หลังจากหวังลี่เหยาทำพิธีขอฝน ไม่สิ! นึกขอฝนผ่านไปได้3วันฝนก็เริ่มหยุดลง
วันนี้นางกับเว่ยหานฟงต้องลงพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมกับเหล่าข้าราชบริพารของพี่ชายหมาดๆ ของนาง
หวังลี่เหยารู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษอาจจะเป็นเพราะเมนูหลากหลายที่ทำจากปลาร้าของนาง
ถึงนางจะต้องต่อสู้กับใบหน้าแปลกๆ ของคนรอบข้างที่มองมา ตอนที่นางยกโถปลาร้าเข้าไปทำกับข้าวเองที่ครัว ถึงแม้พ่อครัวที่ทำอาหารอร่อยอันดับหนึ่งของแคว้นมาขอร้องว่าจะทำให้แต่นางไม่อาจไว้ใจ
'คนไม่เคยกินปลาร้าจะสู้ฝีมือของอดีตสาวอีสานไปได้อย่างไร'
เว่ยหานฟงทำหน้าแปลกๆ ทุกครั้งที่เห็นนางอยู่กับโถปลาร้า ไอ้สายตาสงสัยนางเข้าใจ! แต่สายตาสงสารนี่สิคือไร? ในระหว่างที่กำลังอิ่มอร่อยกับเมนูโปรด พยายามชวนหนุ่มรูปงามตรงหน้า ลองกินดูก็ไม่ยอม หลอกล่อทุกอย่างก็ไม่ยอมได้แต่คิดในใจว่า
‘คุณพลาดแล้ว!’
“วันนี้เจ้าจะทำอะไรบ้างเหยาเออร์” เขาพยายามหาทางเปลี่ยนเรื่อง ระหว่างที่กินอาหารเช้าอยู่นางชี้ชวนให้เขาลิ้มลองอาหารที่นางทำเองตรงหน้า
มันก็ดูน่ากินอยู่หรอกสีสันดูเผ็ดร้อนหากแต่ภาพที่เขาเห็นคือภาพปลาเน่าในโถที่ส่งกลิ่นแปลกๆ ก็กินไม่ลง ได้แต่สงสารนางหลายปีที่ผ่านมานางคงลำบากมากจนกินของแบบนี้จนชินชา
แววตาของเว่ยหานฟงตอนนี้เต็มไปด้วยความสะเทือนใจ
‘หากเขาได้พบเจอนางเร็วกว่านี่ ก็คงดี นางจะได้ไม่ต้องลำบากแบบนี้'
“วันนี้ข้าจะไปให้ความรู้ชาวบ้านเจ้าคะ”
เมื่อเขามองไปที่แก้มแดงระเรื่อของคนตัวเล็กนั่งอยู่ข้างๆ ริมฝีปากสีแดงจัด ส่งเสียงบางอย่างในลำคอ สาเหตุจากจานที่มีสีสันที่อยู่ด้านหน้าของนาง พาให้ข้างในร้อนลุ่ม รีบเบนสายตาไปทางอื่นพยายามไม่มองหน้าสาวงามที่ดูยั่วยวนตรงหน้า จึงบังคับสายตาให้มองไปที่มือของตัวเองที่ตอนนี้สั่นไม่หยุด
“ข้าไม่อยากให้พวกเขาคิดว่ามีข้าช่วยแล้วไม่ต้องทำอะไร จะกลายเป็นว่าทำอะไรเองไม่ได้ต้องรอให้ข้าหรือทางการไปช่วยดังที่เขาว่า
‘อย่าหาปลาให้เขาหากแต่ต้องสอนเขาจับปลา’
ข้าจะไปสอนเขาเรื่องการเกษตรแนวผสมผสานไม่ยึดติดกับการทำเกษตรแบบเดิมต้องรู้จักพลิกแพลงไปตามสถานการณ์หรือพื้นที่ที่ตัวเองอาศัยอยู่เจ้าคะ”
เว่ยหานฟงมองนางตาเป็นประกาย นางไม่เพียงแค่งดงาม ความสดใสและมีน้ำใจของนางทำให้เขาประทับใจ ยังมีความกระตือรือล้นที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นของนาง นับวันตัวเขายิ่งรักในตัวนางมากขึ้นทุกวัน
************
ตรงลานกว้างหน้าประตูวังหลวงผู้คนในแคว้นหยางและแคว้นอื่นพากันมารอเทพธิดาหวังลี่เหยากันแทบจะไม่มีที่ยืนฝนตกลงมา3วัน3คืนหลังจากที่ไม่ตกเลยมาหลายปีในตอนนี้ชาวแคว้นหยางเชื่อนางหมดใจ
วันนี้ราชสำนักประกาศว่าให้ตัวแทนแต่ล่ะบ้านมาพูดคุยกับเทพธิดาหวังลี่เหยา ชาวบ้านก็ดีอกดีใจที่จะได้สนทนากับเทพธิดา คนที่ไม่ได้พูดคุุยกันนางก็ขอเพียงได้ชื่นชมบารมีอยู่ไกลๆ
“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ” หวังลี่เหยาทำความเคารพหยางหลงไท่เต็มพิธีการ มีเพียงเว่ยหานฟงที่ทำหน้านิ่งเฉยชาภายใต้หน้ากากสีทองเหมือนเดิม เหล่าข้าราชบริพารที่ติดตามมาก็แตกตื่นพวกเขารู้ว่าคนที่ใส่ชุดคลุมหน้ากากสีทองคือใครแต่พวกเขาไม่รู้ว่าจักรพรรดิปีศาจจะรู้จักกับท่านเทพธิดาด้วย ข่าวลือที่แคว้นหนานพวกเขาได้ยินมาบ้างตอนนี้ได้อยู่ใกล้ขนาดนี้จะไม่ให้อกสั่นขวัญแขวนได้อย่างไร
“ตามสบายเถิดลี่เหยา วันนี้เรากับคนของเราขอมาฟังเจ้าด้วยเพื่อได้ความเข้าใจจะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาด้วยกัน รบกวนเจ้าแล้ว”
“ยินดีเพคะ”
นางก้าวเดินไปทางชาวบ้านที่รออยู่เหล่าองครักษ์ของนางรายล้อมอยู่รอบตัวของนางภาพชุดองครักษ์สีดำสวมหน้ากากสีเงินท่าทางดุดันรายล้อมร่างงดงามบอบบาง ใบหน้างดงามหวานซึ้งยามแย้มยิ้มในชุดสีขาวช่างดูแตกต่างที่ลงตัวยิ่งนัก
"วันนี้เรามาคุยกันเรื่องการทำไร่แบบสวนผสม จริงๆ แล้วเรื่องของคำว่าการทำไร่ สวน แบบผสม ไม่ได้มีคำจัดความที่แน่นอนหรือตายตัวว่า จะต้องปลูกพืชชนิดไหนหรือว่าต้องทำอย่างไรบ้าง แต่ความสำคัญและถือเป็นหัวใจหลักของการทำไร่ สวน แบบผสมก็คือควรจะต้องใช้พื้นที่ในบริเวณที่ทำให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด เลือกเอาพันธุ์ไม้หลายๆ ชนิดที่มีประโยชน์ต่อพื้นที่นั้นมาปลูก หรืออาจจะใช้การเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ดังกล่าว ไปด้วยก็ได้
ปัจจัยสำคัญก็คือทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกเอามาอยู่ในพื้นที่บริเวณนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนและอุ้มชูซึ่งกันและกัน อะไรที่มันจะขัดกันหรือมีโอกาสทำให้ผลผลิตที่จะได้ออกมาน้อยลงก็อย่าเลือกที่จะทำ โดยส่วนมากของการทำไร่สวน แบบผสม คนที่ทำก็จะมีพืชพันธุ์หลากหลายชนิดที่ถูกปลูกอยู่ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว อาทิ พืชจากป่า, ไม้ผล, ไม้ยืนต้น, พืชสวนครัว รวมไปถึงสมุนไพรด้วย และยังมีอื่นๆ อีกมากมาย หรืออาจจะเป็นการเลี้ยงปลาในร่องสวน ร่องนา
การเพาะพันธุ์ปลาในบ่อปลาที่อยู่ในพื้นที่ก็สามารถเป็นสิ่งที่สร้างไร่ สวน แบบผสมได้อย่างง่ายๆ ที่สำคัญคือการทำไร่สวน แบบผสมนี้ จะต้องเข้าใจในพื้นที่บริเวณนั้นๆ เป็นอย่างดีก่อนว่ามีสภาพพื้นที่เป็นอย่างไร ดินเป็นอย่างไร ฝนตกช่วงไหน อากาศโดยรวมเป็นอย่างไร เพื่อให้พืชหรือสัตว์ที่จะนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งสามารถอยู่ได้อย่างคงทนถาวรสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้ในอนาคต
"วันนี้เราก็จะมาพูดถึงเกี่ยวกับการปลูกพืชที่เรียกว่าพืชรากเลื้อยอย่างเช่น ผักบุ้ง ตำลึง ถั่ว ฟัก แฟง อื่นๆ อีกมากมายถ้าหากถามว่ามันคืออะไรพืชรากเลื่อยพูดง่ายๆ ก็คือผักที่ไม่ได้ขึ้นเป็นลำต้นที่แน่นอน แล้วสามารถเก็บผลที่เดิมได้นั่นเองเพราะว่าพืชรากเลื้อย มักจะออกดอกออกผลแบบที่เราไม่คาดคิดว่าจะไปอยู่แห่งไหนเพราะว่าส่วนยอดของมันจะหาอาหารมาล่อเลี้ยงลำต้นพูดง่ายๆ ก็คือว่าที่ไหนมีแหล่งอาหารที่สมบรูณ์เจ้าพืชลากเลื้อยก็จะเลื้อยไปในทางนั้น เขาถึงเรียกว่าพืชเลื้อย"
นางหยุดแล้วส่งสัญญาณให้คนของนางได้บอกกัับคนที่มาฟังว่าหากใครมีคำถามให้ยกมือขึ้นถาม
"และอีกอย่างก็คือการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ สัตว์ก็จำแนกออกไปอีกว่าสามารถเลี้ยงแล้วมันสามารถที่จะขายได้เร็ววัน หรือว่าเลี้ยงแล้วรอขายระยะยาวก็ว่ากันไปแล้วแต่ชาวบ้านแต่ละคนอย่างเช่นการทำฟาร์มบ่อปลาการทำฟาร์มปลานี้นั้นข้อดีของมันก็คือ 1 ปี จะ สามารถส่งปลาขายในบ่อเราได้ 3 ครั้ง ตก 4เดือน ขายได้ 1 ครั้ง ก็แล้วแต่ชนิดของปลาว่าเป็นปลาอะไร"
"วิธีการทำแบบฟาร์มพอเพียงก็จะเป็นการทำกรงเลี้ยงไก่ไว้บนบ่อเลี้ยงปลาหากไก่กินอาหารที่เรานำมาให้แล้วนั้นเวลาไก่ถ่ายออกมานั้นก็จะลงไปที่บ่อปลาแล้วก็จะกลายเป็นอาหารของปลาทำให้เราประหยัดและลดต้นทุนลงไปได้มากเลยและนี้ก็คือข้อดีของการทำการปลูกผักทำสวนทำไร่เลี้ยงสัตว์"
ระหว่างที่นางเริ่มอธิบายก็มีคนยกมือถามเป็นระยะภาพบรรยากาศเป็นไปด้วยดี
การช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างราชสำนักกับประชาชนทำให้ทั้งสองฝ่ายดูใกล้ชิดกันมากขึ้นเหตุการณ์ในวันนี้คนที่มีความสุขมากที่สุดคงไม่พ้น'หยางหลงไท่'
'พี่ชายบุญธรรมของนาง'