันไม่ไปไหน ทั้งปวดหัว ทั้งคลื่นไส้ เพิ่งเข้าใจว่าอาการปวดหัวจนแทบระเบิดมันเป็นยังไง แค่ลุกขึ้นเดินยังเกือบจะไม่ไหว โชคดีที่พอมีขนมและนมหลงเหลืออยู่ในห้องบ้าง ตรีภพจึงสามารถดำรงชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมได้โดยไม่ต้องพาร่างอันอ่อนแอออกไปไหน
เช้านี้วันนี้เขาจึงตื่นขึ้นมาด้วยความสดใส อาการเมาค้างหายเป็นปลิดทิ้ง เตรียมพร้อมเผชิญกับโลกของความเป็นจริงอีกครั้ง
เรื่องราวที่เพิ่งรับรู้ทำให้จิตใจอันอ่อนไหวของตรีภพบอบช้ำมากไปกว่าเก่า โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของภาสกรและไข่มุกที่พัฒนาจากคนรู้จักสู่การเป็นคนรัก ความหวังที่มีอยู่น้อยนิดของตรีภพที่เคยแอบหวังก็พลันดับสลายไปในพริบตา
ไม่มีแม้แต่โอกาสที่เขาจะได้แอบรักภาสกรอีกต่อไป
โชคยังดีที่ครั้งนี้ตรีภพไม่ต้องเผชิญเรื่องราวน่าเศร้าเพียงลำพัง อย่างน้อยในช่วงเวลาที่ยากลำบากเขาก็มีเพื่อนดี ๆ อย่างสิบทิศที่อยู่เคียงข้าง จะว่าไปหลังจากแยกย้ายกันเมื่อวานสิบทิศก็ไม่ได้ติดต่อมาหาเขาเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้สิบทิศจะเป็นอย่างไรบ้าง
ตรีภพก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง ตอนนี้เวลาแปดโมงครึ่ง ปกติสิบทิศจะต้องมาหาเขาที่ห้องตั้งแต่เช้าเพื่อรอไปเรียนพร้อมกัน แต่วันนี้เลยเวลามาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วกลับไม่มีแม้แต่เงา สิบทิศหายเงียบไปเลยจนเริ่มรู้สึกเป็นห่วง
เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่านะ
ตรีภพตัดสินใจเดินไปหาสิบทิศที่ห้อง แต่เคาะประตูเรียกอยู่หลายครั้งก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ตรีภพถอดใจ สงสัยสิบทิศออกจากห้องไปแล้ว เขามีธุระสำคัญอะไรกันนะถึงออกไปโดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ
ทว่าขณะที่ตรีภพกำลังจะย่างเท้าก้าวเดิน ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มคุ้นหน้าที่ออกมาปรากฎตัว
“สิบทิศ” ตรีภพยิ้มพูด รู้สึกดีใจที่เห็นสิบทิศยังปกติดี ไม่ได้มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับเขาอย่างที่คิดไปต่าง ๆ นานา “นึกว่านายไปเรียนแล้วซะ เราเคาะประตูเรียกตั้งนานไม่เห็นตอบ”
“…” ไม่มีคำตอบใด ๆ จากปากเจ้าของห้อง มีเพียงสีหน้าเรียบนิ่งออกไปทางดุที่แต่งแต้มใบหน้าของเขา พร้อมร่างสูงที่ก้าวเดินผ่านหน้าตรีภพไปราวกับเขาไร้ซึ่งตัวตน
“อะไรของเขา” ตรีภพพึมพำกับตัวเอง เดินตามสิบทิศไปด้วยความงุนงง ลักษณะท่าทางเมินเฉยแบบนี้เขาไม่ได้เห็นมานานแล้ว ย้อนไปก็คงเป็นช่วงแรก ๆ ที่ได้รู้จักกัน แล้วทำไมจู่ ๆ สิบทิศถึงมีอาการแบบนี้อีกล่ะ
ตรีภพเดินตามสิบทิศไปอย่างเงียบเชียบ ลอบสังเกตอาการของเขาจากทางด้านหลัง แอบรู้สึกเป็นห่วงว่าสิบทิศมีเรื่องไม่สบายใจหรือเครียดอะไรหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่กล้าถาม จึงทำได้เพียงเดินตามต่อไปจนกระทั่งมาถึงลานจอดรถ
“ทำอะไร?”
มือของตรีภพชะงัก ขณะกำลังเอื้อมไปเปิดประตูรถ แต่ถูกผู้เป็นเจ้าของเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ไปเรียนไง”
“ใครให้มึงขึ้นรถกู”
“อะ อ้าว” ดึงมือกลับแทบไม่ทัน ยิ่งงงเข้าไปอีกว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมสิบทิศถึงพูดกับเขาแบบนี้
“ถอยออกไป กูรีบ”
“นายเป็นอะไรรึเปล่า?” ตรีภพโพลงถาม ดูจากสถานการณ์ต้นเหตุที่ทำให้สิบทิศมีอาการแบบนี้คงต้องมาจากตัวเขาแน่ ๆ
“…”
“เราทำอะไรให้นายโกรธเหรอ?” ตรีภพเดินอ้อมไปหา เผชิญหน้ากับร่างสูงที่ทำหน้าคร่ำเคร่ง
“ไม่ต้องยุ่งกับกู”
“แสดงว่าใช่” คิดไว้ไม่มีผิด ตรีภพรีบเดินตามเมื่อสิบทิศพยายามเบือนหน้าหนี “นายเป็นอะไรทำไมไม่บอกเราอะ”
“…”
“เราทำอะไรให้นายไม่พอใจก็บอกมาตรง ๆ ไม่เห็นต้องทำเป็นน้อยใจเหมือนเด็ก ๆ เลย”
“ใคร...ใครน้อยใจ”
“ก็นายไง” ตรีภพกลั้นขำเมื่อเห็นคนตีหน้าตายกรอกตาไปมาเลิ่กลั่ก
“กูไม่ได้น้อยใจ”
“จริงอะ?” ตรีภพยิ้มเจ้าเล่ห์ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายพยายามหลบหลีกก็ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองคิดไม่ผิด
“เออ”
“บอกมาเถอะนา”
“ไม่ต้องยุ่งกับกู”
“ไม่ให้เรายุ่งได้ไง นายเป็นเพื่อนเรานะ”
“เพื่อนเหรอ?” ดวงตาแข็งกร้าวหันมองมาทางตรีภพ เล่นเอาคนตัวเล็กสะดุ้งตัวไปเล็กน้อย “ทีมึงเองยังไม่ชอบให้กูยุ่งเรื่องของมึงเลย”
“เรา?” เรียวนิ้วชี้วกมาที่ตัวเอง “ตอนไหน?”
“เมื่อวาน”
“เมื่อวาน?” ตรีภพทวนคำ ขบเม้มริมฝีปากอย่างครุ่นคิด
“ช่างมันเถอะ” แต่สิบทิศไม่ปล่อยให้ตรีภพได้มีเวลาคิดทบทวนร่างสูงพ่นลมฉุนใส่ ตีสีหน้าบึ้งตึงราวกับยักษ์ ยื่นมือหมายจะเปิดประตูรถ
ตรีภพจึงรีบรั้งแขนเขาเอาไว้
“เดี๋ยวสิ พูดให้รู้เรื่องก่อน”
“กูจะรีบไปเรียน”
“นายโกรธที่เราต่อว่านายเมื่อวานใช่มั้ย?” ตรีภพนึกออกแล้ว เมื่อวานก่อนแยกย้ายเขาดุสิบทิศเรื่องที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้โดยพลการ ด้วยอาการปวดหัวอย่างหนักเขาจึงไม่ทันได้สังเกตว่าสิบทิศมีอาการเช่นไร
“…” สิบทิศไม่ตอบ ทำเป็นหันมองไปทางอื่น
“เราไม่ได้โกรธนายเลยนะ” มือบางเขย่าแขนแกร่ง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจ
“ที่เราพูดไปแบบนั้นก็เพราะเรา...” ตรีภพอ้ำอึ้ง แสดงท่าทางลังเล “เราแค่เขิน เขินที่นายเห็นของเรา” ตรีภพอ้อมแอ้มพูด ก้มหน้างุดด้วยท่าทางเขินอาย จู่ ๆ ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า
“…”
“จริง ๆ นะ เราขอโทษ นายอย่าโกรธเราเลยนะ”
“ขึ้นรถ”
“...”
“สายแล้ว เดี๋ยวไปไม่ทันควิซหรอก”
“นายหายโกรธเราแล้วใช่มั้ย?”
“...” สิบทิศไม่ตอบ เปิดประตูขึ้นรถหน้าตาเฉย
ตรีภพยืนงงไปชั่วขณะ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติด ก่อนจะคิดได้ว่าถ้าสิบทิศให้ขึ้นรถแสดงว่าเขาต้องหายโกรธแล้ว ตรีภพอมยิ้ม ก่อนจะรีบเปิดประตูตามขึ้นไป แต่ก็อดแอบนินทาเขาในใจไม่ได้
คนอะไรฟอร์มจัดชะมัด