2เดือนผ่านไป….
วันนี้เป็นเป็นวันที่บีเอ็มจะต้องไปเอาเฝือกที่แขนออกหลังจากต้องใช้เวลาใส่อยู่นานกว่าปกติเกือบจะ2เดือนกว่าคงไม่ต้องพูดนะครับว่าเพราะอะไร และแน่นอนว่าบีเอ็มก็จะบังคับลากผมไปด้วยโดยให้เหตุผลว่าวันรี้ไม่มีเรียนอยู่ที่บ้านกับลูกน้องไม่ได้หวง = - = ข้ออ้างชัดๆให้ตายสิ!นับวันยิ่งเป็นคิงคองแก่ที่ขี้หึงเข้าไปทุกที
“อาบน้ำเสร็จยังไซเรน พี่รออยู่นะ” เสียงทุ้มจากด้านนอกดังผ่าประตูเข้ามา
“ใกล้แล้วก็บอกแล้วว่าไม่อยากไปยังจะมาบังคับอยู่นั้นแหละ”ผมพูดสวนกลับไปพลางลูบไล้ร่างกายผ่านเนื้อตัวที่มีน้ำจากฝักบัวสาดใส่
“ถ้าขืนยังชักช้าพี่จะหมดความอดทนแล้วเข้าไปช่วยอาบให้เราแล้วนะ”
นั้นไงครับพอเจอประโยคนั้นผมก็เลิกอ้อยอิ่งทันทีรีบอาบน้ำถูตัวลวกๆก่อนจะคว้าเสื้อคลุมขึ้นมาสวมลวกๆแล้วรีบเดินออกไปทันทีเพราะไม่อยากให้คนตัวสูงมาช่วยอาบเพราะอาบด้วยกันที่ไรเป็นได้ทำอย่างอื่นทุกทีแล้วยิ่งจะถอดเฝือกแล้วด้วยขืนมาโดนน้ำมีหวังได้ใส่เผือกต่อยาวๆอีกแน่ๆ หลายอาทิตย์ผ่านมานี้ร่างสูงเปลี่ยนเฝือกมาไม่รู้กี่รอบแล้วแต่ก็อย่างว่าละครับจะใส่ไว้ทำไมก็ไม่รู้ในเมื่อคนใส่ดูจะชิวและไม่สะทกสะท้านกับแผลเย็บที่เปื่อยหรือปริเลยสักครั้งทำเหมือนว่าไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนเลยด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องเลยน้องเสร็จแล้ว เข้ามาเดี๋ยวไม่ได้เอาเฝือกออกกันพอดี”ผมพูดเอ็ดขาเรียวก็เดินออกจากห้องน้ำมองคนตัวสูงที่แต่งตัวเรียบร้อยนั้งรออยู่แล้วด้วยสีหน้าเอือมๆ
“ฮ่าๆก็จริงจะได้เอาออกไปสักทีลำคาญจะแย่แล้วอีกอย่างเอาเฝือกออกพี่จะพาเราไปทำธุระต่อ”เสียงทุ้มหัวเราะก่อนจะพูดบอกผมพร้อมกับล้วงหยิบหมากฝรั้งขึ้นมาเคี้ยวตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจนะครับว่าจู่ทำไมคนตัวสูงถึงได้เคี้ยวหมากฝรั้งพอทนความสงสัยของตัวเองไม่ได้เลยถามไปคำตอบที่ได้กลับมาคือไม่อยากดูดบุหรี่เพราะดูท่าผมไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ซึ้งมันก็จริงยิ่งทำให้ผมหัวใจพองโตขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อคนตัวสูงเก็บรายละเอียดในตัวผมว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไรมันยิ่งทำให้ผมโอนอ่อนมอบใจให้ไปเรื่อยๆอย่างห้ามไม่อยู่
ผมละสายตาจากหน้าหล่อที่เคี้ยวหมากฝรั้งกำลังดูหน้าจอไอเพดอยู่ด้วยไปหน้านิ่งเรียบเหมือนกำลังเช็คงานสักอย่างแบบทุกครั้งหันเข้าหาตู้เสื้อผ้าก่อนจะเปิดหยิบเสื้อเชิ้ตสีครามกับกางเกงยีนส์ขาเดพและชั้นในจัดการปลดเสื้อคลุมออกก่อนจะจัดการใส่ชั้นในแล้วก็กางเกงตามด้วยเสื้อแต่ยังไม่ทันจะได้ติดกระดุมจู่ๆก็โดนสวมกอดจากทางด้านหลังแบบไม่ทันตั้งตัวจนต้องเบี่ยงหน้าหันไปหาเจ้าของวงแขนที่เลิกสนใจไอเพดไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้
“หอมจัง”เสียงทุ้มกระซิบบอกผมก่อนจะก้มส่งปากหนาลงมาจุ๊บกรีบปากผมที่เบี่ยงหน้าไปหารวดเร็วแบบไม่ให้ผมได้ตั้งตัวอีกรอบแล้วรีบผละปากออกไป
“ทำบ้าอะไรเนี่ยพี่ ผมจะแต่งตัวออกไปเลยอึดอัด-////-”ผมพูดพร้อมกับก้มหน้าลงตั้งท่าจะติดกระดุมแต่ก็โดนมือหนาคว้าเข้าที่กระดุมด้านล่างของผมตัดหน้าไปซะก่อนจากนั้นมือหนาก็ค่อยๆไล่ติดกระดุมให้ผมที่ละเม็ดๆจากด้านล่างขึ้นมาเรื่อยๆอย่างเอาใจส่วนผมก็ได้แต่ก้มมองมือที่เลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงหน้าอกด้วยหัวใจที่เต้นรัวแก้มเริ่มเห่อร้อนกับการกระทำที่ร่างสูงทำให้
“เสร็จแล้ว”
ฟอดดดดดด
เสียงทุ้มบอกพร้อมกับก้มลงมากดหอมแก้มผมแรงๆหนึ้งที่เป็นการตบท้ายก่อนจะผละตัวออกไป
“อะอื้ม ขอบคุณครับ-///-”ผมอ้อมแอ็มพูดขอบคุณด้วยใบหน้าที่ขึ้นแล้วไปหันไปมองก่อนจะเดินนำออกจากห้องมาก่อนด้วยความรู้สึกเขินแบบตัวจะแตกแต่ไม่นานร่างสูงก็เดินเข้ามาประชิดตัวแล้วใช้มือสอดเข้ามากอดเอวไว้ผมหลวมๆแสดงความเป็นเจ้าของเหมือนทุกครั้งผมแค่ชะงักนิดๆกับการกระทำนั้นก่อนจะเดินต่อไปไม่ได้คัดค้านอะไรเพราะชินแล้ว
.
.
.
หลังจากไปถอดเฝือกที่โรงพยาบาลเสร็จบีเอ็มก็พาผมแวะหาอะไรกินก่อนจะขับพาผมมาที่ร้านๆนึงดูเหมือนจะเป็นร้านสักเพราะดูจากรูปลวดลายสักที่ติดโชว์อยู่หน้าร้านเต็มไปหมดผมหันมองร่างสูงที่กำลังปลดสายเบลล์หลังจากดับด้วยความสงสันก่อนจะตัดสินใจถามออกไป
“พามาที่นี่ทำไมอะ?”
“พี่จะสักเพิ่ม”หน้าหล่อหันมาพูดบอกผมพร้อมรอยยิ้มยิ่งทำให้คิ้วผมขมวดงุ้นเข้าหากันไปอีก
“ไปเถอะน่า ไปให้กำลังใจพี่ตอนสักหน่อย”เสียงทุ้มอ้อนเลยบอกผมพร้อมกับขยับตัวยื่นมือมาปลดสายเบลล์ให้ผมเรียบร้อยก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไปส่วนผมก็ลงตามไปด้วยความรู้สึกงงนิดๆแต่ไม่ค้านอะไรเดินตามร่างสูงเข้าร้านสักไปเงียบ
“ไง บีเอ็ม”เสียงเจ้าของร้านร่างสูงหล่อรอยสักเต็มตัวไปถึงคอเอ่ยทักบีเอ็มทันทีที่พวกเราเดินเข้าร้านมา
“ไงเจมส์ คิวว่างไหม?”บีเอ็มถามเจ้าของร้านเสียงเรียบ
“ถึงไม่ว่างแต่สำหรับนายฉันเคลียร์คิวให้ได้เสมอเพื่อน”เจ้าของร้านที่ชื่อเจมส์พูดพร้อมกับเบนสายตามาหาผมก่อนจะถามขึ้นมาด้วยความสงสัยก่อนจะเว้นวรรทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะตาโตแล้วพูดต่อ “ใครน่ะ?.....หรือจะเป็น”
“อืมเมีย”เสียงทุ้มตอบกลับอย่างไม่นึกอายส่วนผมนั้นแทบอยากจะมุดพื้นหนีไปจากตรงนี้เลยทีเดียว
“เจ๋งวะ! เอาจริงดิ”เจมส์พูดออกมาเสียงทึ้งมองผมกับบีเอ็มสลับกันไปมาอย่าไม่อยากเชื่อ
“เออจริงถามมากจังวะสรุปจะสักให้ไหม?”เสียงทุ่มเอ้ยบอกก่อนจะถามติดลำคาญ
“ฮ่าๆ ได้ๆจะสักตรงไหนนั้งรอแป๊บขอเข้าไปคุยกับลูกค้าข้างในก่อน”เจมส์พูดบอกแล้วเดินเข้าไปในห้องๆนึงที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องสักไม่นานก็เดินออกมาพร้อมกับผู้ชายคนนึงที่เดิมตามหลังออกมาคาดว่าน่าจะเป็นลูกค้า
○๐○~
‘โอโห้นี่ถึงกับไล่ลูกค้าให้เลยเหรออะไรจะขนาดนั้น!’ผมคิดแล้วใจมองตามลูกค้าผู้ชายคนนั้นที่เดินออกจากร้านไปอย่างอึ้งๆ
“ไม่ต้องตกใจครับผมยังไม่ได้เริ่มสักแค่ให้ไปนั้งรอในห้องโชคดีที่บีเอ็มมันมาซะก่อน อีกอย่างไม่ใช่ลูกค้าสำคัญอะไรคุยกันได้”
ผมหันไปยิ้มแหย่ให้กับเจมส์เมื่อจบประโยคบอกกล่าวทั้งที่ไม่ได้ถามแต่ดูเหมือนว่าเขาจะดูสีหน้าของผมออก
“ว่าไงจะสักตรงไหนสักรูปอะไร?”เจมส์หันไปถามบีเอ็มที่นั้งอยู่ข้างผม
“สักข้อความตรงนี้”เสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนจะชี้นิ้วไปตรงที่มีผ้าก็อซปิดแปลไว้ที่เพิ่งจะเอาเฝือกออกไป
“พี่จะบ้าหรือไง ! ไม่ได้นะเพิ่งเอาเฝือกออกเองนะที่สำคัญแผลยังไม่แห้งดีด้วย!!”
“แต่พี่ไม่เป็นไรพี่ไม่เจ็บ”หน้าหล่อหันมาพูดกับผมยิ้มๆประมาณให้รู้ว่าไม่เจ็บจริงๆ
“ไม่เอาห้าม! จะสักผมไม่ว่าหรอกนะแต่ไม่ใช่ตรงนี้ ถ้าไม่เชื่อกันผมจะกลับไปอยู่บ้านไม่อยู่กับพี่แล้ว!!”ผมตะหวาดบอกร่างสูงไม่สนเจมส์เจ้าของร้านแล้วตั้งท่าจะลุกหนีออกจากร้านแต่ก็โดนคว้าข้อมือถูกดึงให้ไปนั้งตักแกร่งของคนอีกซะก่อน
“โกรธขนาดนั้นเลย เป็นห่วงพี่เหรอไง? ดีใจจังเมียห่วง”เสียงทุ้มเอ่นถามเสียงเจ้าเล่ห์มือหนากระชับอ้อมแขนรั้งเอวผมไว้แน่นขึ้นเมื่อผมพยายามขยับดิ้นเพื่อจะหนีออกจากการถูกกักตัว
‘รู้อยู่แล้วยังจะมาถามกวนอีกไอคิงคองแก่!’
“...”ผมไม่ตอบพยายามดิ้นแล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างงอนๆ
“โอเคยอมแล้ว งั้นพี่สักตรงอื่นก่อนก็ได้”เสียงทุ้มเอ่ยบอกอย่างจำทำเอาผมหยุดดิ้นแล้วหันหน้าไปหาหน้าหล่อก่อนจะพูดถามออกไป
“แล้วพี่จะสักตรงไหน?”
“หน้าอกข้างซ้ายคำว่า....SIREN”
“-/////-”เขินสิครับรอไร
“อะแฮ่ม นี่พวกนายลืมไปหรือเปล่าว่าฉันยืนหัวโด่อยู่เนี่ย”
สิ้นประโยคของเจมส์ผมก็หันไปทุบอกแกร่งก่อนจะพูดบอกเสียงสั่นด้วยใบหน้าที่ขึ้นสี
“ปะปล่อยได้แล้ว”
ผมรีบลุกออกจากตักแกร่งทันทีที่คนตัวสูงยอมปล่อยก่อนจะทิ้งตัวลงนั้งข้างๆพลางก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย
“เคลียร์กันได้แล้วใช่ไหม ? งั้นนั้งรอแป๊บขอเข้าไปเอาเครื่องก่อนถ้าแค่อักษรไม่กี่ตัวไม่จำเป็นต้องเข้าในห้องหรอกสักตรงนี้แหละ”เจมส์พูดบอกยิ้มๆ
“อืม”บีเอ็มรับคำสั้นๆ
“ทำไมต้องทำขนาดนี้ ?”ผมเงยหน้าขึ้นถามคนตัวสูงหลังจากที่เจมส์เดินหายเข้าไปในห้องๆนึงแล้ว
“รักไง ไม่มีอะไรซับซ้อนพี่อยากให้เราอยู่กับพี่ไปตลอดไม่ว่าจะชื่อหรือตัว:)”พูดพร้อมส่งมือหนามาลูบข้างแก้มที่แดงของผมเบาๆไปด้วย
“พี่อะ แค่นี้ผมก็หนีไปไหนไม่รอดแล้ว”
“มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วไม่ว่าจะหนีหรือใครจะมาเอาตัวน้องไปพี่ก็จะไปตามเรากลับมา”ร่างสูงพูดบอกเสียงหนักแน่นและจริงจรังทำเอาหัวใจผมเต้นแรงอีกครั้งหลังจากสงบลงไปได้ไม่นาน
“ให้มันจริงเถอะ”ผมพูดขึ้นเสียงเบาจนได้ยินเสียงหัวเราะของคนข้างกายที่ดังขึ้นเบาๆ
ไม่นานเจมส์ที่ใส่ถุงมือเรียบร้อยก็เดินออกมาพร้อมกับเครื่องมือที่จะใช้สัก
.
.
.
.
หลังจากนั้งดูบีเอ็มสักเสร็จใช้เวลาไม่นานก็เสร็จตอนนี้หน้าอกแกร่งข้ายซ้ายมีชื่อผมเด่นหลาก่อนที่บีเอ็มตะติดกระดุมที่ปลดออกให้เข้าที่ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าไปคุยข้างในห้องกันปล่อยผมให้นั้งหน้าแดงค้างที่เห็นชื่อตัวเองอยู่บนอกของคนตัวสูงไม่นานบีเอ็มก็เดินออกมาโดยมีเจมส์เดินตามหลังมาติดๆ
ก่อนที่ร่างสูงจะหันมาเรียกผมที่มัวนั้งเพ้ออยู่ให้ได้สติเพื่อกลับบ้าน ผมกับบีเอ็มเดินออกมาจากร้านหลังจากที่ผมเอ่ยลาเจมส์เสร็จกำลังจะเดินตรงไปที่รถแต่ไม่ทันจะได้ก้าวพ้นตัวร้านเสียงคนที่ผมคุ้นเคยมากที่สุดก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“ที่ไม่กลับบ้านเป็นเดือนๆ โกหกที่บ้านว่ามานอนบ้านเพื่อน สาเหตุทั้งหมดคงมาจากไอผู้ชายคนนี้ซินะ ไซเรน”
ผมค่อยๆหันกลับไปหาต้นเสียงด้วยใจที่สั่นรัวก่อนจะรู้สึกถึงขาที่เริ่มอ่อนแรงขึ้นมาดื้อๆจนแทบจะทรุดเมื่อเห็นชัดๆว่าเป็นใครแต่โชคดีที่บีเอ็มคว้ายึดตัวผมไว้ซะก่อนไม่งั้นผมคงได้ล้มลงไปจริงๆผมมองร่างสูงใบหน้าหล่อคล้ายผมแต่ดูดุดันร่างกำยำและสูงกว่าตรงหน้ากำลังมองมาที่ผมกับบีเอ็มด้วยใบหน้านิ่งเรียบยากจะคาดเดาอารมส์ได้
“พี่ไซโค!”
#.............
1เม้น=1กำลังใจ🙏
ติชมได้ขอบคุณครับ❣
เจมส์
#บุคคลในภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแค่อิมเมจที่หยิบขึ้นมาเปรียบเทียบเท่านั้น#