งานเลี้ยงจบลง ตรีภพกลับหอพักด้วยความสุขอันล้นปรี่ เพราะนอกจากจะได้กินอาหารมื้อค่ำและแนบชิดอิงอกกับคนที่ตัวเองชอบแล้ว ภาสกรยังทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถมาเขาส่งถึงหน้าหอพัก แต่น่าเสียดายที่บนรถมีเพื่อนของพี่เขาติดสอยขอกลับด้วย ไม่เช่นนั้นตรีภพคงมีเวลาได้อยู่กับภาสกรสองต่อสองมากกว่านี้
ไม่เป็นไร เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาหลับฝันดีตลอดทั้งคืน
ตรีภพเดินยิ้มร่าขึ้นหอจนมาถึงหน้าห้องพักของตัวเอง ขณะกำลังจะไขกุญแจปลายตาก็เหลือบเห็นประตูห้องข้าง ๆ ทำให้นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ของเทค” เขาพูดกับตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าขนมที่พี่เทคเคยซื้อให้ถูกเพื่อนข้างห้องอย่างสิบทิศแย่งไป
ตรีภพเริ่มครุ่นคิดอย่างหนักที่หน้าห้องของตัวเอง เดิมทีเขาไม่ได้ต้องการอยากได้กลับคืนมาแล้ว เพราะคิดว่าเป็นแค่ขนมที่รุ่นพี่ทั่วไปซื้อให้ แต่ความจริงของพวกนั้นคือของที่พี่ภาสตั้งใจซื้อให้เขาเชียวนะ ของสำคัญแบบนั้นจะปล่อยให้ไปอยู่ในมือของคนอื่นได้อย่างไร
ไม่ว่ายังไงเขาต้องเอากลับคืนมาให้ได้
ทว่าปัญหาอยู่ที่เจ้าของห้องที่อยู่ข้าง ๆ เขาคือสิบทิศคนเจ้าเล่ห์ที่แสนน่ากลัวเชียวนะ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ตรีภพจะได้ของรักกลับคืนมา
ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นานในที่สุดตรีภพก็ย้ายตัวเองมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของสิบทิศ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อรวบรวมความมั่นใจ ก่อนจะใช้ความกล้าที่มีทั้งหมดในชีวิตยื่นมือออกไปเคาะประตูห้องเรียกคนที่อยู่ในนั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“…” ใช้เวลายืนรออยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไร้เสียงตอบรับใด ๆ จากด้านในห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
ตรีภพพยายามอีกครั้ง กระสับกระส่ายไปมาด้วยความลุ้นระทึก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ มีเพียงเสียงลมหายใจของตรีภพที่ผ่อนออกมาด้วยความผิดหวัง
เขาใช้ความกล้าที่มีอยู่อย่างน้อยนิดเพื่อพบว่าสิบทิศไม่อยู่ที่ห้องอย่างงั้นเหรอ
ตรีภพหมุนตัวเพื่อเดินกลับห้องอย่างถอดใจ แต่มีอันต้องสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเอ่ยทักดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“มาหากูเหรอ?” เสียงนั้นเย็นยะเยือก จนความกล้าในตัวของตรีภพแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง และถูกแทนที่ด้วยความกลัวที่ไหลวนกลับเข้ามาในจิตใจ
“เออะ เออ…” ตรีภพหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือสิบทิศคนที่ตรีภพกำลังตามหาอยู่นั่นเอง
“จะยืนอ้ำอึ้งอีกนานมั้ย?”
“…”
“ถ้าไม่ตอบก็หลีกไป กูจะเข้าห้อง” มือหนาดันตรีภพจนขยับตัวออกไปด้านข้าง หยิบกุญแจห้องขึ้นมาไขกลอนประตูโดยไม่สนใจ
โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้วจะปล่อยไปได้อย่างไร ตรีภพสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด รวบรวมความกล้าอีกครั้งเพื่อพูดในสิ่งที่ต้องการ
“เออ คือ…” เสียงของตรีภพทำให้สิบทิศหยุดการเคลื่อนไหว “เราจะมาขอของเทคคืน”
ถึงแม้สิบทิศจะน่ากลัวขนาดไหน แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องเอาของที่พี่ภาสให้กลับคืนมาให้ได้
“หึม?” เสียงทุ้มในลำคอเต็มไปด้วยความสงสัย ร่างสูงขมวดคิ้วขดเป็นปมจ้องมองมาทางตรีภพ “มึงพูดว่าไงนะ?”
“ระ เราจะมาขอของเทคที่พี่เราให้คืน”
“กูกินหมดแล้ว”
“ว่าไงนะ?” ร่างเล็กเบิกตาโต อ้าปากค้างเมื่อได้รับคำตอบที่ไม่คาดฝัน
“กูกินหมดแล้ว”
“นายทำแบบนี้ได้ไงอะ”
“ทำไมจะไม่ได้ มึงไม่ยอมเอากลับเอง”
“นาย…” ตรีภพขบเม้มริมฝีปากแน่น เรียวนิ้วกำเป็นหมัดด้วยความโกรธจนตัวสั่น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการยืนอยู่อย่างนั้น จ้องมองคนใจร้ายที่แย่งของสำคัญไปตาเขม็ง
“โกรธกูเหรอ?” มุมปากของคนพูดกระตุกขึ้นอย่างเย้ยหยัน
“…”
“ขนมแค่นี้ แบ่งให้กูกินหน่อยไม่ได้หรือไง”
“ไม่ได้!” เสียงนั้นติดสั่น น้ำใส ๆ เอ่อล้นออกมาเต็มหน่วยตาอย่างสุดจะอดกลั้น ยิ่งเห็นสีหน้าไร้ความสำนึกผิดของสิบทิศก็ยิ่งทำให้ตรีภพไม่อาจจะซ่อนเร้นความรู้สึก
“เฮ้ย! แค่นี้ต้องร้องเลยเหรอวะ” สิบทิศเบิกตากว้าง ตกใจกับอาการของตรีภพอยู่ไม่น้อย
“แค่นี้เหรอ นายรู้มั้ยว่ามันสำคัญกับเรามากขนาดไหน”
เป็นครั้งแรกที่ตรีภพกล้าระเบิดอารมณ์ออกมาต่อหน้าสิบทิศ หากของที่เขาเอาไปไม่ใช่ของที่ภาสกรให้ คงไม่มีทางได้เห็นความเกรี้ยวกราดจากคนอ่อนแออย่างตรีภพหรอก
“มึงโกรธจริง ๆ เหรอเนี่ย”
“…” เสียงหัวเราะขบขันท้ายประโยคทำให้ตรีภพแทบคลุ้มคลั่ง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิบทิศจะเป็นคนร้ายกาจถึงเพียงนี้ เห็นเขาร้องไห้เสียใจอยู่แท้ ๆ แต่กลับหัวเราะเยาะใส่
จิตใจของเขาทำด้วยอะไรกัน
“มึงรอตรงนี้ เดี๋ยวกูมา” ร่างสูงพูดพลางใช้กุญแจไขประตูห้อง หายเข้าไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกมาพร้อมของบางอย่างเต็มสองมือ
“ขนมของเรา” ตรีภพเบิกตากว้าง ปาดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มเมื่อเห็นสิ่งที่สิบทิศถือคือถุงขนมที่ภาสกรให้ ทุกอย่างยังครบเหมือนเดิมไม่ได้ถูกกินไปอย่างที่สิบทิศพูดแม้แต่น้อย
“อืม”
“นายยังไม่ได้กิน”
“เออ กูแกล้ง” สิบทิศยักไหล่ ยื่นถุงขนมคืนแก่เจ้าของ “เอาไปสิ”
ตรีภพยิ้มแก้มปริ รีบยื่นมือไปรับมากอดไว้แนบอกราวกับเป็นของรักของหวงที่พลัดพรากจากกันมานาน
“ขอบคุณนะ”
“ทำไมมึงถึงอยากได้ขนมพวกนี้คืน?”
“เออะ เออ…” ตรีภพหุบยิ้ม อ้ำอึ้งเมื่อเห็นสิบทิศเอียงคอมองอย่างรอฟังคำตอบ
“ใครให้มึง?”
“พะ พะ พี่เทคของเราไง”
“ใคร?”
“พี่เทค”
“ชื่ออะไร?”
“เออ...”
“ชื่ออะไร?”
“พะ พี่ภาส” สายตาคาดคั้นพร้อมน้ำเสียงดุดันทำให้ตรีภพเอ่ยปากบอกออกไปด้วยความเกรงกลัว
“มึงชอบพี่ภาสว่างั้น?”
“นายรู้ได้ไง” มือบางยกขึ้นปิดปากตัวเอง เมื่อเห็นมุมปากของคนตรงหน้าเผยอยกขึ้นอย่างพึงพอใจในคำตอบ
แย่แล้วไงตรีภพ ดันเผลอหลุดปากพูดออกไปอย่างร้อนตัวทั้งที่สิบทิศยังไม่ได้พูดอะไรซะหน่อย
“นายอย่าบอกใครนะ เราขอร้อง” ตรีภพโผเข้าไปเกาะแขนแกร่ง เขย่าเบา ๆ เชิงขอร้อง คนเจ้าเล่ห์อย่างสิบทิศรู้ความลับของเขาแล้ว มีหวังต้องเอาเรื่องนี้ไปเปล่าประกาศให้คนอื่นรู้แน่ ๆ
“ได้ของคืนแล้วก็กลับห้องไปซะ”
“นาย…”
“กูไม่บอกใครหรอก…ว่ามึงชอบพี่ภาส” ร่างสูงหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง ก่อนที่บานประตูจะเคลื่อนมากั้นขวางทั้งสองเป็นอันจบบทสนทนา
“เฮ้อ...” ตรีภพถอนหายใจออกมาอย่างจำยอม เขกหัวตัวเองแรง ๆ ไปทีหนึ่งให้กับความโง่เขลา เขาคงทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากทำใจยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ไม่บอก? จะเชื่อคนอย่างสิบทิศได้อย่างไร แค่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฎเพียงแวบนึงก่อนเขากลับเข้าไปในห้องก็รู้แล้วว่าไม่มีทางเชื่อได้ แล้วตรีภพควรทำอย่างไรดี หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเขาจะสู้หน้าภาสกรได้อย่างไร