เมื่อกลับมาถึงบ้านกวิสราก็รีบวิ่งขึ้นห้องนอนทันที เธอตื่นเต้นที่จะได้ลองทาลิปสติกใหม่สองแท่งที่เพิ่งซื้อมา
ตอนที่อยู่ในร้านไม่ได้ลองทาบนริมฝีปาก เธอแค่ลองกับท้องแขนเท่านั้น เลยไม่รู้ว่าถ้าเอามาใช้งานจริงมันจะเข้ากับใบหน้ารึเปล่า
“ตาถึงเหมือนกันนะเนี่ย” ยายเกี๊ยวชมตัวเอง
เมื่อพอใจแล้วก็เก็บลิปสติกใส่ลงในกระเป๋าเครื่องสำอาง ในนั้นมีเครื่องสำอางที่เธอซื้อเก็บสะสมไว้จำนวนหนึ่ง เป็นพวกอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการแต่งหน้า ไม่ได้มีครบหรือเยอะเหมือนพวกมืออาชีพ เพราะเธอมันแค่มือสมัครเล่นที่เพิ่งหัดแต่งหน้าตอนขึ้น ม.6 นี่เอง
จากนั้นเท้าเรียวก็เดินไปหยุดอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบชุดลำลองออกมาและเดินเข้าห้องน้ำ ทีแรกว่าจะเปลี่ยนชุดเฉยๆ แต่ว่าตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วเธอเลยคิดว่าอาบน้ำเลยดีกว่า จึงเปลี่ยนไปหยิบชุดนอนแทน
เด็กสาวหายเข้าไปในห้องน้ำนานพอสมควร แล้วเดินออกมาในชุดนอนกระโปรงสีหวานแขนยาว ผมยาวของเธอยังหมาดๆ เพราะยายเกี๊ยวขี้เกียจใช้ไดร์เป่า เธอคิดว่าเดี๋ยวมันก็แห้งเอง
ดวงตากลมโตภายใต้แพขนตาหนาสะดุดเข้ากับโต๊ะและเก้าอี้ น่าจะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือของเธอเพราะก่อนหน้านี้อาไพน์บอกว่าจะให้คนยกมันมาไว้ในห้องให้
เมื่อมีโต๊ะเป็นของตัวเองแล้วกวิสราก็ทำการจัดโต๊ะใหม่เสียเลย เธอยกลังกระดาษสามใบที่บรรจุของสะสมอันล้ำค่าออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ หยิบมันขึ้นมาวางบนโต๊ะทีละชิ้น
ที่ต้องบอกว่าค่อยๆ หยิบ เพราะยายเกี๊ยวถนอมมันมาก ราวกับว่าของนั้นเป็นแก้วที่เปราะบาง ทั้งที่มันเป็นแค่กรอบรูป
อะคิลิก
กวิสราไม่ได้ห่วงกรอบรูปหรอก เธอห่วงรูปภาพที่อยู่ในกรอบมากกว่า
“ขอโทษนะคะพี่เจย์ที่เมื่อคืนต้องนอนอยู่ในลังทั้งคืนเลย” ยายเกี๊ยวพูดกับคนในรูป...ไอดอลหนุ่มสุดชิกที่มีดวงตาเฉี่ยวสุดเซ็กซี
กรอบรูปหลายขนาดจำนวนเกือบสิบชิ้นถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นเธอก็จัดสมุดอัลบั้มที่ใช้สะสมการ์ดภาพใส่ไว้ในลิ้นชักข้างโต๊ะ หากเอาขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะคงไม่มีพื้นที่เขียนหนังสือเพราะมันมีหลายเล่ม
ยายเกี๊ยวใช้เวลาจัดโต๊ะอยู่นานพอสมควร เพราะของค่อนข้างเยอะ ไหนจะมีอัลบั้มเพลงอีก ทั้งอัลบั้มเดี่ยวของพี่เจย์และอัลบั้มวงที่พี่เจย์ออกร่วมกับเพื่อนๆ
เธอวางข้าวของที่เกี่ยวกับผู้ชายจนเต็มโต๊ะรวมถึงลิ้นชัก จนไม่มีที่เหลือให้เก็บหนังสือเรียน สายตาจึงสอดส่ายไปทั่วห้อง แล้วก็เห็นว่าข้างเตียงมีตู้ลิ้นชักเตี้ยๆ วางอยู่ทั้งสองข้างของเตียงนอน
จึงได้เดินเข้าไปใกล้และเปิดมันออก ในนั้นไม่มีข้าวของอะไรนอกจากกล่องถุงยางอนามัย
กวิสราไม่ได้ตกใจที่เห็นมัน แล้วมันแปลกตรงไหนที่
อาไพน์จะมีของพวกนี้เก็บไว้ในห้อง
จริงสิ! พรุ่งนี้เธอต้องออกไปรายงานหน้าชั้นเรียนนี่ มันเป็นงานกลุ่มวิชาสุขศึกษา เพื่อนในกลุ่มแบ่งงานให้เธอทำหน้าที่สาธิตการสวมถุงยางอนามัย
อันที่จริงเธอควรทำการซักซ้อมตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์แล้ว แต่มันดันมีรายการโทรทัศน์ที่พี่เจย์เป็นแขกรับเชิญฉายช่วงนั้นพอดี ยายเกี๊ยวเลยลืมทุกอย่างเพราะมัวจดจ่ออยู่กับผู้ชาย
ลืมแม้กระทั่งว่าต้องไปซื้อถุงยางอนามัยมาเตรียมไว้ แต่โชคยังเข้าข้างที่วันนี้เจอถุงยางของอาไพน์ และไหนๆ ก็ได้ถุงยางของเขามาแล้ว ไปขอให้เขามาช่วยสอนวิธีการใส่เลยดีไหม?
ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นเพราะเธอไม่เคย และทำไม่เป็น
ว่าแล้วก็ลงไปชั้นล่าง เธอเดินหาเพียงพันแสงทั่วบ้านแล้วก็มาเจอเขาอยู่ในห้องนั่งเล่น ดูเหมือนกำลังดูโทรทัศน์อยู่กับพิมพิดา
กวิสราจึงเก้ๆ กังๆ ไม่กล้าเดินเข้าไปรบกวน
“มีอะไรรึเปล่าเกี๊ยว” เขาเห็นอะไรกำลังเคลื่อนไหวที่
หางตาเลยหันไปมอง
“อาไพน์ว่างรึเปล่าคะ” ทำเสียงอ้อมแอ้มถามอาไพน์ แล้วก็เหลือบมองน้องสาวของอาไพน์ด้วย เพราะรู้สึกเกรงใจอย่างไรชอบกล แต่ดูเหมือนว่าพี่แพมจะไม่สนใจอะไรนอกจากทีวี
“ว่าง มีอะไร”
“มานี่หน่อยสิคะ” คนตัวเล็กกวักมือเรียกเขา
เพียงพันแสงลุกเดินไปทันที “มีอะไร” ถามเป็นรอบที่สามแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบสักที
“ตามมานี่ค่ะ” พอเขาเดินมาหาก็คล้องแขนพาเดินเข้ามาในครัว “รอก่อนนะคะ”
เธอมองหาอุปกรณ์สำคัญที่ต้องใช้ในการนำเสนองานหน้าชั้นเรียนในวันพรุ่งนี้ ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้จะมีติดครัวอยู่ตลอด
“ได้ของแล้วค่ะ ขึ้นไปข้างบนกัน”
“เอากล้วยมาทำไม”
----
เดี๋ยวก็รู้ค่ะ ไม่ต้องถาม