พลอยใสลืมตาตื่นมาอย่างงง ๆ เมื่อภาพเพดานห้องที่ปรากฏแก่สายตาไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย เธอตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนลุกพรวดเมื่อจำเรื่องราวทั้งหมดได้ จากนั้นก็หันไปมองคนที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ ก่อนหันกลับมามองตนเอง ยกผ้าห่มขึ้นแล้วก้มมองใต้ผ้า ซึ่งก็เห็นเนื้อตัวเปลือยเปล่าของตนอย่างที่คาด ยิ่งตอกย้ำให้เธอรู้ว่าเรื่องราวในความทรงจำเป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน
เมื่อคืน...เธอเสียซิงให้คนหล่อที่เธอไม่รู้จักจริง ๆ!
“ซวยแล้วววว พลอยใส” พลอยใสพึมพำกับตนเอง ก่อนค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง กวาดตามองหาเสื้อผ้าที่หล่นเกลื่อนบนพื้นในห้องแล้วเดินไปหยิบมาสวมอย่างรวดเร็ว ทำเวลา ก่อนที่คนที่หลับอยู่บนเตียงจะตื่นขึ้นมา เธอต้องรีบหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
หลังแต่งตัวเรียบร้อยพลอยใสก็เดินเข้าไปสำรวจหน้าตาตัวเองในห้องน้ำ เห็นว่ายังพอดูได้ จึงกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง มองไปรอบ ๆห้องเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ลืมอะไรไว้ ก่อนที่จะหันมองคนบนเตียงเป็นครั้งสุดท้าย เขายังหลับสนิท และแม้จะนอนหลับ เขาก็ยังหล่อออร่าแบบที่เธอจำได้ดี
แต่หล่อแค่ไหนแกก็ไม่ควรนอนกับเขาง่าย ๆ ปะวะ! พลอยใสด่าตนเองในใจ
เมื่อแน่ใจว่าไม่ทิ้งอะไรไว้ในห้องแล้ว พลอยใสจึงเดินไปเปิดประตูแล้วก้าวออกไป พบว่าหน้าห้องเป็นโถงทางเดินที่มีประตูห้องแบบห้องที่เธอเพิ่งเดินออกมาอีกสี่ห้องซึ่งทุกห้องปิดสนิท และโถงทางเดินก็ร้างไร้ผู้คน พลอยใสไม่แน่ใจว่าต้องเดินไปทางไหน จึงลองเดินไปทางซ้ายดู เพื่อที่จะพบว่าสุดทางเดินเป็นผนังที่ไม่สามารถเดินต่อได้ จึงเดินกลับมาทางเดิม และเมื่อเดินผ่านห้องที่เธอเพิ่งออกมาไปอีกเล็กน้อย ก็มองเห็นบันไดที่ทอดลงสู่ชั้นล่าง จึงเดินลงบันไดไป
ที่ขั้นสุดท้ายของบันไดมีประตูที่เป็นกรงเหล็ก พลอยใสลองผลักดูก็พบว่าประตูล็อกอยู่ แต่เห็นปุ่มสีเขียวกลม ๆ อยู่ข้างผนังจึงลองกดดู ก่อนได้ยินเสียงประตูปลดล็อก และเมื่อผลักออกไปก็เปิดได้อย่างง่ายดาย จึงรีบก้าวออกไปแล้วปิดประตูตามหลัง เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นแผงควบคุมที่ติดอยู่บนกรงเหล็ก เมื่อลองดึงประตูก็พบว่าล็อกเรียบร้อยแล้ว เธอเดาว่าคนที่จะเปิดประตูได้คงต้องมีรหัส ซึ่งตอนนี้เธอไม่มี แต่ก็ไม่ได้คิดจะเปิด และรีบเดินกลับไปยังรถยนต์ของตนเองที่จอดอยู่ริมถนนไม่ห่างจากที่นี่นัก
หลังรถเธอมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่สองใบที่ขนเสื้อผ้ามาจากกรุงเทพฯ เมื่อวานตั้งใจว่าจะกลับบ้านเย็น ๆ หลังจากเซอร์ไพรส์ใครบางคนแล้ว แต่กลับเป็นเธอที่ถูกเซอร์ไพรส์เสียเอง เลยยังไม่กลับบ้านและไปนั่งดื่มเพียงลำพัง ทำให้จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ถึงบ้าน เธอไม่ได้บอกพ่อแม่ไว้ว่าจะกลับบ้านเพราะต้องการเซอร์ไพรส์พวกท่านเช่นกัน พลอยใสก้มลงมองสภาพตนเองแล้วส่ายหน้า หากกลับบ้านในสภาพนี้และเวลานี้คงไม่ดีแน่เพราะพ่อแม่น่าจะยังไม่ออกไปทำงาน จึงตัดสินใจหาโรงแรมนอนพักผ่อน เย็น ๆ ค่อยอาบน้ำแต่งตัวให้ดูเป็นผู้เป็นคนกว่านี้แล้วค่อยเข้าบ้าน
พลอยใสเลือกพักโรงแรมสร้างใหม่แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากร้านที่เธอนอนค้างเมื่อคืนนัก ขับรถไม่กี่นาทีก็ถึง โทร. จัดการจองโรงแรมในแอปพลิเคชันไปก่อนแล้ว เมื่อขับรถไปถึงจึงหิ้วกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งจากหลังรถเข้าไปเช็กอิน เมื่อเข้าไปในห้องก็ล้มตัวลงแผ่บนเตียง พลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา เห็นว่ายังเช้าอยู่และกุ๋งกิ๋งเพื่อนที่อาศัยอยู่คอนโดมิเนียมที่กรุงเทพฯ ด้วยกันน่าจะยังไม่ออกไปทำงาน จึงกดโทรศัพท์หา ฟังเสียงรอสายอยู่ครู่เดียว คนที่เธอโทร. หาก็ทักทายมาด้วยน้ำเสียงมีชีวิตชีวา
“ไงคะแก นอนบ้านคืนแรก”
“แก ฉันไม่ได้กลับบ้าน” พลอยใสเอ่ยเสียงอ่อย
“หือ?”
“แกทำไรอยู่”
“แต่งหน้า นี่เปิดลำโพง”
“เหรอ”
“แกเป็นไรอะ เสียงแปลก ๆ มีอะไรหรือเปล่า” กุ๋งกิ๋งถาม น้ำเสียงเจือความห่วงใย
“ฉัน...มีเรื่องจะสารภาพ”
“มีอะไร”
“เมื่อคืน...ฉัน...เสียซิงอะ”พลอยใสเอ่ยเสียงเบา
“ฮะ!” ในขณะที่กุ๋งกิ๋งตอบกลับมาเสียงดังลั่น “แกเสียซิง นังไสย ๆ แกจะรีบไปไหน แค่ที่กลับไปอยู่บ้านฉันก็ว่าแกตัดสินใจเร็วไปแล้วนะ นี่แกไปคืนแรกก็ฟีตกันเลยเหรอ”
“ไม่ใช่”
“ไม่ใช่อะไร”
“ไม่ใช่กับเต”
“ฮะ! แล้วแกไปนอนกับใคร”
“ไม่ได้รู้จักอะ เจอกันที่ร้านเหล้าเมื่อคืน”
“ไสย ๆ! แกวันไนต์เหรอ”
“อือ”
“เดี๋ยวนะ ฉันงงมาก ไหนแกเล่ามาให้มันละเอียด ๆ ซิ”
“ก็ถ้าแกไม่เอาแต่ฮะ ฮะ แล้วปล่อยให้ฉันเล่าก็คงรู้เรื่องไปนานแล้วไหม”
“เออ เล่ามา สรุปยังไง แกจะบอกฉันว่า แกลาออกจากงานเพื่อกลับไปอยู่บ้านเพราะแฟนขอร้อง แล้วคืนแรกที่กลับบ้าน แกก็ไปวันไนต์กับคนอื่นงี้เหรอ”
“อือ ทำนองนั้นแหละ”
“โอ๊ย อีบ้า แล้วยังไงเนี่ย แบบนี้แกจะบอกแฟนแกยังไง”
“ไม่มีแฟนแล้ว ฉันเลิกกับเตแล้ว”
“ฮะ!”
“โอ๊ย แกจะฮะอีกนานไหมเนี่ย” พลอยใสว่าอย่างเริ่มรำคาญ ที่ไม่ว่าเธอจะบอกอะไรไป กุ๋งกิ๋งก็เอาแต่ฮะ ๆ อยู่นั่น
“เออ เล่ามา รอฟัง”
“แกจะไปทำงานสายหรือเปล่า” เธอถามอย่างเป็นห่วงเพื่อน ไม่อยากให้ไปทำงานสายเพราะเธอ
“ไม่สาย นี่กำลังจะออกแล้ว เสียบหูฟังอยู่ เล่ามาเลย แต่ถ้าเข้าลิฟต์แล้วสายตัดก็โทร. กลับมานะ”
“เอาเรื่องไหนก่อนดี” พลอยใสถาม ไม่รู้ว่าควรเล่าเรื่องไหนก่อน
“เอาเรื่องเลิกกับแฟนก่อนละกัน” กุ๋งกิ๋งตัดสินใจให้
“ก็ฉันไปสัมภาษณ์งาน จริง ๆ ก็ไม่ใช่สัมภาษณ์หรอก เจ้มีนกับท่านประธานฝากให้ แค่เข้าไปคุยกับฝ่ายบุคคลเพื่อตกลงวันเริ่มงานกับเรื่องเอกสารเฉย ๆ เสร็จบ่าย ๆ ก็ไปเซอร์ไพรส์เต ฉันไม่ได้บอกไว้ว่าจะมาเมื่อวาน แต่ไปเจอเขาอยู่กับ...แฟนเก่า หรืออาจจะไม่เก่าแล้วก็ได้” เล่าอีกก็เจ็บอีกแฮะ
“แฟนเก่ากลับมาว่างั้น?”
“ใช่มั้ง”
“แกเลยบอกเลิก?”
“ก็ไม่ได้บอกหรอก”
“อ้าว”
“ก็ท่าทางเขาแคร์แฟนเก่ามาก เหมือนเกรงใจ แล้วก็แบบตกใจที่ฉันไป เหมือนเขาไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าคบฉันอะ ฉันเลยกลับออกมา”
“แล้วไปกินเหล้า?”
“เปล่า แค่บ่ายไหมแก ร้านเหล้าที่ไหนจะเปิด ฉันเซ็ง ๆ ยังไม่อยากกลับบ้านเลยไปดูหนัง ดูตั้งสองเรื่องก็ยังไม่หายเซ็งก็เลยไปกินเหล้า กะว่าค้างโรงแรมในเมืองสักคืน บ่าย ๆ ค่อยเข้าบ้าน”
“กินเหล้า เมา แล้วก็แรดงี้”
“ก็เขาหล่ออะ” ตอบไปแล้วก็เดาได้ว่ากุ๋งกิ๋งต้องกำลังกลอกตาอยู่แน่นอน “แกก็รู้ว่าเวลาเจอคนหล่อตอนเมาฉันจะไม่มีสติ ไอ้ที่เคยแค่มโนก็อยากแซ่บจริง ๆ แล้วเขาเข้ามาคุยก่อนด้วย มันก็เลย...ตามนั้นแหละ”
“แกนี่น้า ไม่มีฉันวันเดียวแกทำเรื่องขนาดนี้เลยนะ” กุ๋งกิ๋งบ่นมาด้วยน้ำเสียงเหมือนแม่บ่นลูกสาวที่ไม่ได้เรื่อง “ว่าแต่ได้ป้องกันหรือเปล่า”
พลอยใสนึกถึงถุงยางอนามัยใช้แล้วหลายชิ้นในถังขยะที่เห็นตอนสำรวจในห้องว่าเธอไม่ลืมอะไรแล้วก็ตอบคำถามเพื่อนอย่างมั่นใจ
“ป้องกัน”
“เออ อย่างน้อยก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง” กุ๋งกิ๋งว่าพลางทำเสียงถอนหายใจ ราวกับต้องการเน้นย้ำว่าเจ้าตัวรู้สึกโล่งใจจริง ๆ ก่อนจะถาม “แล้วยังไงต่อ”
“ก็ไม่ยังไง ตื่นมาสร่างเมาแล้วฉันก็เผ่น ตอนนี้เปิดห้องนอน เย็น ๆ ค่อยเข้าบ้าน”
“แล้วเขาว่าไง”
“ไม่ได้ว่าไง ไม่ได้คุยกัน อีกอย่างมันก็วันไนต์ จะให้ว่ายังไงวะ เช้ามาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้วปะ”
“ก็ไม่รู้อะ เพชรบูรณ์มันไม่ได้กว้างปะ เผื่อวันไหนมาจ๊ะเอ๋กันอีกล่ะ”
“โลกคงไม่กลมขนาดนั้นหรอกมั้ง” ตอบเพื่อนไปอย่างนั้น ซึ่งความจริงเธอก็หวังอย่างนั้น หากเผอิญมาเจอกันอีกครั้งเธอคงทำหน้าไม่ถูก ในเมื่อทุกอย่างที่ทำไปเป็นเพราะความเมาล้วน ๆ หากมาเจอกันในตอนไม่เมา เธอก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรเหมือนกัน จึงได้แต่ภาวนาว่า อย่าให้เขากับเธอโคจรมาเจอกันอีกเลย
“แล้วเรื่องกลับไปอยู่บ้านแกจะเอายังไงต่อวะ แกกลับไปเพราะแฟนขอร้องไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เลิกกันแล้วก็ยกเลิกดีปะ กลับมาอยู่กับฉันเหมือนเดิม”
“ไม่ดีกว่าแก เจ้มีนกับท่านประธานอุตส่าห์ฝากงานให้ จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก็ไม่ดีปะ อีกอย่างกลับมาอยู่บ้านก็ดีเหมือนกันแหละ จะกลับตอนนี้หรือตอนไหน ยังไงสุดท้ายฉันก็ต้องกลับมาอยู่ดี”
“เออ ก็แล้วแต่แกเหอะ”
“โอ๋ ๆ อย่างอนน้า แกก็มาเยี่ยมฉันสิ เดี๋ยวพาเที่ยว”
“เออ ๆ จะหาเวลาไปหา งั้นแค่นี้ก่อนละกัน”
“เค ๆ ขับรถดี ๆ ล่ะ เดี๋ยวฉันอาบน้ำนอนก่อน บ๋ายบายนะจ๊ะเพื่อนรัก คิดถึงที่สุด”
หลังวางสายกับเพื่อนพลอยใสก็เข้าไปอาบน้ำ ตั้งใจว่าหาอะไรรองท้องแล้วนอนพักสักหน่อย ไว้ตื่นมาสมองโล่ง ๆ แล้วค่อยคิดเรื่องอื่นก็แล้วกัน