บทที่33 ร้ายกลายรัก
“แอ้ๆ”
“คุณ ดูลูกด้วยครับ”
“จ้า”
“ขอน้ำส้มคั้นหน่อยครับ”
“จ้า”
“แอ้ๆๆ”
“เปลี่ยนแพมเพิร์สให้ลูกด้วยครับ”
“จ้า”
เป็นภาพเหตุการณ์ที่ไม่เคยชินสำหรับเหล่าลูกน้องมาเฟียเสียเท่าไรแม้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเป็นเดือนแล้วก็ตาม ก็ใครจะไปชินกับภาพมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ที่สิ้นลายกลายร่างเป็นคนรับใช้ประจำตัวนายหญิงและคุณหนูอย่างนี้เล่า หลังจากที่คารอสหายป่วยเจ้าตัวคอยเอาอกเอาใจปรนนิบัติว่าที่นายหญิงและคุณหนูที่เป็นกามเทพตัวน้อยของฮิวส์ตันเนื่องจากจันทร์ยอมให้โอกาสเขาแล้วจากนั้นมาก็เป็นอย่างที่ทุกคนเห็นกันนี่แหละไม่ว่าคุณจันทร์จะให้ทำอะไรหรืออยากได้อะไร มาเฟียหนุ่มก็ไม่ขัด เรียกได้ว่าสิ้นลายมาเฟียจอมเลือดเย็นจนไม่เหลือเค้าเลย
“จันทร์จ๋า”
“ครับ”
“คุยกับคุณคาร์ลหน่อยได้ไหม ครับ”
คารอสที่จัดการเจ้าตัวน้อยเสร็จและให้หนูน้อยกินนมแล้วพูดกับจันทร์ด้วยท่าทางจริงจัง นี่คงถึงเวลาแล้วที่เขาจะจัดการปัญหาทุกอย่างให้จบสิ้นลงเสียที
“... ครับ”
ใจที่กำลังจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อร่างบางเงียบไปพักหนึ่งกลับเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นเมื่อร่างบางยอมตกลงรับคำเขา คารอสพาร่างบางออกมาคุยตรงระเบียงของห้องนอนเพราะกลัวลูกกินนมเสร็จแล้วจะงอแงเมื่อไม่เห็นพวกตน
“มีอะไรครับ”
จันทร์ถามเสียงเรียบ แต่คารอสคงไม่รู้หรอหว่าเจ้าตัวฝืนแค่ไหนเพราะระยะเวลาเกือบเดือนที่มีคารอสคอยดูแลตนนั้นทำให้จันทร์เห็นถึงความพยายามและความจริงใจของร่างสูง จริงอยู่ว่าเวลาแค่เดือนเดียวคงพิสูจน์อะไรไม่ได้มากนักเพราะคารอสอาจจะเล่นละครตบตาเขาก็ได้ ถ้าหากเป็นคนอื่นจันทร์อาจจะคิดอย่างนั้น แต่นี่คือคารอสมาเฟียเลือดเย็นผู้เอาแต่ใจ มาเฟียใหญ่แห่งอิตาลีที่ใครๆก็เกรงกลัว คงไม่ง่ายนักหรอกที่จะแสดงออกมาได้แนบเนียนขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งหมดที่คารอสทำมาจากใจจริงๆ แต่เขาจะแสดงอาการออกมาให้คารอสได้ใจไม่ได้หรอก
“คือ จันทร์จ๋า”
“...”
“ที่ผ่านมาเรื่องฉันทำร้ายร่างกายและจิตใจของจันทร์ถึงแม้มันจะเป็นความเข้าใจผิดแต่มันก็เป็นเพราะฉันเองที่เอาแต่ใจ ไม่แคร์จันทร์แม้แต่นิดเดียว แต่นั่นมันก็เป็นเพราะว่าฉันยังไม่รูหัวใจตัวเอง”
“...”
“ยังไม่รู้ว่าฉันรักคนที่ตัวเองทำร้ายจนต้องหนีไปจากฉัน แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าสิ่งสำคัญที่ฉันทำหายไปคืออะไร หัวใจไง หัวใจที่ฉันไม่เคยมี แต่กลับยกให้ใครบางคนไปอย่างไม่รู้ตัว และฉันจะไม่มีวันปล่อยหัวใจของฉันหายไปอีกแล้ว”
“...”
“ฉันรักจันทร์”
“ฮึก!”
จบสิ้นประโยคนั้นร่างบางก็หลุดสะอื้นออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ประโยคที่ร่างบางหวังว่าจะได้ยิน และวันนี้มันก็เป็นจริงแล้ว
“ร้องไห้ทำไมครับคนดี”
คารอสที่เห็นคนที่ตนรักร้องไห้ก็รีบดึงร่างบางมาปลอบ วงแขนแกร่งโอบประคองจันทร์อย่างรักใคร่ เพียงแค่เห็นน้ำตาของร่างบางใจเขาก็เจ็บแปลกๆ มาเฟียที่ฆ่าคนมานักต่อนัก เห็นน้ำตาของใครมาก็มากแต่ไม่เคยมีใครมีอิทธิพลกับเขาเหมือนกับคนตรงหน้าเขาเลย
“ฮึก พะ พูดจริงใช่ไหม”
“จริงสิจันทร์จ๋า”
“จ จะทำให้ผมเจ็บ ฮึก อีกไหม”
“ไม่มีวัน และจะไม่มีใครทำให้จันทร์จ๋าเจ็บแน่ ฉันสัญญา”
“พูดอีกที ฮึก!”
“ฮึ?”
“พูดประโยคนั้นอีกทีได้ไหมครับ”
“ฮึ? ประโยคไหนล่ะ”
คารอสแกล้งถามร่างบางอย่างไม่เข้าใจ จริงๆเขารู้อยู่แล้วว่าจันทร์หมายถึงอะไรแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ ก็ดูแก้มเนียนใสที่ตอนนี้กำลังแดงปลั่งอย่างน่ารักเพราะคนตัวบางกำลังเขินอยู่นั่นสิ แล้วอย่างนี้ใครจะอดใจไหวกัน
“ฟอด”
คารอสที่ทนความน่ารักของจันทร์ไม่ไหวก้มลงหอมแก้มบางฟอดใหญ่อย่างมันเขี้ยว เลยโดนกำปั้นเล็กทุบอกเข้าเต็มแรงแต่ก็ไม่ได้สะเทือนผิวของคนตัวใหญ่เลยสักนิด
“หื้อ”
“ว่าไง ประโยคไหน”
“ก็ที่คุณคาร์ลบอกว่า รัก”
ท้ายประโยคเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยินเพราะเจ้าตัวเขินอายที่ต้องพูดคำนั้นออกมา แม้ทั้งคู่จะอยู่แนบชิดกันเลยก็ตาม
“อะไรนะครับ”
“ก็ ที่บอกว่า รักไง”
เสียงหวานดังขึ้นจนพอได้ยินแต่คารอสก็แกล้งทำเป็นไขสือ ไม่ได้ยินที่จันทร์พูด
“อะไรนะ ไม่เห็นได้ยินเลย ที่บอกว่าอะไรนะ”
“ก็บอกว่ารักไง!”
เพราะเริ่มหงุดหงิดที่มาเฟียหนุ่มไม่ได้ยินเสียที จึงเผลอพูดคำๆนั้นออกมาเสียงดังลั่น จันทร์ชะงักเมื่อรู้ว่าตนพูดออกมาเสียงดังจนบอดิการ์ดที่ยืนอยู่บริเวณบ้านด้านล่างหันมายิ้มล้อเลียนให้ พอหันไปมองตัวต้นเหตุก็เห็นว่าคารอสยืนยิ้มอย่างมีเลสนัยอยู่ จึงทำให้จันทร์รู้ว่าตนเสียรู้มาเฟียจอมเจ้าเล่ห์เข้าให้แล้ว
“คุณคาร์ล หลอกผมเหรอ”
“ครับ”
ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาอายยังไม่หยุดยิ้ม แถมยังยอมรับออกมาน่าตาเฉยอีก
“คนเจ้าเล่ห์”
จันทร์เอ่ยว่าร่างสูงที่ยืนรอยหน้ารอยตาเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด มือบางระดมทุบอกแกร่งรัวเป็นการลงโทษที่ร่างสูงหลอกเขา
“โอ๊ย! จันทร์มันเจ็บนะครับ”
ร่างสูงร้องประท้วงเมื่อเริ่มเจ็บจิ๊ดๆเพราะร่างบางเล่นทุบมาไม่ยั้งอย่างนี้
“ก็จะทำให้เจ็บไง นี่แหน่ะ คนเจ้าเล่ห์”
เมื่อจันทร์ไม่ยอมหยุดแถมยังรัวกำปั้นหนักกว่าเดิม ร่างสูงที่ทนไม่ไหวจึงเบี่ยงตัวหลบกำปั้นน้อยๆเป็นพัลวัน แต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัดจึงทำให้จันทร์เสียหลักจะหงายหลังตกระเบียงชั้นสองเสียแล้ว
“เฮ้ย!”
“จันทร์!”
คารอสเรียกคนตัวบางอย่างตกใจ ดีที่เขาคว้าแขนเรียวไว้ได้ทัน มือใหญ่ดึงร่างบางเข้ามากอดอย่างปลอบประโลม
“ไม่เอา ไม่เล่นแบบนี้แล้วนะ”
คอรอสเอ่ยเสียงอู้อี้เพราะใบหน้าหล่อเหลาซบอยู่ที่รำคอระหงอย่างหวงแหน เมื่อกี้เขาแทบเป็นบ้า ใจหายไปหมดเพียงแค่คิดว่าร่างบางจะร่วงลงจากชั้นสองนี่ ร่างหนาสั่นเทาจนร่างบางสัมผัสได้อย่างชัดเจน
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ”
เสียงหวานเอ่ยปลอบคนตัวโตบ้าง
“สัญญาก่อนสิว่าจะไม่จากฉันไปไหนอีกแล้ว”
“... ครับ ผมสัญญา”
“ขอบคุณ ขอบคุณนะ ที่ให้อภัยคนเลวๆอย่างฉันที่เคยทำร้ายนาย”
“งั้นก็อย่าทำอีกนะครับ”
“จะทำได้ไง ก็รักขนาดนี้”
“บะ บ้า”
เจอคำพูดหวานแบบห่ามๆของมาเฟียหนุ่มเข้าไป จันทร์ก็อายจนหน้าแดงไปหมด
“ถึงจะบ้า ก็บ้าเพราะรักจันทร์นั่นแหละ”
“หยุดครับ ผมจะไปดูลูกแล้ว”
จันทร์ที่เจอมุกเสี่ยวๆของคนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะพูดแบบนี้เข้าไปถึงกับไปไม่ถูก อยากจะหนีไปจากตรงนี้เสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็โดนร่างสูงรั้งไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวสิครับ”
“อะไรอี...”
“คุณคาร์ลรักจันทร์นะ”
ประโยคที่จันทร์อยากฟังถูกเอ่ยออกมาอย่างชัดทุกถ้อยคำ ทั้งสองมองหน้ากันอย่างสื่อความหมายลึกซึ้ง ริมฝีปากอิ่มของจันทร์แลดูเย้ายวนจนคารอสอดใจไม่ไหวเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าเนียนใสของจันทร์เรื่อยๆจนริมฝีปากของทั้งสองเกือบแนบชิด ทั้งสองอยู่ใกล้กันเพียงคืบแต่ยังไม่ทันที่คารอสจะได้ลิ้มชิมความหวานจากริมฝีปากอิ่มที่ตนห่างมานานก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นมาช่วยชีวิตแม่แต่เหมือนแกล้งพ่อเสียก่อน
“แอ้ๆๆ”
“โจเซฟ!!”
และนี่เป็นครั้งแรกที่คารอสคิดว่าอยากจะส่งเจ้าลูกชายตัวดีไปฝากกับพี่ชายของตนสักพักหนึ่ง!!
The end