“เข้าใจมั้ยภพ?”
“…”
“ภพ!”
“คะ ครับ” เสียงเรียกย้ำชื่อของเขาทำให้ตรีภพสะดุ้งตัวและหลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะพบว่าผู้ร่วมโต๊ะทั้งสองกำลังจับจ้องมาทางเขาเป็นสายตาเดียวกัน
“เป็นอะไรหรือเปล่า พี่สอนไม่เข้าใจเหรอ?”
“ปะ...เปล่าครับ” ตรีภพรีบส่ายหน้าหวือ โบกมือไปมาปฏิเสธ
“พี่เห็นเราเหม่อ นึกว่าเรียนไม่รู้เรื่องซะอีก”
“รู้เรื่องครับ เข้าใจกว่าเรียนที่คณะเยอะเลย”
“นั่นสิคะ มุกก็เข้าใจขึ้นเยอะเหมือนกัน”
“ได้ยินแบบนี้ค่อยใจชื่นขึ้นมาหน่อย”
รอยยิ้มของภาสกรทำให้ตรีภพเป่าปากออกมาด้วยความโล่งใจ เอื้อมมือไปหยิบแก้วกาแฟของตัวเองขึ้นดื่มเพื่อดับกระหาย
“อี๋...ขมปี๋เลย” ตรีภพร้องออกมาด้วยใบหน้าเหยเก วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแทบไม่ทัน เมื่อดื่มเอสเพรสโซ่ในแก้วเข้าไปเต็มปาก โดยไม่รู้เลยว่ากาแฟที่เขาดื่มรสชาติทั้งเข้มและขม ชนิดที่เขาไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อนในชีวิต
“ก็ไม่ขมนะ เราว่ารสชาติกำลังดี” ไข่มุกมองเขาประหลาด ยกแก้วกาแฟของตัวเองขึ้นจิบเล็กน้อยเพื่อยืนยันสิ่งที่เธอพูด “พี่ภาสว่าไงบ้างคะ?”
“อร่อยดี พี่ชอบ” นัยน์ตาคมที่เต็มไปด้วยคำถามหันมองมาที่ตรีภพ “ภพไม่ชอบเหรอ?”
“ชอบครับ” ใบหน้าบึ้งตึงแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในฉับพลัน ตรีภพกลั้นใจหยิบแก้วกาแฟขึ้นดื่มอีกครั้ง “อร่อยมากครับ”
นัยน์ตาเปล่งประกายและรอยยิ้มกว้างเต็มไปด้วยคำโกหก ถึงแม้ต้องกล้ำกลืนฝืนความรู้สึกของตัวเองเพียงใด แต่ตรีภพก็จำยอมต้องทำเพื่อปิดบังเรื่องที่สร้างไว้ไม่ให้ภาสกรรู้
~~
การติวอันแสนยาวนานเสร็จสิ้นลง ตรีภพกลับหอด้วยความสุขจนล้นปรี่ หลังจากได้อิ่มเอมใจไปกับการใกล้ชิดภาสกรมาเกือบตลอดทั้งวัน
คืนนี้คงเป็นอีกวันที่ตรีภพจะนอนหลับฝันดีโดยไม่ต้องพึ่งพาภาพฝันลม ๆ แล้ง ๆ
ฝีเท้าก้าวเดินขึ้นบันไดหออย่างเริงร่า แต่มีอันต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาพลันเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าห้องของเขา
“สิบทิศ” ตรีภพเอ่ยเรียก เดินตรงเข้าไปหาเพื่อนที่กำลังกอดอกพิงตัวกับกำแพงราวกับกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง “นายมาทำอะไรหน้าห้องเรา”
“มาพอดี” มุมปากคนพูดกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม “กูลืมกุญแจไว้ในห้อง กำลังรอรูมเมตกูกลับมา”
“อ๋อ”
“ขอเข้าไปนั่งรอที่ห้องมึงหน่อยดิ”
“ฮะ! ว่าไงนะ?” สิ่งที่ได้ยินสร้างความตกใจให้กับตรีภพอยู่ไม่น้อย
“ไม่รู้ว่ามันจะกลับมาเมื่อไหร่ กูขี้เกียจรอ”
“แล้ว…” เสียงที่ลากยาวเต็มไปด้วยความลังเล “เพื่อนคนอื่นของนายล่ะ”
“พวกมันอยู่หออื่น กูขี้เกียจขับรถวกไปวกมาหลายรอบ”
“แต่...”
“ทำไม? ให้กูเข้าไปนั่งรอในห้องมึงหน่อยไม่ได้หรือไง?
“…” ตรีภพขบเม้มริมฝีปากอย่างครุ่นคิด ใจนึงไม่อยากให้สิบทิศเข้าไปเลย เพราะภายในห้องของตรีภพเต็มไปด้วยภาพของภาสกรที่ติดทั่วบนผนัง จะให้สิบทิศเห็นภาพเหล่านั้นไม่ได้ถึงแม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าตรีภพแอบชอบภาสกรอยู่ก็ตาม
แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกผิดที่ทิ้งให้สิบทิศอ่านหนังสือคนเดียวก็ผุดขึ้นมาในความรู้สึก แถมเมื่อเช้าก็มีน้ำใจพาตรีภพไปห้องสมุด หากเอ่ยคำปฏิเสธออกไปก็ดูจะใจจืดใจดำเกินไปหน่อย
แบบนี้ตรีภพควรทำอย่างไรดี?
“ว่าไง”
“เอ่อ…”
“มึงนี่แล้งน้ำใจจังว่ะ”
“ก็ได้ ๆ” ตรีภพโพล่งพูดออกไป ยื่นมือคว้าแขนของสิบทิศไว้เมื่อเห็นเขาหมุนตัวกำลังจะก้าวเดินด้วยความผิดหวัง
รอยยิ้มพราวปรากฎขึ้นบนใบหน้าคมทันทีหลังจากได้ยินคำตอบรับ
“แต่…ห้องเรารกนะ นายจะอยู่ได้เหรอ?”
“ไม่มีปัญหา”
“มันคับแคบนะ”
“ก็เท่าห้องกูนั่นแหละ”
“แต่…”
“สรุปมึงจะให้กูเข้าไปมั้ย?”
“โอเค ๆ” ตรีภพรีบเงียบเสียง หันไปไขประตูห้องของตัวเองทันทีเมื่อเห็นท่าทางโกรธกริ้วของเพื่อนข้างห้อง
ร่างเล็กสูดลมหายใจเต็มปอด ก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไป โดยมีสิบทิศเดินตามมาติดๆ
“นี่มันห้องนอนหรือนิทรรศการชีวประวัติพี่ภาสวะเนี่ย” น้ำเสียงประหลาดใจของผู้มาเยือนไม่ได้ผิดไปจากที่ตรีภพคิด สิบทิศเบิกตากว้าง หันซ้ายมองขวาไปรอบ ๆ ด้วยความตกตะลึงทันทีที่แสงภายในห้องสว่างขึ้น
“…”
“กูรู้นะว่ามึงชอบพี่ภาสมาก แต่กูไม่คิดว่ามึงจะคลั่งรักพี่เขาขนาดนี้”
“นายอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะ” ตรีภพเอ่ยขึ้นอย่างขอร้อง เขย่าแขนร่างโตเบา ๆ พลางส่งสายตาอ้อนวอนขอความเห็นใจ
ถึงแม้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสิบทิศจะดีขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน มากพอที่ทำให้ตรีภพไว้ใจสิบทิศได้ในระดับหนึ่ง ทว่าตรีภพก็ยังกังวลจนต้องย้ำเตือนเขาอีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้สิบทิศพลั้งปากพูดความลับออกไป
“อืม” สิบทิศตอบรับอย่างว่าง่าย สายตายังคงมองภาพที่ปรากฎอย่างสนอกสนใจ
“ขอร้องล่ะ อย่าบอกใครนะ” ง่ายเกินไปจนตรีภพไม่ไว้ใจ
“เออ”
“นะสิบทิศ อย่าบอกใครนะ”
“รู้แล้วนา ย้ำอยู่ได้ กูจะบอกคนอื่นก็เพราะมึงยังไม่หยุดพูดนี่แหละ”
ตรีภพสะดุ้งตัว เอามือปิดปากตัวเองแน่นเมื่อเผลอทำตัวงี่เง่าให้สิบทิศอารมณ์เสีย ยืนนิ่งมองร่างโตลากเก้าอี้ในห้องมานั่ง เขาไขว้ห้าง เท้าแขนมองตรีภพอย่างจับผิด
“เป็นไง…อ่านหนังสือกับพี่ภาส?”
“ก็…ดี” ตรีภพตอบอย่างไม่มั่นใจ มองสิบทิศอย่างไม่วางตาด้วยความสงสัยว่าเขากำลังคิดอะไร
“ดีกว่าอ่านหนังสือกับกูสินะ”
“มากเลย...เอ้ย...ไม่ใช่ ๆ เราหมายถึงเข้าใจเนื้อหาขึ้นเยอะเลย พี่ภาสสอนดีมาก”
“หึ” มีเพียงเสียงทุ้มในลำคอตอบกลับมา ก่อนสายตาของร่างสูงจะเบนไปทางอื่น
อาการแสดงที่ปรากฎขึ้นสร้างความกังวลให้กับตรีภพอยู่ไม่น้อย จนต้องเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ
“โกรธเราหรือเปล่าที่ทิ้งให้นายอ่านหนังสือคนเดียว?”
“สนกูด้วยเหรอ?” นัยน์ตาคมหันกลับมามองหน้าตรีภพอีกครั้ง
“อื้ม นายอุตส่าห์ให้เราติดรถไปด้วย แต่…เรากลับทิ้งนายให้อยู่คนเดียว” ร่างเล็กก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด
“กูไม่สนใจเรื่องไร้สาระพวกนี้หรอก ไม่ต้องคิดมาก” สิบทิศลุกขึ้น ยื่นมือมาตบไหล่ตรีภพเบา ๆ
“แน่นะ?”
“เออ”
ตรีภพคลี่ยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ นึกว่าเขาจะทำให้เพื่อนที่มีอยู่น้อยนิดของตัวเองโกรธซะแล้ว
“รูมเมตกูมาล่ะ ไปก่อนนะ” สิบทิศเอ่ยคำร่ำลา เดินตรงไปยังประตูห้อง
“อื้ม ขอบใจนายมากนะ” ขอบคุณที่ไม่โกรธ
สิบทิศยกมือขึ้น โบกไปมาเล็กน้อยแสดงท่าทางว่าไม่เป็นไรก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องไป เหลือเพียงตรีภพยังยิ้มด้วยความสบายใจ อย่างน้อยสิบทิศก็ไม่ถือสาที่เขาเห็นพี่ภาสสำคัญกว่า
แต่เดี๋ยวก่อน! ตรีภพฉุดคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงรีบเดินตามออกไปนอกห้อง ทว่าก็ไม่เห็นสิบทิศยืนอยู่ข้างนอกแล้ว
สิบทิศรู้ได้อย่างไรว่ารูมเมตของตัวเองกลับมาแล้วทั้งที่นั่งอยู่ในห้องกับตรีภพ
หรือว่าเขามีพลังวิเศษ?