@THE SUN BAR
น้ำหนึ่งสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ทั้งที่คิดว่าจะไม่รับงานที่ผับแห่งนี้แล้วเชียว แต่ท้ายที่สุดเธอก็ทนเสียงรบเร้าของขวัญชนกไม่ได้
‘ฉันขอร้องล่ะ แกช่วยทำงานแทนฉันหน่อยได้มั้ย ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ ฉันไม่สบายปวดหัวมากเลย’
นั่นแหละ..เพราะความใจอ่อนทำให้เธอมายืนในผับนี้อีกครั้ง แต่มันจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ
ร่างบางระหงอยู่ในสุดแซคสีดำอวดสัดส่วนที่ลงตัว หญิงสาวหันไปมองทางพนักงานคนอื่นเล็กน้อย ซึ่งกำลังทำหน้าที่บริการลูกค้าทั้งชงเหล้าและคอยเอนเตอร์เทนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อเห็นดังนั้นน้ำหนึ่งจึงหันไปตั้งใจทำงานโดยไม่สนอะไร อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องดีอยู่บ้างนั่นก็คือเสี่ยพจน์ไม่มา
หญิงสาวเดินยกเหล้าไปเสิร์ฟให้ลูกค้าตรงโซนวีไอพี ทั้งโต๊ะมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายนั่งอยู่ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก วางเหล้าลงบนโต๊ะเสร็จก็เตรียมตัวหันกลับ แต่ทว่ากลับมีใครบางคนคว้าแขนเธอไว้
ใบหน้าเนียนหันกลับไปทันควัน ก่อนชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจเมื่อคนที่จับแขนเธอไว้กระหยิ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ อีกทั้งยังยักคิ้วใส่เธออีก
“กรุณาปล่อยด้วยค่ะ”
“อย่าบอกนะว่าจำกันไม่ได้”
ลูกค้าหนุ่มหน้าตาดีเอ่ยถาม ทำให้น้ำหนึ่งพิจารณาอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วน ก่อนฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเขาเป็นคนเดียวกับชายหนุ่มที่อยากดีลให้เธอไปนอนด้วยเมื่อคราวก่อน บ้าจริง!! ทั้งที่คิดว่าจะไม่เจอแล้วแท้ ๆ
“กรุณาปล่อยด้วยค่ะ” หญิงสาวยังคงเอ่ยเสียงเรียบ ไม่แสดงท่าทางตื่นกลัวหรือเป็นกังวลให้อีกฝ่ายได้เห็น
“อะไรกัน ไหนบอกว่าถ้าเจอกันคราวหน้าจะยอมดีลด้วย” ชายหนุ่มยังคงจับมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย นั่นทำให้น้ำหนึ่งพยายามคิดหาทางเอาตัวรอดอีกครั้ง
“วันนี้คุณก็ยังช้าเหมือนเดิม”
“หมายความว่า ดีลกับคนอื่นไว้แล้ว?”
น้ำหนึ่งพยักหน้ารับ จำต้องปดเอาตัวรอดอีกครั้ง “ค่ะ เพราะฉะนั้นปล่อยด้วย”
“ไม่เชื่อ ไอ้หน้าไหนที่เธอดีลด้วย”
แต่เหมือนอีกฝ่ายจะยังไม่ยอมปักใจเชื่อง่าย ๆ หญิงสาวจึงต้องหาทางเอาตัวรอดอีกครั้ง พยายามเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ความลับค่ะ อีกอย่างฉันจะไปกับใคร คงไม่เกี่ยวกับคุณ”
“อะไรวะ โกหกรึเปล่าเนี่ย”
“ฉันไม่มีความจำเป็นอะไรต้องโกหก”
น้ำหนึ่งตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ส่วนลูกค้าหนุ่มก็จดจ้องเธออย่างใช้ความคิด แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยอมปล่อยแขนเธอ แต่ไม่วายพูดกับเธออีกครั้ง
“อย่าให้รู้นะว่าโกหก แม่งจะบีบให้แหลกคามือเลย”
ประโยคที่เหมือนขู่ ทำให้น้ำหนึ่งแอบหวั่นใจ แต่ก็ยังปั้นหน้าเรียบนิ่ง ก้มหัวให้อีกฝ่ายเล็กน้อย แล้วหมุนตัวเดินออกมาทันที พร้อมสมองที่พยายามคิดหาทางหนีเอาตัวรอดให้ผ่านคืนนี้ไปได้
อีกด้าน...
ชวินทร์ก้าวขาลงจากรถหรู โดยมีผู้ช่วยคนสนิทอย่างนนท์ที่ขับรถมาให้เดินตามลงมาไม่ห่าง ชายหนุ่มรู้สึกเคืองเพื่อนไม่น้อย ทั้งที่สร้างธุรกิจมาด้วยกันแต่กลับมีเขาเพียงคนเดียวที่ต้องมาเฝ้าผับในคืนนี้ อีกคนกำลังตามจีบสาว อีกคนติดลูกติดเมีย แม่ง!! ให้มันได้อย่างนี้สิ
ผับ THE SUN BAR เป็นธุรกิจที่ชวินทร์และเพื่อนอีกสองคนร่วมลงทุนด้วยกัน คนแรกคือศิรชัชหรือเดย์ คนที่สองคืออิทธิพัทธ์หรือบาร์ และมีอีกหนึ่งธุรกิจก็คือร้านซ่อมรถครบวงจร
โดยที่ร้านซ่อมรถนั้นเดย์จะเป็นคนดูแล ส่วน THE SUN BAR เขาและบาร์จะเป็นคนดูแล แต่ก็ใช่ว่าทั้งสามจะมีเพียงธุรกิจของตัวเอง หากต้องสืบทอดธุรกิจทางบ้านของตัวเองไปด้วย นั่นทำให้งานรัดตัว
แต่เขารู้...พวกมันแค่อ้างไปเท่านั้นแหละว่าติดงาน ไอ้บาร์เขาก็ได้ยินมาว่ากำลังตามจีบสาวอยู่ ส่วนเดย์รายนี้ไม่ต้องพูดถึงมีครอบครัวก่อนเพื่อน ยิ่งกำลังมีลูกสาวที่น่ารักยิ่งตามตัวยาก ไอ้คนติดลูกติดเมีย
มีแต่เขานี่แหละที่ไม่คิดจะมีพันธะมัดตัว อยู่คนเดียวสบายจะตาย
“สวัสดีครับคุณเซน” การ์ดก้มหัวให้ชวินทร์เล็กน้อย โดยที่ตัวเขาเองก็พยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนเอ่ยถามเสียงเรียบ
“สถานการณ์ปกติรึเปล่า มีพวกก่อกวนไหม”
“ตอนนี้สถานการณ์ยังปกติครับ แต่ถึงมีพวกก่อกวนพวกผมก็คุมอยู่”
“อืม ถ้ามีอะไร กูอยู่ชั้นสาม ขึ้นไปตามได้” ชวินทร์เอ่ยบอกด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“ครับ”
ชายหนุ่มกวาดมองรอบ ๆ ผับอีกครั้ง นักท่องราตรีทั้งหญิงและชายที่อัดแน่นกันตรงชั้นหนึ่งทำให้เขารู้สึกพอใจ ทั้งที่เป็นวันธรรมดาไม่ใช่วันหยุดอย่างเสาร์-อาทิตย์ แต่ร้านเขาก็ยังมีลูกค้ามาใช้บริการอย่างเนืองแน่น พลันสายตาก็หยุดชะงักและจดจ้องอยู่ที่ร่างบางระหงของใครบางคน คนที่เขาจำได้ขึ้นใจว่าอวดดีแค่ไหน
หญิงสาวในชุดพีอาร์ของร้านกำลังชงเหล้าให้ลูกค้าที่ทั้งโต๊ะมีแต่ผู้ชาย ขนาดตัวเขามองจากตรงบันไดยังเห็นว่าผู้ชายพวกนั้นต่างจ้องพีอาร์คนสวยเหมือนเสือที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อ สายตาพวกนั้นทั้งชัดเจนและจาบจ้วงแต่เหมือนคนถูกมองจะไม่แคร์อะไร ยังคงทำหน้าที่เอนเตอร์เทนต่อ
คงช่ำชองมากสิท่า...
“มีอะไรรึเปล่าครับนาย”
เสียงนนท์ ลูกน้องคนสนิทที่เอ่ยทักทำให้ชวินทร์ละสายตาจากพีอาร์สาว
“ไม่มีอะไร” ตอบเสร็จก็เดินขึ้นบันไดไปยังห้องสังเกตการณ์ที่อยู่ชั้นสาม
พอเดินเข้ามาในห้องสังเกตการณ์ที่เต็มไปด้วยจอมอนิเตอร์จากกล้องวงจรปิด ชวินทร์เดินไปนั่งตรงโซฟาทันที หลังจากที่ไปกินข้าวกับลูกค้าเสร็จเขาก็มุ่งตรงมาที่ผับเลยโดยไม่ได้พัก การมาเฝ้าผับก็ถือเป็นการพักผ่อนอีกรูปแบบหนึ่งของเขา อย่างน้อยไม่ต้องเดินตรวจเอง แค่นั่งจิบเหล้าจิบเบียร์จนผับปิด แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นคนที่ต้องสั่งการอย่างเด็ดขาดก็คือเขา
“นายจะรับเครื่องดื่มอะไรครับ” นนท์ถาม
“เอาเหล้าแล้วกัน มึงก็มานั่งดื่มกับกูด้วย”
“ครับ” นนท์ตอบรับก่อนเดินออกไปสั่งเหล้ามา แล้วเดินมานั่งตรงโซฟาอีกตัวข้างเจ้านายหนุ่ม
ความที่นนท์อายุรุ่นราวคราวเดียวกับชวินทร์ทำให้ทั้งคู่สนิทและรู้ใจกันเป็นอย่างดี ในเวลางานทั้งสองคนคือเจ้านายและลูกน้อง แต่พอเลิกงานก็ไม่ต่างจากเพื่อนคนหนึ่ง
รอไม่นานพนักงานจากด้านนอกก็เอาเหล้าเข้ามาเสิร์ฟและชงให้ สองหนุ่มต่างนั่งจิบเหล้าราคาแพงและคุยกันไปพลาง ๆ
“คืนนี้นายอยากผ่อนคลายไหมครับ” นนท์เอ่ยถามเจ้านายที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ปกติชวินทร์จะต้องมีสาว ๆ ไว้ผ่อนคลายยามค่ำคืน
“รู้ดี” ชวินทร์หันไปมองลูกน้องที่รู้ใจเขาเป็นอย่างดี
“คุณแพมหรือคุณแซนดีครับ” นนท์เอ่ยชื่อนางแบบสาวทั้งสาวทั้งสองให้เจ้านายเลือก เพราะช่วงนี้รู้สึกว่าชวินทร์จะถูกใจนางแบบสาวทั้งสองเป็นพิเศษ ถึงเจ้านายเขาจะชอบซื้อกิน แต่นนท์รู้ดีว่าคนที่มีสิทธิ์เข้าใกล้ชวินทร์นั้นต้องผ่านการคัดกรองมาอย่างดี
“ใครก็ได้ นัดไว้ที่โรงแรมเหมือนเดิม เวลาเดิม ส่วนนายกลับก่อนได้เลย”
“ครับ” นนท์ยกยิ้ม เขาคงต้องกลับเอง ดูเหมือนว่าคืนนี้ชวินทร์คงจะต้องการเวลาส่วนตัวทั้งคืน
*********************
ฝากกดหัวใจ กดไลก์ให้พี่เซนกับน้องน้ำด้วยนะคะ
ไม่ว่าจะกี่เรื่องที่ผ่านมาไรต์อยากจะบอกกับนักอ่านเสมอว่า ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่เข้ามาอ่านนิยายของนักเขียนคนนี้