"ท่านช่างงดงามยิ่งนัก"
หวังลี่เหยาเอ่ยชมหญิงสาวที่นั่งนิ่งเรียบร้อยอยู่ตรงหน้า นางชอบผู้หญิงลักษณะแบบเยี่ยหลันฮวานัก กิริยามารยาทดูงดงามไปหมด ไม่ว่าจะนั่ง จะเดิน จะกิน จนอดใจไม่ไหวจึงต้องเอ่ยปากชมนางออกมา
"ท่านก็งดงามเช่นกันเจ้าค่ะ"
เนี่ยหลันฮวาตอบกลับเทพธิดาอย่างงุงงงที่อยู่ๆก็เอ่ยชมนางขึ้นมา
"ปกติท่านต้องอยู่แบบนี้ทุกวันหรือเจ้าคะ? "
"เจ้าค่ะ"
เยี่ยหลันฮวาต้องแปลกใจแต่เช้าเมื่ออยู่ๆ เทพธิดาหวังลี่เหยาก็มาหานางถึงจวนหลังจากงานปักปิ่นของนางเมื่อวาน ตัวนางเองเคยพูดคุยกับหวังลี่เหยาแค่สองสามประโยคเพียงเท่านั้น
ครั้งแรกที่นางเห็นหวังลี่เหยามาพร้อมองค์ฮ่องเต้หยางหลงไท่ นางพอจะได้ยินข่าวลือมาบ้างว่าหากบุรุษผู้ใดได้ตัวนาง บุรุษผู้นั้นจะได้เป็นหนึ่งในใต้หล้า พอเห็นนางมากับหยางหลงไท่ใจของนางก็สั่นไหว เทพธิดาหวังลี่เหยานางงดงามถึงเพียงนั้นบุรุษผู้ใดบ้างจะไม่ชื่นชม
นางหลงรักหยางหลงไท่มาตั้งแต่นางยังเด็ก พยายามเรียนรู้ ศาสตร์และศิลป์ทุกอย่างจนเชี่ยวชาญหวังเพียงว่า เขาจะมองมาที่นางบ้างหาใช่เพียงเพราะว่านางคือคู่หมั้นตามที่ผู้ใหญ่จัดการให้
ตลอดเกือบสิบปีที่หมั้นกันมาเขากับนางคุยกันแทบจะนับประโยคได้นางได้แต่เฝ้ารอให้มีราชโองการสมรสมาแต่ก็ยังไม่มาสักทีฝ่าบาททรงเลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนนางอายุสิบแปดปีเต็มแล้ว
“วันนี้คุณหนูจะเข้าเฝ้าไทเฮาไหมเจ้าคะ?” สีหน้าเยี่ยหลันฮวาดูซีดเซียวลงทันทีที่บ่าวคนสนิทของนางถามขึ้น
“ไม่ล่ะ วันนี้เทพธิดาหวังลี่เหยามาข้าจะอยู่ต้อนรับนางก่อน”
นางเข้าวังเพื่อจะไปพบหน้าฝ่าบาทจึงหาข้ออ้างว่าไปเยี่ยมไทเฮาแต่ทุกครั้งที่นางเข้าวังฝ่าบาทดูเหมือนจะหลบเลี่ยงนางอยู่เสมอ
“เจ้าทำไมหน้าซีดนักแม่นางเยี่ยเจ้าไม่สบายหรือไม่?”
หวังลี่เหยาเดินกลับเข้ามาพบเยี่ยหลันฮวากำลังนั่งอยู่กับบ่าวด้วยสีหน้าซีดเซียว วันนี้นางออกมาจากตำหนักพรรคพยัคฆ์ทมิฬตั้งแต่เช้าเพื่อหลบหน้าเว่ยหานฟง แต่ไม่รู้จะไปที่ไหนจะไปหาหยางหลงไท่ก็จะดูเป็นทางการไป ดีไม่ดีหากเว่ยหานฟงไม่พอใจหาว่านางไปหาผู้ชายอื่น พี่ชายหมาดๆ ของนางอาจตายได้ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครนึกขึ้นได้ว่ามีว่าที่พี่สะใภ้นี่นา นางจึงมาที่จวนท่านเสนาบดีแต่เช้า พอมาถึงได้คุยกันไม่กี่ประโยคเยี่ยหลันฮวาก็มั่วแต่ปักผ้านางถามคำตอบคำหวังลี่เหยานั่งดูจนเบื่อจึงขอตัวออกมาเดินเล่นด้านนอก
“ข้าไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะ”
“หากเจ้ามีอะไรไม่สบายใจเจ้าบอกข้าได้นะเจ้าคะ อันที่จริงอีกไม่นานท่านก็จะกลายเป็นพี่สะใภ้ข้าแล้วข้าควรจะเรียกท่านว่าพี่สะใภ้หรือพี่หลันฮวาดีเจ้าคะ”
ทันทีที่นางพูดจบน้ำตาของหลันฮวาไหลลงเต็มหน้านางสะอื้นจนน่าสงสาร จนทำให้หวังลี่เหยาต้องแตกตื่นตกใจ
‘เมื่อกี้นางยังดีๆ อยู่เลยร้องไห้ทำไมนะ’
“มันเกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ? บอกข้าได้หรือไม่?”
“ข้า..ข้าอาจจะไม่ใช่พี่สะใภ้ของท่านก็ได้ ฝ่าบาททรง..ทรงไม่ได้รักข้า..ทรงหลบหน้าข้าตลอด..ใจข้าเจ็บปวดยิ่งนัก ข้าต้องทำอย่างไรดี ฮือ ฮือ!ข้าหลงรักฝ่าบาทมาเกือบสิบปีที่ข้าเพียรพยายามทำทุกอย่างให้ฝ่าบาทเห็นว่าข้าเหมาะสมกับฝ่าบาท…แต่ไม่ว่าข้าจะพยายามเท่าไหร่ฝ่าบาทก็ไม่เห็นความรักข้าอยู่ดี…ข้าท้อใจยิ่งนัก ฮือ.. ฮือ..”
หวังลี่เหยาได้แต่กอดปลอบใจเพราะนางยังไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดเห็นเยี่ยหลันฮวาร้องไห้น่าสงสารนัก ชาติก่อนนางเห็นความรักในทุกรูปแบบทั้งฉันรักเธอ เธอไม่รักฉันแค่เปลี่ยนตัวแสดงเท่านั้น เดี๋ยวเป็นเรื่องของเพื่อน เดี๋ยวเรื่องของพี่สาว จนนางเข็ดขยาดกับความรักหนุ่มสาวปลอบใจเขามาก ก็เลยรับอารมณ์เสียใจของเขาไว้มากซะจนไม่อยากจะมีใครเพราะไม่อยากจะเป็นเหมือนคนที่นางเคยปลอบใจ
*********
หลังจากปล่อยให้เยี่ยหลันฮวาร้องไห้จนพอใจแล้วนางก็ค่อยๆ ระบายความไม่สบายใจทั้งหมดให้หวังลี่เหยาฟัง
“ตามที่พี่สาวพูดมาสิบปีที่ผ่านมาฝ่าบาทไม่เคยแสดงท่าทีอะไรเลยใช่มั้ยเจ้าคะ?”
“อืม”
“ทั้งยังคอยหลบหน้าพี่สาวทุกครั้งที่พี่สาวเข้าวังใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
“อืม” ดวงตาเยี่ยหลันฮวาแดงก่ำขึ้นมาอีกน้ำตาคลอเต็มตา
หวังลี่เหยาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“หากข้าบอกให้ทำอะไรบางอย่างพี่สาวจะทำตามที่ข้าบอกมั้ยเจ้าคะ? รับรองว่าฝ่าบาทต้องหันมามองพี่สาวแน่ๆ”
เยี่ยหลันพยักหน้าราวกับไก่จิกเลยทีเดียว
“อย่างแรกตั้งแต่เล็กจนโตพี่สาววิ่งตามฝ่าบาทอยู่ฝ่ายเดียวใช่มั้ยเจ้าคะ? บางครั้งเราต้องหาที่ว่างให้ฝ่าบาทได้มีโอกาสคิดถึงท่านบ้างเจ้าค่ะ การที่พี่สาวไปหาฝ่าบาททุกวันเป็นว่าถึงสิบปีมันกลับกลายเป็นความเคยชินไปแล้วเจ้าคะ "
"ความรักบางครั้งมันต้องให้เขาได้มีโอกาสคิดถึงหรือนึกถึงเราบ้าง ยกตัวอย่างเช่นพี่สาวชอบกินซาลาเปามาก บ่าวของพี่สาวก็หาซาลาเปามาให้พี่สาวกินทุกวัน ซาลาเปาอันนั้นอร่อยที่สุดที่พี่สาวเคยกิน แต่ถ้าหากว่าพี่สาวกินมันทุกวันพี่สาวยังจะคิดว่ามันอร่อยอยู่หรือไม่เจ้าคะ?"
“ความรักก็เช่นเดียวกันทั้งพี่สาวและฝ่าบาทยังไม่ได้มีความรักแบบหนุ่มสาวปกติทั่วไปตัวท่านเองโตมาก็ได้รู้ว่าต้องแต่งกับใครฝ่าบาทเองก็รู้ว่าจะต้องแต่งกับท่านมันไม่มีอุปสรรคอันใดเลยบางครั้งมันราบเรียบเกินไป”
“แล้วพี่ต้องทำอย่างไรเหยาเออร์?”
“พี่สาวก็แค่เปลี่ยนจากที่เคยทำเจ้าคะ อะไรที่พี่สาวเคยทำมาก็แค่ทำตรงกันข้าม”
“หากทำแล้วไม่ได้ผลเล่า?”
“ทำใจเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้พูดให้พี่สาวเสียใจนะเจ้าคะ ข้าอยากให้พี่สาวได้คิดสิบปีที่พี่สาวทุ่มเทไปหากฝ่าบาทยังไม่เห็นก็เปลี่ยนมาทุ่มเทให้ตัวเองบ้างรักตัวเองบ้าง ข้ารู้ว่าการแต่งงานของท่านกับฝ่าบาทยกเลิกไม่ได้ แต่ข้าก็อยากให้ท่านถอนใจออกมาแล้วรักตัวเองให้มาก แล้วกลับมาดูแลตัวเองให้มีความสุข วัยสาวของเรามันผ่านไปเร็วนะเจ้าคะ ท่านไม่อยากรู้หรือว่าหากท่านไม่ไปพบฝ่าบาทเลยฝ่าบาทจะเป็นเช่นไร”
“ตกลง พี่จะทำอย่างที่เจ้าบอกทุกอย่าง วันนี้เจ้าค้างกับพี่ ที่นี่ได้หรือไม่พี่ไม่อยากอยู่คนเดียว”
“ตกลงเจ้าคะ”
สำเร็จในที่สุดแผนหนีตายไปตั้งหลักจากการขอแต่งงานของเว่ยหานฟงก็ได้ผลย่างน้อยก็สองสามวันก่อนที่นางจะต้องให้คำตอบจากเขาจริงๆสักที ทำยังไงได้ก็คนมันอายนี่นา