Owen
x
Yuro
+++++++++++++++++
Part 1.2
Yuro Part.
“ไอ้ยู
!
หยุดก่อน นี่มึงจะไปไหน?” เสียงเข้มของไอ้โอเว่นดังขึ้นจากข้างหลังก่อนที่ร่างสูงๆของมันจะวิ่งมาตัดหน้าผมเอาไว้ซะก่อน
“กะ กู
..
” ผมอ้ำอึ้งและรีบยกมือขึ้นมาเช็คคาบน้ำตาที่ใบหน้าอย่างรวดเร็ว
“มึงเป็นไรรึเปล่า? ทำไมสีหน้ามึงดูไม่ดีเลย แล้วเมื่อกี้มึงเดินหนีออกมาทำไม?” ไอ้โอเว่นยิงคำถามใส่ผมไม่ยั้ง
“กูไม่ได้เป็นอะไร” ผมว่ายิ้มๆ พยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติสุดๆ แม้ว่าในใจจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
“กูรู้ว่ามึงเป็น สีหน้ามึงไม่สดใสเอาซะเลย ถ้ามึงมีเรื่องไม่สบายใจอะไรบอกกูได้นะ” สีหน้าและน้ำเสียงของไอ้โอเว่นมันดูเป็นห่วงผมออกมาจากใจจริง แต่ความห่วงใยที่มันมีให้ผมก็แค่เพื่อเท่านั้นแหละ ผมรู้ดี
“ถ้ากูบอก มึงจะ
…
” ผมจ้องไปที่ดวงตาคมที่กำลังจ้องมองมาที่ผมเหมือนกัน
“จะอะไร?” ไอ้โอเว่นขมวดคิ้วเป็นปม ทำสีหน้าอยากรู้สุดๆ ส่วนผมก็พยายามยับยั้งความคิดบ้าๆของตัวเอง ถ้าผมตัดสินใจบอกความรู้สึกที่มีต่อมันวันนี้ผมอาจจะเสียเพื่อนอย่างมันไปก็ได้ สุดท้ายผมก็ไม่กล้าบอกอยู่ดี
“ไม่มีอะไรหรอก” ผมบอกพร้อมกับคลี่ยิ้มหวาน เพื่อแสดงให้มันเห็นว่าผมไม่เป็นอะไร แม้ในใจลึกๆมันกำลังจะร้องไห้อยู่ก็ตาม
“กูไม่เชื่อ
!
กูเพื่อนมึงทำไมจะดูไม่ออกว่ามึงกำลังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ แต่เอาเป็นว่าถ้ามึงไม่อยากบอกกูก็ไม่เป็นไร เอาไว้มึงอยากบอกแล้วค่อยบอกก็ได้”
“อื้ม
!
” ผมพยักหน้าพร้อมกับยิ้มน้อยๆให้ไอ้โอเว่น ส่วนมันก็ยิ้มตอบผมเช่นกัน ความสัมพันธ์แบบเพื่อนของเรากำลังไปได้ด้วยดี ผมไม่อยากให้ความรู้สึกที่เกินเลยมาทำลายความเป็นเพื่อนของเราสองคน ผมจึงตัดสินใจ
เก็บความรู้สึกที่มีอยู่เต็มอกให้อยู่แค่ในใจก็พอ แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะทำให้ผมอึดอัดใจจนแทบอยากจะบ้าตายก็ตามแต่ผมจะต้องอดทนอยู่กับความรู้สึกนี้ไปให้ได้ ผมเชื่อว่าสักวันผมจะต้องชินไปเอง
…
“แล้วนี่มึงอยากจะไปไหนต่อมั้ยว่ะ?” ไอ้โอเว่นเอ๋ยถามขึ้น
“กูอยากกลับห้องแล้วอ่ะ”
“งั้นกูไปส่ง”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวกูกลับแท็กซี่เองได้”
“เฮ้ยย
!
เดี๋ยวกูไปส่ง” ไอ้โอเว่นยังคงดึงดันที่จะไปส่งผมให้ได้
“ไม่ต้องไง เดี๋ยวกูกลับแท็กซี่”
“แต่
…
”
“ไม่มีแต่ กูบอกว่าจะกลับแท็กซี่ก็คือกลับแท็กซี่”
“แต่
…
”
“ก็บอกว่าไม่มีแต่ไง กูขี้เกียจยืนเถียงกับมึงแล้ว กูขอตัวกลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เจอกันที่มหาลัยก็แล้วกันนะ บายยย” ว่าแล้วผมก็ยกมือขึ้นบายบ๊ายใส่ไอ้โอเว่นก่อนจะเดินสวนมันไปตามทางของผม
เมื่อเดินพ้นจากไอ้โอเว่นมาแล้วผมก็แทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ในเมื่อผมเลือกที่จะเป็นเพื่อนมันต่อไป ผมก็ต้องทนกับความรู้สึกอึดอัดที่อยู่ในใจนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะกี่วัน กี่เดือน กี่ปี หรือตลอดชีวิต ผมก็ต้องทนให้ได้
Owen Part.
ความในใจของโอเว่น
เห้ออออ
!
ผมเป็นอะไรของผมเนี่ย ไอ้ยูโรมันบอกไม่ให้ผมไปส่งมันที่หอ แต่ผมก็ยังแอบขับรถตามแท็กซี่คันที่มันขึ้นจนได้ ก็จะไม่ให้ขับตามมาได้ไง ก็ผมเป็นห่วงมันอ่ะ เป็นห่วงมากๆด้วย อีกอย่างนี่ก็เริ่มดึกแล้ว ถ้าเกิดไอ้แท็กซี่ขืนกามจับมันข่มขืนขึ้นมาจะทำยังไง ไอ้ยูมันยิ่งน่าฟัดอยู่ด้วย
ผมขับรถตามมันมาจนถึงหอ เมื่อเห็นว่ามันขึ้นห้องไปเรียบร้อยแล้วผมก็สบายใจ ว่าจะเลี้ยวรถกลับบ้านของตัวเองบ้างแต่พอเหลือบไปเห็นสิ่งของที่ผมตั้งใจจะซื้อให้มันวางอยู่ตรงเบาะรถข้างๆผมจึงได้หยุดรถแล้วหยิบสิ่งของนั้นก่อนจะวิ่งขึ้นไปยังห้องของไอ้ยูโรที่อยู่ชั้นสาม
สิ่งของที่ผมตั้งใจซื้อให้มันก็เป็นพวกเสื้อผ้าแล้วก็น้ำหอม
…
ไอ้ยูโรมันไม่รู้หรอกว่าผมแอบซื้อเสื้อผ้าให้มัน เพราะถ้ามันรู้มันต้องไม่รับไว้แน่ๆ เพราะมันเป็นคนที่ขี้เกรงใจอย่างกับอะไรดี ขนาดผมว่าจะซื้อน้ำหอมให้มัน มันยังไม่รับไว้เลย อีกอย่างวันนี้ที่ผมชวนไอ้ยูโรไปห้างแล้วบอกว่าจะไปเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้น้องสาวนั่นผมโกหกทั้งเพ น้องสาวผมน่ะมีจริงๆชื่อยัย ออวี่ แต่เรื่องซื้อของขวัญวันเกิดนี่ผมโกหก ความจริงผมอยากจะไปเดินช็อปปิ้งกับไอ้ยูโรสองต่อสองต่างหาก แล้วมีไปดูหนังกันด้วย โรแมนติกจะตายเหมือนเดตกันเลยอ่ะ
-/////-
ผมห้อยถุงสิ่งของที่ผมซื้อให้มันไว้ที่ลูกบิดประตูหน้าห้อง เพราะถ้าผมให้มันกับมือมันคงไม่รับเอาไว้แน่ๆ ที่ผมซื้อเสื้อผ้าให้มันก็เพราะผมเห็นว่ามันใส่แต่เสื้อผ้าตัวเก่าๆอยากจะให้มันมีตัวใหม่ๆใส่บ้าง ไอ้ยูโรมันก็ไม่ได้จนอะไรหรอกนะแต่มันเป็นคนประหยัด เลยไม่ค่อยได้ซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ๆใส่เหมือนกับคนอื่น ส่วนน้ำหอมผมก็เห็นว่าขวดที่มันใช้อยู่กำลังจะหมดพอดีเลยกะว่าจะซื้อให้ใหม่
“ฝันดีนะไอ้ยู” ผมบอกกับมันเสียงแผ่วเบาผ่านประตูไปก่อนที่จะเดินกลับไปยังรถของตัวเองที่จอดเอาไว้
มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมยอมรับแมนๆอย่างลูกผู้ชายเลยก็ได้ว่าผมรักไอ้ยู ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมรักมันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มารู้ตัวอีกทีผมก็รักมันจนถอนตัวไม่ขึ้นซะแล้ว แต่ไอ้ยูมันคงไม่รู้หรอกว่าเพื่อนคนนี้กำลังแอบรักมันอยู่ เพราะถ้ารู้ผมกับมันอาจจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้วก็ได้ ผมเคยได้ยินเรื่องของคนที่แอบรักเพื่อนมาก็เยอะ พอมาเจอกับตัวการรักเพื่อนสนิทนี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะถ้าเราบอกความรู้สึกของเราไปแล้วเขาไม่คิดตรงกันกับเรา เราอาจจะเสียเพื่อนไปก็ได้ ผมเลยไม่กล้าเสี่ยงที่จะสารภาพรักกับมัน เพราะผมกลัวว่าผมจะเสียมันไป
ย้อนไปเมื่อวันก่อนผมออกไปเที่ยวผับกับเพื่อนๆกลุ่มที่เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม แน่นอนว่ามันจะต้องมีสุราแล้วก็ผู้หญิง ผมก็มีนัวเนียกับผู้หญิงบ้างตามประสา แต่ผมก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับพวกเธอหรอกแล้วก็ไม่มีอะไรเกินเลยนอกจากจูบแล้วก็ซุกไซร้ซอกคอเท่านั้น เพราะตั้งแต่ที่ผมรู้ว่าตัวเองกำลังรักไอ้ยูผมก็ไม่เคยมีอะไรลึกซึ้งกับผู้หญิงอีกเลย ระหว่างนั่งกินเหล้าผมก็เอาแต่คิดถึงใบหน้าของไอ้ยูตลอดเวลาจนผมต้องไปหามันกลางดึก ผมรู้ว่าไอ้ยูมันยังไม่นอนเพราะว่ากว่ามันจะกลับมาจากร้านอาหารที่มันทำงานก็ประมาณเที่ยงคืน และกว่ามันจะมาอาบน้ำทำการบ้าน เวลานอนของมันก็อยู่ที่ประมาณตีสองกว่าๆ บางทีผมก็อดเป็นห่วงสุขภาพมันไม่ได้ เพราะมันต้องนอนดึกทุกวันแถมยังต้องตื่นเช้าไปเรียนหนังสืออีก ผมเคยบอกให้มันเลิกทำงานแต่มันก็สวนกลับผมมาว่าถ้าไม่ทำงานแล้วจะเอาอะไรอยู่อะไรกิน คือมันพูดเหมือนมันเป็นคนยากจนข้นแค้น ทั้งที่ครอบครัวของมันก็ไม่ได้จนอะไรขนาดนั้น เฮ้อออ
!
ผมล่ะยอมใจกับมันจริงๆ ในเมื่อการทำงานคือความสุขของมันผมก็คงจะห้ามไม่ได้ ถ้ามันเหนื่อยมันคงจะเลิกทำเองแหละ
ผมไม่รู้ว่าผมหลงรักไอ้ยูได้ยังไง ทั้งๆที่ผมก็ไม่มีรสนิยมชอบผู้ชายเลย ฮ่าๆ อาจจะเป็นเพราะผมหลงรักความน่ารัก ความเป็นตัวเองของมันก็ได้ ก็อย่างว่าล่ะเรื่องของความรักมันห้ามกันได้ซะที่ไหน ไม่ว่าจะรักเพศไหน รักก็คือรัก
แต่ดันมาหลงรักเพื่อนสนิทตัวเองนี่สิ
!
ผมไม่รู้ว่าผมจะเอายังไงต่อไปกับเรื่องของความรู้สึกที่มันเกินเลยจากคำว่าเพื่อนนี้ แต่ตอนนี้ผมขอแค่ได้อยู่ข้างมัน คอยดูแลมันอย่างนี้ต่อไปก็พอใจแล้ว
ทั้งหมดนี่คือความในใจที่ออกมาจากใจของผมครับ
…
TBC...
มาเอาใจช่วยว่าความรักของโอเว่นกับยูโรจะเป็นยังไงต่อ
จะเป็นแค่เพื่อนกันต่อไปหรือจะพัฒนาไปมากกว่านั้น
1 เม้น 1 กำลังใจนะคะ
ช่วยเม้นเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่เยอะๆน๊าาาา