4
ตัดสินใจ
หลังจากถูกแดนีสบรรดาลโทสะใส่นางแบบสาวก็ขึ้นมาใช้บริการคลายเครียดที่ห้องสปา เธอได้มานวดตัวขัดตัวจนทำให้ผ่อนคลาย อแมนด้าก็พาร่างสะโอดสะองที่ห่อหุ้มด้วยชุดคลุมอาบน้ำสีขาวย่างกรายเข้ามาในสระว่ายน้ำ ก่อนจะถอดชุดคลุมออกเหลือเพียงชุดว่ายน้ำทูพีชสีแดงสด โชว์หุ่นสมบรูณ์แบบไร้ที่ติที่ถูกดูแลเป็นอย่างดี
หญิงสาวนั่งลงที่นั่งริมสระพลางหยิบครีมกันแดดออกมาทาผิวนวลเนียนสีน้ำผึ้งแล้วค่อยเอนกายลงนอน สวมแว่นกันแดดยี่ห้อดังชมวิวริมสระที่มีผู้คนขวักไขว่กำลังเล่นน้ำด้วยความสนุกสนาน แต่จู่ ๆ กลับมีร่างหนาเข้ามายืนบดบังวิวทิวทัศน์ริมสระของเธอทำให้หญิงสาวไม่สบอารมณ์ มือเรียวจึงถอดแว่นกันแดดสีขาวออกแล้วจ้องหน้าอย่างเอาเรื่องที่บังอาจมาทำให้เธออารมณ์เสีย
”ขอโทษที่รบกวนครับ คุณ.. ”
”ฉันอแมนด้า” นางแบบสาวตอบกลับด้วยท่าทีมั่นใจ แล้วบิดริมฝีปากด้วยท่าทางหยิ่งผยองตามนิสัยของเธอ
”ผมริชาร์ด จะรังเกียจไหมถ้าผมอยากรู้จักคุณ”
ชายหนุ่มนามว่าริชาร์ดพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมเอ่ยแนะนำตัว ก่อนจะยื่นนามบัตรของเขาให้นางแบบสาว แต่อแมนด้ากลับไม่รับและใช้มืออีกข้างที่ถือหมวกปีกกว้างอยู่ปัดมันทิ้งแล้วพูดขึ้น
“คุณคงไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร เหอะ เก็บนามบัตรกระจอก ๆ ของคุณไว้ให้นางแบบโนเนมเถอะ ฉันอแมนด้าเป็นผู้หญิงของแดนีส คาร์เกอร์ เจ้าของเรือที่คุณกำลังเหยียบอยู่” พูดจบหญิงสาวก็เดินจากไปทำให้ริชาร์ดที่ถูกปฏิเสธเสียหน้าและแค้นใจเป็นอย่างมาก มือหนาบีบเข้าหากันแน่นจ้องนางแบบสาวที่เดินจากไป
“หยิ่งชะมัด” ริชชี่พูดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่เดินจากไป ทั้งเธอและแพรวไพลินนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว พอได้เห็นฉากเด็ดเธอจึงหันมาพูดกับเพื่อนสาวที่นั่งเหม่อจิบน้ำส้มอยู่
”อย่าไปยุ่งเรื่องของเขาเลย” แพรวไพลินว่า
”ก็แหม.. มันบังเอิญได้ยิน เห้อ สวยซะเปล่า นิสัยแย่ที่สุด”
ริชชี่ที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกพูดขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะชวนแพรวไพลินขึ้นไปบนห้องเพราะอากาศเริ่มเย็นแล้ว ทั้งคู่ต่างกลับเข้าไปในห้องพักเพื่อเตรียมตัวลงมาทานมื้อค่ำที่ทางเรือจัดไว้ให้
หลังจากหลับไปนานหลายชั่วโมงดานีนก็รู้สึกดีขึ้น เธอจึงอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น และพอเปิดประตูออกมาจากห้องก็พบเข้ากับพี่ชายที่นอนเอนตัวอยู่ที่โซฟากลางห้อง
เสียงเปิดประตูทำให้พิรัชที่เพิ่งจะได้พักสายตาได้ไม่นานลืมตาขึ้นมาสบเข้ากับดวงตาของน้องสาวที่สดใสขึ้นเข้าพอดี ดานีนส่งยิ้มบาง ๆ ให้พี่ชายถึงแม้จะเป็นเพียงรอยยิ้มฝืน
"เป็นไงบ้างเราหลับไปนานเลย เมื่อกลางวันน้องตัวรุม ๆ เหมือนจะไม่สบาย" พิรัชพูดจบพอดีกับที่น้องสาวเดินมาถึงโซฟา มือหนาจึงเอื้อมมือไปวัดอุณหภูมิที่หน้าผากมนก็พบว่าปกติแล้ว
"นีนดีขึ้นแล้วค่ะ แล้วอาการคุณพ่อเป็นยังไงบ้าง.."
ครืนน ครื่นนน..
ยังไม่ทันที่พิรัชจะได้ตอบอะไรเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น และพบว่าเป็นมารดาที่โทรเข้ามา มือเรียวเอื้อมไปหยิบมาดู ก่อนจะตัดสินใจกดรับสายก่อนที่สายจะตัดไป
"ค่ะ คุณแม่" เธอพยายามยามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติแม้จะสั่นมากแค่ไหนก็ตาม เพราะไม่ยากให้มารดาเกิดความกังวลใจ
(ฮึก ฮือ คุณพ่อแย่แล้วลูก คุณหมอเจ้าของไข้บอกว่าภายในวันนี้เราต้องรีบผ่าตัด ฮือ..)
น้ำเสียงจากปลายสายทำให้ดานีนถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินเสียงร้องห่มร้องไห้ของมาดาที่ดังมาตามสาย ความเข้มแข็งที่เธอพยายามกลั้นเอาไว้พังครืนลงมา น้ำตาเม็ดโตไหลรินมาตามสาย ดานีนพยายามระงับเสียงสะอื้นที่มาจุกอยู่ที่ลำคอแล้วตอบกลับมารดา
"คุณพ่อต้องไม่เป็นอะไรค่ะ พะ พี่พีชกับนีนกำลังหาทางอยู่นะคะ"
(ฮือ แม่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว) คุณอิงอรร่ำไห้ปานจะขาดใจเพราะไร้หนทางที่จะช่วยเหลือสามีได้
"เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะคะคุณแม่ ยังไงคุณพ่อก็ต้องได้เข้าห้องผ่าตัดวันนี้ ฮึก ฮือ.." ดานีนว่าพร้อมสะอื้นให้
(ช่วยคุณพ่อด้วยลูก.. ช่วยพ่อด้วย)
"ฮึก.. นีนต้องวางแล้ว เดี๋ยวจะโทรหาใหม่นะคะ"
ดานีนเลือกที่จะกดวางสายมารดาก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง ทั้งคู่ต่างพยายามคิดหาทางช่วยเหลือบิดาแต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีทางไหนที่จะทำได้จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เธอหันไปมองพี่ชายที่กำลังไล่โทรหาเพื่อนทีละคนเพื่อขอความช่วยเหลือก่อนแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้ ทุกคนต่างก็รู้ว่าครอบครัวเธอกำลังจะล้มละลายจึงไม่มีใครอยากจะนำเงินมากมายมาเสี่ยง
พลันความคิดของเธอก็ไปสะดุดกับที่คุยกันกับพี่ชายก่อนหน้านี้ดานีนนิ่งคิดอยู่สักพักว่าเธอควรจะไปขอร้องให้เขาช่วยดีไหม ความคิดในหัวตีกันวุ่นวายไปหมด จนหน้าของบุพการีที่ลอยเข้ามาทำให้ดานีนไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปหาแดนีสเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา เพราะไม่มีทางเลือกอื่นใด และถึงยังไงเธอก็ต้องเป็นของเขาอยู่ดี ร่างบางจึงรีบลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับเอามือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าใส นาทีนี้เธอจะช้าไม่ได้แล้ว ตอนนี้ชีวิตของบิดาขึ้นอยู่ที่เธอคนเดียว
“น้องจะไปไหน.. “
พิรัชถามทันทีที่เห็นน้องสาวลุกขึ้นเหมือนจะรีบไปไหน
“นีนจะไปพบเขาค่ะ”
“นี่น้องหมายถึง..”
“นีนจะไปขอความช่วยเหลือจากแดนีส ไปนะคะ”ยิ่งเธอช้าความเสียงก็มีมากขึ้น แม้ว่าข้อเสนอที่เขาต้องการจะเป็นอะไรเธอก็พร้อมยอมแลกกับลมหายใจของบิดา เธอขอแค่นั้น..
“เดี๋ยวสิ ดานีน ดานีน..”
ดานีนไม่ได้หยุดรอฟังพี่ชายเธอเดินออกมาจากที่พักและกดลิฟต์ลงไปที่ชั้นจี เพื่อที่จะได้ไปขึ้นลิฟต์วีไอพีที่เธอเคยเห็นอยู่ข้างในสุด ลิฟต์ตัวนั้นน่าจะพาเธอไปพบกับแดนีสได้ หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเรียกพลังใจให้ตัวเอง จากนั้นจึงเดินตรงไปที่ลิฟต์ที่ว่าทันทีที่มาถึงชั้นล่าง
ก่อนจะเข้าไปถึงจุดหมาย การ์ดชุดดำสองคนได้เดินเข้ามาขวางไว้ไม่ให้เธอได้เข้าไปอย่างที่คิด เธอจึงบอกพวกเขาว่าต้องการพบแดนีส จากนั้นไม่นานพวกเขาจึงหลีกทางให้เธอเดินเข้าไป ใช้เวลาไม่นานนักลิฟต์ก็พาเธอมาหยุดยังชั้นที่สิบเอ็ดซึงเป็นชั้นสูงสุดของเรือสำราญลำนี้
ติ๊ง !!
เสียงลิฟต์ดังเพื่อบ่งบอกว่าเธอถึงที่หมาย การ์ดชุดดำหน้าห้องเห็นเธอดังนั้นเลยพูดกับเธอเป็นภาษาสากล บอกให้เธอตามมา ดานีนเดินตามชายร่างสูงใหญ่ชุดดำไประหว่างทางเธอก็เกิดอาการประหม่าไม่น้อย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ก่อนร่างหนาจะพาเธอมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่ง ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นห้องทำงานของแดนีส
ก๊อก ก๊อก..
การ์ดที่เดินมากับดานีนเคาะประตูก่อนสามครั้ง ก่อนที่ประตูบานหนาจะเปิดออก ขาเรียวบนรองเท้าส้นสูงสั่นน้อย ๆ เมื่อความเย็นภายในห้องกระทบเข้ากับร่าง
เธอมองเห็นคนที่กดเปิดประตูให้เธอกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่เหมือนไม่รู้ว่ามีคนเข้ามาทั้งที่เป็นคนเปิดประตูให้เธอเอง ดานีนเดินไปจนถึงหน้าโต๊ะทำงานของแดนีส ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะเงยหน้าจากกองเอกสารกองโตขึ้นมา ดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง ดานีนที่เกิดความประหม่าจึงหลบสายตาไปทางอื่น
"อะ เอ่อ คือว่า คือ.."
ดานีนที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรจึงได้แต่อ้ำอึ้ง
"ฉันมีเวลาไม่มาก"
"ฉะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณค่ะ"
"มีอะไร.." แดนีสว่าพร้อมกับวางปากาลงแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้
"ฉันต้องการให้คุณช่วยเรื่องคุณพ่อ.." ในที่สุดดานีนก็หาเสียงของตัวเองเจอและเอ่ยความต้องการของเธอออกมา ก่อนจะโดนแดนีสพูดขึ้นด้วยท่าทางไร้หัวใจ
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น.."
"ถะ ถ้าคุณยอมช่วย ฉันจะทำทุกอย่างตามที่คุณต้องการ.."เธอว่า ถึงแม้จะรู้สึกอดสูที่ต้องใช้วิธีนี้โดยการเอาตัวเข้าแลก แต่เธอไม่ได้มีทางเลือกมากนัก เธอรู้แค่ว่าตอนนี้ชีวิตบิดาสำคัญที่สุด
"ตามที่ฉันต้องการอย่างนั้นเหรอ อย่างเช่นอะไรล่ะ.." แดนีสย้อนถามเสียงเย็นชา และไม่รู้ว่าเขาเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าเธอตอนไหน
"ฉันจะยอมเป็นผู้หญิงของคุณ”
"หมายถึงเธอจะมาเป็นคู่นอน หรือผู้หญิงบนเตียงของฉัน.. ?" ชายหนุ่มทวนคำถามเพื่อให้ร่างบางตรงหน้าเข้าใจจุดประสงค์ที่ตรงกัน
"ถอดเสื้อผ้าสิ แล้วทำให้ฉันพอใจ" พูดจบมาเฟียหนุ่มก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน เพื่อรอดูว่าเธอจะทำยังไงต่อไป และเขาเริ่มสนุกที่ได้ไล่ต้อนให้อีกฝ่ายจนมุมแล้วสิ ต่างจากดานีนที่เห็นชายหนุ่มพูดแบบนั้นก็เม้มริมฝีปากแน่นยังยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน หญิงสาวไม่คิดว่าเขาจะร้ายกาจขนาดนี้
"ถ้าไม่ทำก็กลับไปได้แล้ว ฉันมีงานต้องทำต่อ.."
"ฉะ ฉันจะทำ.. แล้วคุณก็ทำตามสัญญาด้วย"
"ได้สิ งั้นก็เริ่มเลยเป็นไง"
”ดะ เดี๋ยวสิ คุณต้องช่วยคุณพ่อของฉันก่อน พ่อฉันต้องได้รับการผ่าตัดภายในคืนนี้..” ดานีนต่อรอง
“หึ.. “ มาเฟียหนุ่มหัวเราะในลำคอ จากนั้นก็ยื่นเอกสารไปตรงหน้าดานีนหนึ่งแผ่น
“เซ็นซะ..” มาเฟียหนุ่มว่าทำให้ดานีนจำต้องหยิบเอกสารแผ่นนั้นขึ้นมาพร้อมกับอ่านรายละเอียด
ในสัญญาระบุว่าเธอต้องให้ความสุขแก่เขาทุกที่ทุกเวลาที่เขาต้องการไม่ส่าจะตอนไหน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเธอต้องเป็นคู่นอนหรือนางบำเรอของเขาอย่างน้อยสามเดือนหรือจนกว่าว่าเขาจะยกเลิกสัญญานั้นเอง แต่ถ้าหากเธอเป็นคนผิดสัญญาจะมีค่าปรับมากกว่าสองเท่าของยอดเงินที่พิรัชติดหนี้คาสิโนหรือเกือบห้าร้อยล้านบาท ดานีนได้แต่เม้มริมฝีปากก่อนจะหยิบปากกาบนโต๊ะมาเซ็นในที่สุด
จากนั้นแดนีสจึงกดอินเตอร์คอมในลูกน้องเข้ามาพบ แล้วก็เป็นจอนนี่ที่เดินเข้ามา
“จัดการด้วย”
”ครับนาย” จอนนี่รับคำสั่งเสร็จก็เดินออกไปทันที
เมื่อลับร่างลูกน้องคนสนิทของเขา ดานีนก็เริ่มยกมือสั่น ๆ ขึ้นมาถอดชุดเดรสสีชมพูอ่อนที่สวมอยู่ออก ในขณะที่หัวใจของเธอก็เต้นแรงอย่างบ้าคลัง นี่เธอจะต้องมีอะไรกับคนที่เจอหน้ากันได้ไม่กี่น่ะเหรอ ไม่ได้เป็นคนรักหรือแฟน ไม่ได้มีแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ ให้กันเลยด้วยซ้ำ แต่เธอก็ต้องสลัดความคิดนั้นทิ้งและทำเพื่อช่วยพี่ชายและบิดาที่กำลังนอนป่วยอยู่ เธอไม่มีทางเลือก
หญิงสาวคิดในใจด้วยความอดสูขณะปลดชุดออกจากเรือนร่าง เผยให้เห็นทรวงอบอวบใหญ่ที่ล้นทะลักอยู่ในบราเซียลูกไม้คู่สวย จากนั้นดานีนก็เดินไปหาแดนีสที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน แววตาคมเข้มสีน้ำทะเลคู่นั้นจ้องเธอตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้าด้วยสายตาคมกริบ