#28
I can't resist because you is too cute
“ไปซื้อน้ำเต้าหู้ เย้ๆ ~”
ผมแกว่งมือที่จับกับพี่ขุนอยู่ไปมาอย่างอารมณ์ดี หลังจากอยู่ในคอนเสิร์ตอยู่นานก็ได้เวลากลับ พวกเราแยกย้ายกันกลับหอใครหอมัน ส่วนต้นรักคนนี้จะไม่ยอมกลับง่ายๆ หรอก! หึหึ ดึกๆ แบบนี้ยิ่งเป็นเวลาสมควรยิ่งที่จะได้กินน้ำเต้าหู้คุณลุงเลยนะ
แถมช่วงนี้ผมยังไปค้างที่คอนโดพี่ขุนบ่อยมากเลยไม่ได้มาซื้อประจำเหมือนเมื่อก่อน เพราะงั้นวันนี้ผมจะมาอุดหนุนคุณลุงเยอะๆ เลย! เดี๋ยวคุณลุงจะน้อยใจเอาได้
“มีความสุขง่ายจริง”
“รักเลี้ยงง่ายน้า~ พี่ขุนสนใจเอาไปเลี้ยงที่บ้านเปล่า”
“ให้พ่อแม่ไปขอขนาดนี้ยังดูไม่สนใจอีกเหรอ?”
ผมหัวเราะร่าออกมาอย่างชอบใจ แกว่งมือพี่ขุนเดินตามฟุตบาทไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดต่อแถวเพื่อซื้อน้ำเต้าหู้คุณลุง เพราะคอนเสิร์ตเพิ่งเลิกทำให้เหล่านักศึกษาเดินทางกลับหอในช่วงเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าดูคอนเสิร์ตนานหลายชั่วโมงแบบนั้น ใครๆ ก็ต้องการเติมพลังเหมือนต้นรักคนนี้ทั้งนั้น ทำให้ย่านของกินบริเวณนี้คึกคักสุดๆ คนต่อแถวร้านคุณลุงยังยาวกว่าทุกวันอีกด้วย
“หอมจังเลยย”
ผมแปะแก้มไว้กับต้นแขนพี่ขุน หลับตาลงสูดกลิ่นหอมๆ ของน้ำเต้าหู้จนน้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงาน วันนี้พี่รักจะซื้อขนมปังสังขยาเพิ่มด้วย!
“น่ารักสัด”
ผมเหลือบตาขึ้นมองคนตัวสูงกว่าเจ้าของที่พิงแก้ม แล้วก็เห็นว่าพี่ขุนกำลังยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายกันอยู่ ผมกะพริบตาปริบๆ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี สุดท้ายก็เลยส่งยิ้มแฉ่งให้กล้องมันซะเลย...แล้วพี่ขุนก็ลดกล้องพร้อมขมวดคิ้วเข้าหากันหน่อยๆ
“พี่ขุนเป็นอะไรครับ”
“มึงยิ้มน่ารักเกินไป กูหวงไม่อยากให้ใครเห็น...แต่ถ้าลงคนอื่นมันจะได้รู้ว่ามึงมีแฟนแล้ว”
“โห ขนาดนี้เขาก็รู้กันหมดแล้วนะครับรักว่า”
“ยัง มองมึงแทบเหลียวหลังเต็มไปหมดขนาดนี้ ตีนกระตุกเลยแม่ง”
“ป๊า ป๊าอย่านักเลงซี่” ผมว่าพร้อมหลุดขำเบาๆ กอดเอวพี่ขุนเอาไว้ ออดอ้อนให้เจ้าตัวอารมณ์เย็นลงได้บ้าง
“เรื่องอื่นป๊าใจเย็นให้ม๊าได้ แต่เรื่องหวงม๊าทำไม่ได้จริงๆ”
“อื้อ รักเข้าใจครับ เพราะเวลามีสาวๆ มองป๊า รักก็อยากจะกอดป๊าไว้แน่นๆ แล้วตะโกนดังๆ ว่า คนนี้ของต้นรักนะ!”
“อยากฟัดว่ะรัก”
“ฟะ..ฟัดแบบไหนครับ ฟัดแก้มเหรอ ตรงนี้ไม่ได้นะพี่ขุน”
ผมหลุบตามองพื้นเพราะเมื่อกี้เผลอสบตากับแววตาหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าจังๆ สะดุ้งน้อยๆ เมื่อใบหูสัมผัสกับลมหายใจร้อนผ่าวที่แนบชิดลงมา
“ฟัดแบบไหนที่ทำให้ม๊าร้องครางได้ ก็ฟัดแบบนั้นแหละ”
“พี่ขุนห้ามเข้ามาใกล้รักนะครับ! ถ้าขยับเข้ามาอีกก้าวเดียวรักตีจริงแน่”
“มึงก็กินน้ำเต้าหู้ไปไง กูก็ฟัดมึงรอไม่เห็นยาก”
“พี่ขุนไม่ต้องมาเจ้าเล่ห์เลย! รักรู้ว่าถ้าพี่ขุนได้ฟัดแล้วรักจะไม่ได้กินน้ำเต้าหู้ต่อแน่ๆ”
ผมส่ายหน้าอย่างจริงจังขณะเคี้ยวปาท่องโก๋อยู่เต็มปาก จดจ้องร่างสูงตาเขม็งเพราะก่อนหน้านี้เพียงแค่ผมคลาดสายตานิดเดียวเขาก็จะฉวยโอกาสก้าวเข้ามาใกล้กันอีกนิดทันที
หน็อยย พี่ขุนร่างแบดบอยไม่ต้องมาหลอกล่อต้นรักคนนี้เลย
ที่ผมไม่อนุญาตให้พี่ขุนเข้าใกล้และนั่งกินของกินจากร้านน้ำเต้าหู้คุณลุงแบบนี้เพราะรู้ว่าพี่ขุนจะจับผมฟัดจนไม่ได้กินอะไรบนโต๊ะนี้สักอย่างเลยแน่ๆ ดูสายตาที่ไม่ปิดบังความร้ายกาจไว้เลยนั่นสิ! ฮึ่ยยย จริงๆ เลยป๊าเนี่ย
นั่นแหละจึงเป็นเหตุผลให้ผมรีบกินทุกสิ่งอย่างบนโต๊ะให้หมดก่อนที่พี่ขุนจะหลอกล่อกันสำเร็จ ต้องเติมพลังให้เต็ม ไม่งั้นจะเอาแรงที่ไหนไปสู้กับพี่ขุนกัน
“ปะ..ป๊าถอดเสื้อทำไม”
ผมว่าตาโต เพราะตอนนี้พี่ขุนไม่ได้พยายามย่างกายเข้ามาหากันแล้ว แต่กลับเริ่มถอดเสื้อช็อปต่อด้วยเสื้อยืดด้านในออกจนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยเต็มตา
“เตรียมพร้อม...รอม๊ากินเสร็จ”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอก ชวนให้ทั้งร่างผมขนลุกซู่ขึ้นมา เหลือกตาโตตอนที่มือหนากำลังปลดเข็มขัดตัวเองออก และสิ่งที่ทำให้ผมประหม่ามากที่สุดก็คงไม่พ้นสายตาคู่คม พี่ขุนจับจ้องมองผมไม่ละไปไหนแม้สักเสี้ยววินาที เพียงแค่เผลอไปจดจ้องเข้าก็เกิดทำให้ช่องท้องผมไหววูบไปหมด ประกายร้อนเร่าฉายชัดอยู่ในนั้นทำเอาผมต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบาก
“อึก...ป๊า!”
“รีบกินนะม๊า ป๊าพร้อมแล้ว”
ผมหน้าร้อนจัดเหมือนกับเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่บนแก้ม พี่ขุนรูดซิปกางเกงยีนลงโดยไม่มีท่าทางเขินอายเลยแม้แต่น้อย...ฮื่ออ TT ถึงจะพยายามหลบตากับตรงนั้นของพี่ขุนได้เร็วแล้ว แต่สายตามันก็ยังคงมองไปเห็นเจ้าหนอนยักษ์ที่ดุนดันชั้นในสีเข้มออกมาอยู่ดี
บ้ามาก พี่ขุนโป๊สุดๆ ไปเลย ;__;
มือที่จับขนมปังเนื้อนุ่มไว้สั่นไหวเหมือนกับใจของผม ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองอีกเลยว่าพี่ขุนกำลัง ‘เตรียมพร้อม’ ไปถึงไหนแล้ว
แต่ต้นรักคนนี้ก็จะไม่ยอมให้อะไรมาชนะของกินได้หรอกนะ! ผมก้มหน้าคางชิดอกหยิบสารพัดอย่างบนโต๊ะเข้าปากโดยพยายามตัดเสียงที่ดังมาจากทางพี่ขุนออกให้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเสียงยวบยาบก็ยังทำเอาผมหัวใจเต้นตึกตักอยู่ดี
“คะ..แค่ก พี่ขุน! O_O”
แหมะ...
“หึ”
คราวนี้มือของผมถึงขั้นอ่อนแรงจริงๆ จนถือขนมปังเอาไว้ไม่อยู่แล้ว สำลักน้ำเต้าหู้จนน้ำตาไหลอย่างทำอะไรไม่ถูก
เกินไปแล้ว!
เกินไปมากๆ
ป๊าจะทะลึ่งเกินไปแล้วนะ! T__T
“ม๊าเขินอะไร เพิ่งเคยเห็นก็ไม่ใช่ แถมมันยังเข้าไปอยู่ในตัวม๊าอีกตั้งไม่รู้เท่าไหร่”
ฮื่ออ ไม่ไหวแล้ว ผมอยากจะมุดลงไปใต้โต๊ะให้มันรู้แล้วรู้รอด จะให้ทนยังไงไหวกันเล่า ก็พี่ขุนเล่นเอาจอมวายร้ายออกมาชักรูดกันต่อหน้าขนาดนี้!
ผมไม่รู้เลยว่าพี่ขุนทำได้ยังไงกันถึงไม่รู้สึกเขินอายเลยสักนิด มีแต่จะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์แสนแพรวพราวมาให้ ผมร้องฮื่อยกมือปิดหน้า...แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบกางนิ้วออกมาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“อึก...”
เผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อีกครั้งกับภาพตรงหน้า มือใหญ่กำรอบเจ้าแท่งร้อนแข็งขืนเต็มที่เชื่องช้า หมุนวนส่วนปลายขณะที่ลอบเลียริมฝีปากมองผมไม่ละ ลูกชายพี่ขุนผงาดชูเต็มที่ มันสั่นระริกและเกร็งเครียดไปด้วยเส้นเลือด ส่วนปลายแดงก่ำปริ่มน้ำสีใสออกมาตอนที่นิ้วโป้งร้อนเกลี่ยวนรอบจุดอ่อนไหว
“กินเสร็จแล้วใช่ไหมม๊า”
“ระ..รักยังกินไม่เสร็จซะหน่อยๆ”
“มองยั่วกันขนาดนี้ยังให้ทนอีกเหรอ”
“รัก...รักเปล่านะ”
“มามองใกล้ๆ ดิ...จะได้เห็นชัดๆ”
“ทำไมพี่ขุนทะลึ่งแบบนี้เนี่ย รักหัวใจจะวายแล้วนะ! ;__;”
“หึ ก็ม๊าน่ารักฉิบหายขนาดนี้จะให้โทษใคร”
“พี่ขุนห้ามเข้ามานะๆๆๆ”
คำสั่งห้ามของผมไม่มีผลอีกต่อไปแล้วเพราะความอดทนของพี่ขุนดูท่าจะสิ้นสุดลงแล้ว ร่างสูงเปลือยเปล่าเดินตรงเข้ามาหาผมในทันที ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้เตรียมวิ่งหนีแต่ก้าวยังไม่ถึงสองก้าวดีแขนหนาก็ตามมาโอบรอบเอวกันเอาไว้ ยกร่างผมขึ้นวางบนโต๊ะทานข้าวได้อย่างง่ายดาย ผมมองซ้ายขวาหาทางหลบหนีด้วยอาการเลิ่กลั่กสุดๆ ความเจ็บจากครั้งก่อนที่ทำกันเพิ่งจะหายไปเมื่อวานนี้เองนะ TT
ร่างหนาโถมตัวมากักร่างผมไว้ไม่ให้มีทางหนีรอด พี่ขุนแทรกกายเข้ามายืนกลางหว่างขา ทำให้ต้นขาผมต้องแยกกว้างออกจากกัน ปลายจมูกโด่งสวยและริมฝีปากร้อนผ่าวซุกไซร้ตามลำคอผมในทันที ฝ่ามือใหญ่เริ่มสอดเข้ามาในเสื้อผมแล้วบีบเคล้นแถวช่วงเอวชวนให้รู้สึกหวิววาบ
“ตัวนุ่มจังอะม๊า”
“กะ..ก็เพราะรักกินเยอะมั้งครับ ._.”
“ขอกินทั้งตัวเลยแล้วกัน”
“ทำไมป๊าใจร้าย...น้ำเต้าหู้รักยังเหลือตั้งครึ่งแก้ว ปาท่องโก๋อีก ขนมปังด้วย”
ผมเหลือบตามองเหล่าบรรดาของกินบนโต๊ะข้างตัว...อยู่ใกล้แค่นี้ แต่กลับไม่มีสิทธิ์ได้สัมผัส ฮื่ออ! ต้นรักไม่เคยเจอกับความรู้สึกนี้มาก่อนเลยในชีวิต ผมเชิดคางขึ้นอีกนิดเพราะใบหน้าหล่อเหลาซุกซบกันแนบชิดมากขึ้น พี่ขุนแลบลิ้นเลียลำคอบนฝากความชื้นและอาการสั่นสะท้านไว้บนร่างกายผมก่อนจะผละออกมาสบตากัน
“กินเยอะได้ไง จุกนะม๊า”
พี่ขุนกดจูบบนริมฝีปากกันแนบชิดค้างไว้ชั่วครู่ หัวใจผมเต้นโครมครามทั้งตื่นเต้น ทั้งเขินปนเปกันไปหมด หลังผละริมฝีปากออกพี่ขุนก็ก้มลงจุ๊บปลายจมูกกันเบาๆ เหมือนกับเอ็นดู
“รักมาก”
“...”
“จนอยากรักม๊าแรงๆ”
ครั้งนี้ผมไม่มีโอกาสได้เอ่ยอะไรอีก พี่ขุนก้มลงมาจูบกันดูดดื่มในทันที เปลี่ยนบรรยากาศหวานเชื่อมก่อนหน้าไปในพริบตา ลิ้นร้อนรุกล้ำเข้ามาในปากผมทันทีแล้วกวาดต้อนทุกสิ่งด้วยจังหวะร้อนแรง ลมหายใจผมเริ่มหอบถี่ขึ้นทุกขณะ เอียงใบหน้ารับจูบวาบหวามอย่างคล้อยตามในเวลาไม่นาน
พี่ขุนเองก็หายใจรุนแรงไม่ต่างกัน มืออีกข้างที่ว่างเว้นจากการลูบไล้ร่างกายผมก็กุมมือผมไว้ ชักจูงให้แนบไปกับท่อนกายด้านบนแล้วค่อยๆ ลูบต่ำลงมา ผมหน้าร้อนไปหมดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากอ้าปากยินยอมให้พี่ขุนเก็บเกี่ยวทุกสิ่งไป มือผมสั่นระริกตอนที่มันเคลื่อนผ่านกล้ามหน้าท้องแน่นแล้วหยุดลงที่แท่งร้อนแข็งขืน พี่ขุนจับมือผมกอบกุมมันเอาไว้ หัวใจผมเต้นรุนแรงเพราะไม่เคยได้สัมผัสมันด้วยฝ่ามือมาก่อน ลูกชายพี่ขุนทั้งร้อนทั้งแข็ง มันใหญ่มากจนมือผมเองยังกำไม่รอบ ได้ยินเสียงขบกรามเบาๆ ก่อนที่พี่ขุนจะฝากคมเขี้ยวลงบนริมฝีปากล่างของผมให้สะดุ้งเฮือก
“อื้ออ!”
“มือโคตรนุ่ม...ชักให้หน่อยม๊า”
“ระ..รักทำไม่เป็นครับ”
“ทำแบบที่ป๊าทำให้ดูก่อนหน้านี้ไง”
ผมก้มหน้างุดเขินจนแก้มแทบระเบิด ทำไมพี่ขุนถึงพูดแต่ละคำได้ทะลึ่งมากๆ ขนาดนี้กันนะ! แต่ถึงจะอายมากยังไงผมก็ยังคงกุมเจ้าแท่งร้อนเอาไว้ไม่ปล่อย พี่ขุนพรมจูบตามแนวลำคอผมเหมือนกับไม่เร่งรีบให้ผมต้องทำให้...ต้นรักคนนี้เป็นแฟนพี่ขุนคนเท่เลยนะ! เรื่องแค่นี้จะให้พี่ขุนรอเก้อได้ยังไง อะไรที่ป๊ามีความสุขรักก็จะพยายามอย่างดีเลย
“อ่าา แบบนั้นแหละม๊า”
ผมชักมือขึ้นลงเชื่องช้าก่อนในทีแรก มือผมยังคงสั่นเทาแต่ก็ไม่ได้คิดจะเลิกทำเลยสักนิด เสียงพี่ขุนเอ่ยบอกแหบพร่าอยู่ข้างใบหู เมื่อเริ่มชินมือแล้วผมก็เพิ่มจังหวะเร็วมากขึ้น
“อ๊ะ พะ..พี่ขุน รักยังทำอยู่เลย”
ผมเบะปากว่าเบาๆ เพราะกำลังเรียนรู้บทเรียนใหม่ยังไม่คล่องดีเลย ก็โดนพี่ขุนอุ้มลงมานั่งบนเก้าอี้แทนซะอย่างนั้น มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นชวนใจละลายพร้อมก้มลงมาจุ๊บปากผมหนึ่งที พี่ขุนจับมือผมขึ้นไปกอบกุมเจ้าแท่งร้อนไว้อีกครั้งแล้วยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูง มือใหญ่แสนอบอุ่นลูบลงบนหัวผมเบาๆ เหมือนกับว่ามันคือคำชม
ผมหน้าร้อนจี๋ยิ่งกว่าเดิมเมื่อคราวนี้แก่นกายร้อนอยู่ใกล้ชิดสายตาผมมากกว่าเมื่อครู่เป็นไหนๆ
“ไม่ได้จะให้หยุด แค่ให้เปลี่ยนท่าเฉยๆ”
“คะ..ครับ”
ผมกลับมาตั้งใจกอบกุมแก่นกายใหญ่อีกครั้ง มันกระตุกเกร็งเป็นบางครั้ง และยิ่งปริ่มน้ำสีใสออกมาเมื่อผมวนนิ้วที่ส่วนปลายแดงก่ำ...และคงเพราะผมตั้งใจกับการทำให้พี่ขุนมากเกินไป
รู้ตัวอีกมันก็แทบชิดริมฝีปากผมแล้ว...
“มือยังนุ่มขนาดนี้ ถ้าปากจะนุ่มขนาดไหน”
“ป๊า...”
“ลองเลียดูไหมรัก ไม่ยาก…เดี๋ยวสอน”
“ป๊าอ่า TT ทำไมทะลึ่งขนาดนี้เนี่ย”
“ถ้าเมียใช้ปากให้สักครั้ง ก็คงรู้สึกดีไปทั้งชาติ”
“ฮึ่ยย ป๊าวางแผนมาอย่างดีเลยนี่นา”
“เลียหน่อยรัก อยากคลั่งตายเพราะเมียแล้ว”
ผมพองลมเต็มแก้มเพราะจับแผนของพี่ขุนได้แล้ว ป๊านี่ร้ายจริงๆ เลย...พี่ขุนก้มลงมองกันด้วยสายตาที่อ่อนแสงลง เกลี่ยข้างแก้มผมไปมาเหมือนกับรู้ว่าผมต้องแพ้แน่นอน
อื้อ
แล้วจะเหลืออะไรล่ะ ต้นรักคนเท่ยอมพี่ขุนหมดทุกทางเลย U_U
“ระ..รักจะพยายามนะพี่ขุน”
“เมียกูเก่งอยู่แล้ว ต่อให้มันออกมาไม่ดีมึงก็ยังเก่งที่สุดอยู่ดี”
ผมพยักหน้ารับเบาๆ หลังจากได้กำลังใจมาจากพี่ขุนแล้วผมก็สบมองส่วนหัวปลายแดงก่ำที่กำลังชี้หน้ากันอยู่ ผมก้มหน้าลงช้าๆ ก่อนจะจุ๊บมันแผ่วเบา...แต่เพียงแค่นั้นผมก็เห็นว่ากล้ามหน้าท้องของพี่ขุนมันหดเกร็งมากขนาดไหน
“แค่นี้ก็เสียวสัดๆ แล้วม๊า”
ครั้งนี้ผมครอบปากลงบนส่วนปลายและแท่งร้อน หัวใจผมเต้นแรงมากเหมือนกับว่ามันจะหลุดออกมาให้ได้ มันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ชวนหวิวท้องแทบคลั่ง ผมค่อยๆ ลากลิ้นไล่เลียหัวปลายหยัก นึกภาพถึงตอนกินไอติมให้ตัวเองไม่ต้องตัวระเบิดไปก่อน เสียงครางทุ่มต่ำดังแผ่วเบากระตุ้นให้ผมผงกหัวขึ้นลงช้าๆ ระหว่างที่เรียนรู้บทเรียนใหม่ก็ได้พี่ขุนคอยบอกตลอดว่าต้องทำยังไง
“ดูดแรงๆ ม๊า...อ่า ปากโคตรนุ่ม”
“อื้ออ”
“เก่ง คนเก่ง”
เมื่อเห็นว่าผมปรับตัวได้มากแล้วเอวสอบก็เริ่มสาวเข้าหาปากผม ความใหญ่โตของแท่งร้อนถูกส่งเข้ามาทำให้คับปากผมไปหมด น้ำลายเปียกชุ่มทั้งสิ่งที่อยู่ในปากและมุมปากของผม ผมหลับตาปี๋ตอนที่ส่วนปลายมันเข้ามาลึกมากกว่าก่อนหน้านี้
“อ่อก แค่ก...ป๊า”
“ขอโทษ ตกใจไหม เจ็บรึเปล่า”
“ไม่เจ็บครับ...รักยังไม่เก่ง ป๊ายังเพิ่งทำแรงซี่”
หลังผมว่าจบก็เหมือนคำได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอ พี่ขุนช้อนใบหน้าผมขึ้นรับจูบปลอบโยนอยู่พักใหญ่ถึงได้ผละออก
“เข้าใจแล้ว ป๊าจะทำเบาๆ”
ครั้งนี้จังหวะเราเหมือนจะเข้ากันได้ดีมากขึ้น ผมพยายามดูดปากให้แน่นตามที่พี่ขุนบอก ส่วนแก่นกายยาวที่เข้าไปไม่หมดผมก็คอยใช้มือชักรูดให้ ผมทำมันอย่างเงอะงะๆ สำลักบ้างก็หลายครั้ง แต่เพราะพี่ขุนใจเย็นกับผมมากจริงๆ ถึงทำให้ผมเริ่มปรับตัวได้เต็มที่มากขึ้น
ผมหลับตาแน่นก้มลงครอบปากดูดดึงลำกายยาวจนมันชนเข้ากับผนังลำคอ ทำซ้ำแบบนั้นจนหน้าแดงก่ำไปหมด และเพราะทำให้พี่ขุนมานานพอสมควรปากผมก็เริ่มเมื่อยขึ้นมา...พี่ขุนถอดแก่นกายออกไปด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์
ผมเตรียมเอ่ยถามต่อว่าไม่ทำต่อเหรอ แต่พี่ขุนก็จับผมยืนขึ้นหันหน้าเท้าแขนไว้กับโต๊ะก่อน เสื้อผ้าผมถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังเหลือท่อนล่างเอาไว้อยู่
“ขอบคุณนะม๊า เห็นเมียเมื่อยปากแล้วรังแกต่อไม่ลง...ขอเสร็จในตัวม๊าแล้วกัน”
“ป๊า อื้อ...เราจะทำกันตรงนี้เหรอครับ”
“ครับ”
ยอดอกผมโดนเกลี่ยดึงไปมาทั้งสองข้างจนเผลอแอ่นอกเข้าหาอย่างห้ามไม่ได้ ริมฝีปากร้อนผ่าวขบเม้มตามหลังคอสร้างความเจ็บเล็กๆ เอาไว้หลายจุด ร่างกายผมเริ่มถูกดันให้เอนต่ำแนบไปกับโต๊ะในขณะที่พี่ขุนไล่ฝากรอยรักไว้ตามกระดูกสันหลังของผม
มือใหญ่จับบังคับช่วงเอวผมให้แอ่นขึ้นบดเบียดไปกับแก่นกายแข็งขืน หมุนวนสะโพกเชื่องช้าสร้างอาการเสียวสะท้านจนเรียวขาผมสั่นระริก
“ทำกันบนโต๊ะกินข้าว”
“อ่า...ป๊าอย่าย้ำสิ”
“ขาวฉิบหายเลยม๊า”
ผมแนบแก้มลงกับพื้นโต๊ะ เอี่ยวตัวไปด้านหลังแล้วก็เห็นว่าพี่ขุนเตรียมจะถอดกางเกงกันออก...คราวนี้ผมหันกลับมาซุกหน้าลงบนแขนตัวเองเพราะรู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น
“อยากกินบรอกโคลี”
“พะ..พี่ขุนมั่วแล้ว”
“หืม”
“วันนี้ไม่ใช่เจ้าบรอกโคลีซะหน่อย”
ผมรับรู้ได้ว่าคนด้านหลังชะงักไปเล็กน้อยกับคำที่ผมว่า ก่อนที่ในวินาทีถัดมาพี่ขุนจะถอดกางเกงผมออกมากองอยู่ตรงต้นขา
...ฮื่อออ มาแล้ว วินาทีระทึกใจมาแล้ว
“...”
“Holy F*ck”
“คะ..คือรัก”
“เอาจริงดิม๊า”
“ฮื่ออ”
“ใครสอนมาว่ะ”
“กะ..ก็กัลป์มันบอกว่าถ้าใช้แผนนี้แล้วพี่ขุนจะแพ้รักราบคาบแน่นอนอ่า”
“...แพ้สัดๆ เลย”
“ป๊า”
“โดนกระแทกคาลูกไม้ทั้งคืนแน่ม๊า บอกไว้ก่อนเลยด้วยว่าป๊าห้ามใจอะไรไม่อยู่แล้วทั้งนั้น”
“อ้ะ อ๊า!...พี่ขุน”
ผมสะดุ้งเฮือกสุดตัว ร่างกายต้องแบกรับความเจ็บอย่างกะทันหันตอนที่พี่ขุนใช้นิ้วเกี่ยวชั้นในไว้ด้านข้างแล้วเสียบแท่งร้อนส่วนหัวเข้ามา...ไม่รู้เลยว่าพี่ขุนใช้น้ำลายเป็นตัวช่วยหล่อลื่นตอนไหน
และที่สำคัญคือไม่รู้เลยว่ากางเกงในลูกไม้กำลังทำให้ต้นรักต้องสิ้นชีพ!!
T__T ให้รอดไปได้ก่อนเถอะ ผมจะไปไล่ตีไอ้กัลป์ให้ร้องไห้เลย
“อื้ออ ป๊า…เบา”
แต่ตอนนี้ผมคงต้องร้องไห้แทนไปก่อน มือใหญ่กอบกุมก้นผมไว้ทั้งสองข้าง นวดคลึงหนักหน่วงก่อนจะเบะมันออกเพื่อส่งแท่งร้อนเข้ามาลึกมากขึ้น ผมสูดลมหายใจหอบถี่ไม่เป็นจังหวะ แม้จะเจ็บขนาดไหนแต่ความเสียวซ่านที่ได้รับก็มีมากไม่แพ้กัน
แผ่นอกหนั่นแน่นทาบกับแผ่นหลังผมแบ่งปันความอุ่นร้อนมาให้ เพียงแค่เงยหน้าขึ้นสบตาริมฝีปากก็ถูกชกชิมในทันที ลิ้นของเราพันเกี่ยวกันแนบแน่น เป็นจูบที่ค่อนข้างรุนแรงและเต็มไปด้วยอารมณ์ความใคร่อยาก แต่ถึงอย่างนั้นพี่ขุนก็ยังคงแฝงความอบอุ่นเอาไว้เพื่อไม่ให้ผมตกใจกลัว
“อ๊า! อื้ออ พี่ขุนรักจุก”
เพราะขนาดของพี่ขุนมันไม่ใช่น้อยๆ เลย ยิ่งเข้ามาจนสุดความยาวแบบนี้ผมยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่ ดีที่พี่ขุนยอมแช่กายนิ่งค้างไว้เพื่อให้ผมได้ปรับตัวก่อน ร่างกายผมถูกรั้งให้ยืดกายขึ้นอีกครั้งแล้วฝ่ามือร้อนผ่าวก็เคลื่อนเข้ามากอบกุมหน้าอกกัน มืออีกข้างตีลงบนก้นผมผ่านชั้นในลูกไม้จนก้อนเนื้อกระเพื่อมไหว...เมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวได้เต็มที่ความรู้สึกเสียวซ่านก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี มากขึ้นจนเผลอเป็นฝ่ายบดก้นลงกับแท่งร้อนซะเอง
เพียะ!
“แรงๆ ม๊า ป๊าชอบ”
“อ๊ะๆ อ่า”
ผมบดสะโพกเข้าหาพี่ขุนตามที่เขาบอก พอได้มาควบคุมจังหวะเองมันยิ่งรู้สึกดีขึ้นไปอีก แต่ผมทำได้ไม่นานมือใหญ่ก็จับรั้งเอวผมไว้ก่อนจะกระแทกแก่นกายเข้ามาแรงๆ ...ผมร้องครางเครือสลับกับอ้าปากหอบเอาอากาศหายใจเข้าปอด ส่วนปลายร้อนเข้าชนจุดอ่อนไหวถี่ๆ อย่างแม่นยำทุกครั้งที่สอดใส่เข้ามา ร่างผมสั่นคลอนไปหมดเพราะแรงหยัดกายที่รุนแรง ผมเท้ามือไว้กับโต๊ะ มองเห็นแก่นกายของตัวเองดุนดันชั้นในจนนูนก็เขินอายเข้าไปใหญ่
“ป๊า อ๊า! อ้ะๆ ลึกไปแล้วครับ”
“อ่า โคตรแน่นเลยม๊า”
“อื้ออ เบาหน่อยครับ อ๊ะๆ”
ผมเอื้อมมือไปยันหน้าท้องพี่ขุนเพื่อให้ผ่านแรงลงบ้าง แต่พี่ขุนกลับเปลี่ยนไปยกขาข้างหนึ่งผมขึ้นก่ายไปกับโต๊ะแล้วหยัดสะโพกเข้ามาหนักหน่วงรุนแรง จนเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง ผมเบิกตาโตปล่อยเสียงร้องครางดังกว่าเดิมเพราะท่านี้มันเข้าไปได้ลึกมากจริงๆ พี่ขุนกระแทกกระทั้นหนักหน่วงจนพาให้โต๊ะทานข้าวตัวใหญ่สั่นไหวไปด้วย เขาถอนกายออกจนเกือบสุดลำยาวแล้วตอกกลับเข้ามาใหม่เน้นๆ ผมฟุบหน้าลงกับแขน ได้แต่ปล่อยให้ช่องทางด้านหลังโอบรัดแก่นกายร้อนผ่าวเอาไว้ให้ได้ทั้งหมด
ครั้งนี้มันค่อนข้างรุนแรงกว่าครั้งแรกนิดหน่อย...แต่นั่นจะโทษใครได้ถ้าไม่ใช่เจ้าเกงในลูกไม้ตัวยุ่ง!
“อ้ะ! ป๊าอย่าตีแรง”
“แต่เอาแรงๆ ได้ใช่ไหม”
“อ๊ะๆๆ! อื้ออ แรงไปครับ...รักจะเสร็จฮื่ออ”
พี่ขุนเร่งจังหวะหนักหน่วงมากกว่าเดิม ผมได้ยินเสียงหายใจรุนแรงของพี่ขุนเช่นกัน เดาว่าเขาเองก็คงไม่ต่าง...ช่องทางผมเริ่มบีบรัดถี่รัวเมื่อใกล้จะถึงปลายทาง เพราะแบบนั้นเสียงสบถของพี่ขุนจึงยิ่งดังขึ้นมาให้ได้ยินเป็นระยะ ไม่นานนักผมก็กระตุกเกร็งตัวสั่นสะท้าน ปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมาจนเปียกซึมชั้นในเป็นวงกว้าง พี่ขุนตอกแท่นร้อนเข้าหาช่องทางคับแคบของผมหนักหน่วงอีกไม่กี่ทีก็ฉีดพ่นน้ำขาวขุ่นตามผมมาติดๆ
“อ่า อืมม”
“แฮ่ก รัก...รักเหมือนจะตาย”
“จูบหน่อยรัก”
ผมหันหน้าไปรับจูบจากพี่ขุน เราจูบกันดูดดื่มจนเกิดเสียงดังเฉอะแฉะ...ยามถอนจูบออกจากกันผมก็เหนื่อยหอบฟุบไปกับโต๊ะ เพราะก่อนหน้านี้เราไปดูคอนเสิร์ตกันมาตั้งหลายชั่วโมง ทำให้ความเหนื่อยอ่อนมันมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัวเมื่อโดนพี่ขุนจับกินแบบนี้ ตาผมก็ปรือปรอยแทบหลับ ซุกหน้าลงกับไหล่แกร่งตอนโดนอุ้มขึ้นจนตัวลอยเพราะผมนึกว่าพี่ขุนจะพากันไปอาบน้ำแล้วเข้านอน
“ปะ..ป๊า ป๊าพามาโซฟาทำไม ไม่ใช่ว่าเราจะอาบน้ำกันเหรอครับ”
...แต่เปล่าเลย เพียงแค่ช้อนสายตาขึ้นสบแววตาคู่คมผมก็เห็นความร้อนเร่าอัดแน่นอยู่ในนั้น ไม่ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว ร่างผมถูกจับให้นอนหงาย อ้าขาออกกว้างเพื่อคนตัวโตจะได้แทรกเข้ามา ผมหน้าร้อนผ่าวตอนที่พี่ขุนก้มลงจูบชั้นในที่ผมใส่อยู่แผ่วเบา
ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นสบตากันอีกครั้งพร้อมยกยิ้มแบบที่ผมแอบตั้งฉายาในใจไว้ว่า ‘รอยยิ้มหมาป่าล่าเหยื่อ’
“เร็วไปรัก”
“...”
“ลูกไม้มึงทำกูตื่นตัวเต็มที่มากกว่าเดิมอีก”
“...อึก”
“คืนนี้ถ้าป๊าไม่ถอดชั้นในลูกไม้ของม๊าออกด้วยตัวเอง...ก็อย่าหวังจะได้นอน”
ฮะ..ฮื่อออ T___T ไอ้กัลป์หลอกผม! ไหนบอกว่าผมจะชนะไงเล่า
ตายแน่ๆ ...พรุ่งนี้ก้นผมต้องแดงแจ๋มากแน่นอน
“รักลูก เอาน้ำไปให้พี่เขาหน่อยเร็วจ้ะ...แดดวันนี้ก็แรงพอใช้ได้เลย”
“รักกำลังเข้ามาเอาเลยครับคุณแม่”
“ฮะๆ เป็นห่วงพี่เขามากเลยสิ”
“ใช่ครับ! ถ้าไม่โดนพี่ขุนบอกให้มาหลบในร่มรักคงคอยกางร่มกันแดดให้พี่ขุนไปแล้ว~”
คุณแม่หัวเราะเสียงใสกับความขี้โม้ของผม ท่านส่งถาดน้ำหวานมาให้ผม พี่ขุนได้กินน้ำแดงเย็นๆ คงชื่นใจน่าดูเลย...แค่คิดได้แบบนั้นผมก็รีบก้าวเท้าเร็วๆ ไปที่สวนหลังบ้าน ก้าวเข้ามาใกล้อีกนิดก็ได้เห็นแผ่นหลังของคุณพ่อกับพี่แฟนกำลังช่วยกันลงมือปลูกแปลกดอกไม้ด้วยกัน
เนื่องจากวันนี้คุณหมอคนเก่งทั้งสองคนไม่ได้ไปทำงาน ผมกับพี่ขุนเลยเข้ามาที่บ้านเพื่อใช้เวลาครอบครัวด้วยกัน หลังจากกินมื้อเช้าแสนอร่อยกันสักพักใหญ่คุณพ่อก็ขอตัวออกไปเข้าสวน พี่ขุนเห็นแบบนั้นเลยอาสาออกไปเป็นลูกมือคุณพ่อด้วย
ส่วนต้นรักคนเท่น่ะเหรอ~ ก็ได้รับหน้าที่คอยให้กำลังใจป๊าคนเก่งยังไงล่า...อันที่จริงผมก็อยากลงแรงช่วยทั้งสองคนปลูกดอกไม้ด้วยนะ แต่ก็โดนห้ามไว้ก่อนจากทั้งคุณพ่อและพี่ขุนเลย แม้ผมจะบอกไปว่าแดดแค่นี้ทำอะไรต้นรักไม่ได้หร้อก แต่ก็เหมือนจะไม่มีใครเชื่อ ผมเลยได้แต่คอยนั่งชะเง้อมองพี่ขุนอยู่ในศาลาเท่านั้น เมื่อกี้ก็แอบวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อเอาน้ำเย็นมาเสิร์ฟให้
“พี่ขุนรักเอาน้ำเย็นๆ มาให้แล้วค้าบ คุณพ่อด้วย รักมีน้ำแดงเย็นสดชื่นๆ มาให้ดื่มแก้เหนื่อยครับ”
“ขอบใจมากนะลูก”
ผมส่งยิ้มแฉ่งไปให้คุณพ่อหลังท่านรับแก้วน้ำไปกระดกดื่มดับกระหาย เสร็จแล้วก็ค่อยๆ กระดืบตัวไปหาพี่ขุนที่อยู่ไม่ไกลบ้าง
“โอ้ะ แต่มือพี่ขุนเปื้อนดินอยู่ งั้นรักป้อนนะครับ!”
“อารมณ์ดีมากเลยใช่ไหมวันนี้ ถึงได้น่ารักไม่หยุด”
พี่ขุนยอมก้มลงมาดื่มน้ำแดงที่ผมป้อนให้แต่โดยดี ทั้งสายตามันเขี้ยวและสายตาเอ็นดูที่ใช้มองกันทำให้ผมเดาได้เลยว่าถ้าพี่ขุนไม่ได้มือเปื้อนอยู่คงดึงผมเข้าไปฟัดแล้วแน่ๆ
“ใช่ครับบ รักอารมณ์ดีมากเพราะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้า”
“วันหลังจะพามาบ่อยๆ กูชอบมากตอนที่มึงสดใสแบบนี้”
“รักก็ชอบพี่ขุนคนเท่เหมือนกันน้า”
ผมหันไปมองคุณพ่อก็เห็นว่าท่านวางแก้วลงแล้วเดินไปด้านหลังทางห้องเก็บอุปกรณ์ จึงนับว่าเป็นโอกาสที่พอเหมาะพอเจาะที่สุดให้ต้นรักคนนี้ฟัดพี่แฟนได้ ผมวางถาดน้ำหวานลงบนพื้นหญ้าข้างกายแล้วเอ่ยบอกพี่ขุน
“พี่ขุนก้มลงมาหารักหน่อยครับๆ”
ร่างสูงกว่าผมไปตั้งหลายสิบเซ็นก้มลงมาหาจนใบหน้าของเราอยู่ระดับเดียวกัน ผมจับแขนเสื้อตัวเองเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กที่ซึมตามกรอบหน้าให้พี่ขุนอย่างเบามือ เสร็จแล้วก็ส่งยิ้มกว้างไปให้พี่ขุนพร้อมหอมแก้มเขาดังฟอด
“รักอยากฟัดพี่ขุนเยอะๆ มันเขี้ยวๆๆ”
“มึงรู้สึกเท่าไหร่ ของกูคูณร้อยเข้าไปเลยตอนนี้”
“ฮ่ะๆ แต่พี่ขุนก็ทำไม่ได้ มีแค่ต้นรักคนนี้เท่านั้นที่ได้โอกาสฟัดพี่ขุน!”
“ให้ก่อนเลย”
“...”
“ถึงทีกูค่อยตอนดึกทีเดียว”
“อ้าวรัก ทำไมหน้าแดงกลับมาขนาดนั้นลูก แดดแรงมากเลยใช่ไหมจ๊ะ”
“กะ..ก็พี่ขุนทะลึ่-”
“อะไรนะลูก”
“เปล่าค้าบบ แดดแรงนั่นแหละครับ แหะๆ ._.”
ผมก้มหน้าเดินผ่านคุณแม่เข้าไปในครัวเพื่อเก็บแก้วน้ำ บอกตรงๆ ว่าแดดแรงเจิดจ้ายังทำอะไรผมไม่ได้เมื่อสู้กับสายตาพี่ขุนแล้ว แพ้ขนาดที่ว่าต้องรีบวิ่งแจ้นกลับมาตั้งหลักแบบนี้เลยไง U_U
ตอนประมาณบ่ายกว่าๆ พี่ขุนและคุณพ่อก็แปลงโฉมแปลงดอกไม้เสร็จเรียบร้อย พอเห็นพี่ขุนเหงื่อซึมไปทั้งตัวผมก็รีบจับจูงมือพี่เขาพาไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดบนห้อง วันนี้เราจะค้างคืนกันที่บ้านผม พี่ขุนเลยเอาชุดมาพร้อมเลย
“รอรักอยู่ตรงนี้น้า~ รอฟัดป๊าตอนตัวหอมฟุ้ง”
พี่ขุนหลุดหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วกดลงมาจุ๊บปากกันหนึ่งที ผมเดินมาทรุดตัวลงนั่งตีขารออยู่ข้างเตียง ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไปพลาง ไม่นานเท่าไหร่นักพี่ขุนก็อาบน้ำเสร็จ คนตัวสูงใส่เพียงแค่กางเกงขายาวออกมาเท่านั้น ส่วนท่อนบนก็เปลือยเปล่าโชว์แผ่นอกและกล้ามหน้าท้องแน่นๆ หยดน้ำบางหยดไหลผ่านจากต้นคอไปยังแผ่นหลังกว้างเพราะพี่ขุนกำลังเช็ดผมอยู่
“พี่ขุนมานั่งนี่ครับๆ รักเช็ดผมให้เอง~”
ทันทีที่พี่ขุนทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงผมก็โน้มตัวไปหอมแก้มสากหนักๆ เพื่อใช้จมูกวัดความหอมจากตัวพี่ขุน ยังไม่ทันได้ถอยออกห่างดีรอบเอวก็โดนเกี่ยวรั้งไปนั่งคร่อมตักแกร่ง พี่ขุนจุ๊บปากผมรัวๆ จนผมได้แต่หลุดหัวเราะออกมา...นี่คือช่วงเวลาป๊าม๊าฟัดกัน~
“คิก...ป๊าพอแล้วว รักจะเช็ดผมให้ครับ”
“อีกนิด”
กว่าคำว่าอีกนิดของพี่ขุนจะจบลงเรือนผมสีน้ำเงินเข้มก็แทบแห้งสนิท ผมใช้ผ้าซับตามเส้นผมนุ่มอย่างเบามือ แอบก้มลงไปหอมหัวพี่เขาก็ตั้งหลายทีเพราะอดใจไม่ไหว จนกระทั่งผมพี่ขุนแห้งสนิทดีทั้งร่างผมเลยโดนอุ้มขึ้นเพราะพี่ขุนขยับตัวไปนอนเอนพิงหัวเตียง
ผมนั่งทับหน้าท้องเรียงสวยแล้วก็แอบเขินขึ้นมานิดๆ พี่ขุนเอามือไปกุมเล่นท่าทางเพลิดเพลิน...ช่วงเวลาวันหยุดนี่ดีจริงๆ เลยเนอะ!
“พี่ขุนครับ รักถามเรื่องรอยสักได้ไหมม”
“ได้ อยากรู้ตรงไหน”
มือใหญ่อีกข้างลูบคลึงต้นขาผมเบาๆ ไม่ห่าง ผมกวาดสายตาทั่วเรือนร่างสวยงามก่อนจะเอ่ยถามถึงสิ่งที่สงสัยออกไป
“รอยสักทุกรอยมันมีความหมายหมดเลยใช่ไหมครับ”
“อืม…ใช่ กูมีความคิดที่อยากจะสักขึ้นมาครั้งแรกเพราะคิดว่ากูจะไม่มีทางลืมสิ่งนั้นแน่นอนในชีวิตนี้ หลังจากนั้นพอกูเจออะไรที่ทำให้รู้สึกแบบนั้นอีกก็สักเพิ่มเรื่อยๆ”
ผมพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามต่อ
“รอยสักไหนเป็นอันแรกเหรอครับ”
“ตรงนี้ อยู่ข้างหลัง”
“อ่า ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นอักษรตัวย่อใช่ไหมครับ”
เพราะพี่ขุนนอนเอนหลังอยู่ทำให้ไม่ได้มองเห็นมันเหมือนรอยอื่นๆ แต่ผมก็จำได้เพราะเวลามองแผ่นหลังพี่ขุนทีไรมันก็ชวนสะดุดตาตลอดเลย
“ชื่อย่อพ่อกับแม่กูเอง...ตอนนั้นกูจะไปเรียนเมกา มันไม่ใช่แค่เรียน แต่กูกำลังไปเจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ ไปค้นหาตัวเองให้มากขึ้น แล้วพอรู้ตัวว่าต้องห่างจากพ่อแม่ กูเลยตัดสินใจไปสักชื่อพวกเขา ที่สักข้างหลังเพราะกูรู้ว่าทั้งชีวิตกูมีพวกเขาสองคนคอยสนับสนุนกันอยู่ข้างหลังตลอด”
เมื่อได้ฟังความหมายแสนลึกซึ้งนั่นแล้วผมก็อดที่จะหลุดยิ้มออกมาไม่ได้ ผมเองก็เห็นด้วยมากๆ กับความรู้สึกที่ว่าครอบครัวคือแรงผลักดันที่มีค่ามากมายจริงๆ
พี่ขุนเล่าเรื่องรอยสักที่เหลือให้ผมฟังอีกจนเกือบครบถ้วน และทุกเรื่องราวต่างแฝงไว้ด้วยทุกความทรงจำไว้อย่างดี ผมเหมือนกับได้เรียนรู้การเติบโตของพี่ขุนเพียงแค่ทำความรู้จักรอยสักพวกนี้เลยล่ะ
“แต่รักรู้ว่ารอยสักนี้ย่อมาจากชื่อพี่ขุนใช่ไหมครับ”
จนมาถึงรอยสักสุดท้าย มันเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า KM เป็นคำที่โดดเด่นมากพอสมควรและอยู่บริเวณสีข้าง
“ใช่ ชื่อกูเอง...เพราะแม่เป็นคนตั้งให้ กูเลยค่อนข้างชอบชื่อตัวเองเป็นเศษ”
“พี่ขุนรู้ไหมครับ”
“ว่าไง”
“ลูกชายที่รักแม่มากๆ เขาบอกว่าน่ารักที่สุดเลยนะ”
ผมยิ้มกว้างออกมาอีกครั้งเมื่อได้เห็นมุมมองความรักที่พี่ขุนมีต่อครอบครัว ถึงจะไม่ได้แสดงออกมากมายอะไร แต่พี่ขุนก็แสดงออกผ่านแววตาอย่างหนักแน่นและจริงใจ
“หึ เหมาะสมกับตำแหน่งแฟนต้นรักเลยรึเปล่า”
“รักให้เป็นอันดับหนึ่งเลย! ไม่มีผู้ท้าชิงคนอื่นผ่านเข้ารอบมาด้วยนะ”
พี่ขุนหลุดหัวเราะออกมาเหมือนเอ็นดูกัน เห็นแบบนั้นผมก็หลุดขำออกมาด้วยเช่นกัน ผมลูบรอยสักชื่อของพี่ขุนไปมาเบาๆ มองมันอยู่สักก่อนจะเผลอพูดสิ่งที่คิดในหัวออกไป
“ดีนะที่เป็น KM ไม่ใช่ MK”
“...”
“ไม่งั้นรักเห็นทีไรคงหิวแย่แน่ๆ เลย แหะ”
……………….……………….…………
พิกัลป์หลอกให้ต้นรักใส่เกงในลูกไม้ น้องเลยโดนเขมือบหนักกว่าเดิมอีกสรุป55555ฮื่อออ
ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วนะคับ! เราจะตั้งใจแต่งออกมาอย่างดีเลยค่า~
ฝากติดตามด้วยนะคะ >___<
Twitter : @Themoonthere
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ♥