บทที่ 5
จุดเริ่มต้น
“ไอ้เด็กเหี้ย!!”
คำแรกที่ออกมาจากปากลุงเลือดผมนี่พุ่งพล่านเลยทีเดียว…เจอไอ้กัสสองสามครั้งถืออภิสิทธิ์เรียกว่าเด็กเหี้ยเลยงั้นดิ…อย่างนี้ต้องเจอกันหน่อยแล้วหล่ะ…คนอย่างไอ้กัสยอมใครที่ไหนว่ะ…
“เรียกใครเด็กเหี้ยลุง”
และก็เป็นผมที่เปลี่ยนบทมายืนหาเรื่องคนตรงหน้าแทนไอ้พี่ต๊งเหน่ง…
“ใครลุงมึง?”
ผมกับไอ้ลุงยืนจ้องหน้าเข้าหากันเหมือนทั้งร้านมีแค่ผมกับไอ้ลุงปากหมา…
“แล้วใครเด็กเหี้ยมึงหล่ะว่ะ”
“ไอ้เหี้ยนี่!”
ลุงมันถลาจะเข้ามาต่อยผมจนผมเกือบเสียหลักหงายท้องไปด้านหลังแต่ดีที่ได้ไอ้เหน่งมันมาช่วยผมไว้ทัน…ส่วนพวกพี่ๆคนอื่นก็คอยกันท่าให้ผมเพื่อที่จะไม่ให้ไอ้ลุงมันเข้ามาต่อยผมได้…
“คดีมึงกูยังไม่เคลียร์…กูจะแจ้งความจับมึง”
“…!”
หน้าไอ้ลุงมันดูเหนือขึ้นมามาก…แล้วตอนนี้ไอ้ลุงยังมายืนชี้หน้าต่อว่าผมอีก…ไอ้กัสมันกลัวซะทีไหน…ผมถกแขนเสื้อเตรียมสู้อย่างเต็มที่…
“ผมก็จะแจ้งความกลับเหมือนกัน!”
“…”
“โทษฐานเบี้ยวค่าก๋วยเตี๋ยวผมก่อน!”
จากที่พี่ต๊งเหน่งเป็นคนเปิดประเด็นตอนแรก..แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องของผมกับไอ้ลุงมากกว่า…ซึ่งผมก็ยืนจ้องหน้าลุงไม่วางตา…ความโมโหยิ่งทวีคูณเพราะไม่กี่นาทีที่ผ่านมา…ผมเกือบโดนลุงต่อย…คิดละเสียฟอร์มไอ้กัสฉิบหาย…
“อ้อ…ไอ้เหี้ยนี่ออที่ติดเงินมึง…หึ”
เสียงพี่ต๊งเหน่งพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ…แต่มันไม่พูดเปล่าไงพี่มันมองเหยียดแบบกวนตีนมาทางไอ้ลุงมัน…ส่วนเพื่อนของลุงก็เกือบพุ่งเข้าใส่พี่ตงเหน่งแต่ดีที่คนในกลุ่มไอ้ลุงรั้งไว้ทัน…
“มองคนอื่นแบบนี้น่าเอาส้นตีนยัดปากฉิบหาย!”
“มึงก็เข้ามาดิไอ้สัส!!”
“ใจเย็นก่อนไอ้ชัช!!”
ผมแทบรั้งไอ้พี่ต๊งเหน่งแทบไม่ทัน…ดีที่พวกพี่อัทมันเข้ามาเสริม…ไอ้พี่ฝั่งผมแม่งก็พร้อมบวกตลอดเลยไอ้ห่า..แล้วดูไอ้ตัวอย่างผมมันจะไปห้ามแรงควายได้ที่ไหนอ่ะ…
“หยุด!!...กูบอกให้หยุด!!...มึงจะไปหาเรื่องเขาทำไมว่ะไอ้เหี้ยนี่!!!”
ไอ้พี่ยอดตะโกนด่าพี่ต๊งเหน่งเพื่อเรียกสติ…ดีหน่อยที่พวกพี่ในแก๊งไม่ได้ใจร้อนไปทุกคน…เวลาจะมีเรื่องมันก็จะมีบางส่วนอยู่พี่ยอดเป็นคนห้ามและเรียกสติก่อนตลอด…
เหตุการณ์จากที่มีแค่กลุ่มเล็กเริ่มใหญ่ขึ้นเพราะพวกพ้องโต๊ะผมเข้ามาสมทบ…ทำให้มันดูจะเป็นเรื่องใหญ่จนไม่นานเจ้าของร้านก็เดินเข้ามาหาพวกผมทันที…
“เอ่อ…ขอโทษนะครับ…ถ้าลูกค้าต้องการมีเรื่อง…ให้เชิญออกจากบริเวณร้านด้วยครับ”
เจ้าของร้านเดินมาพูดกลางวงที่มีแต่ผู้ชายร่างใหญ่ๆรอบตรงหน้าร้านเกือบยี่สิบคนได้…ไอ้เอกเพื่อนผมที่กำลังเมาๆส่างเมาตั้งแต่ได้ยินเสียงพี่ต๊งเหน่งมันตะโกนหาเรื่องไอ้ฝั่งลุงแล้วครับ…
“ไอ้เหี้ยกัส!...คนนี้หรอว่ะที่มึงไปมีเรื่องด้วย”
ไอ้เอกสะกิดที่ต้นแขนผมแล้วเอียงตัวมากระซิบที่ข้างหูผมให้ได้ยินกันแค่สองคน…
“เออดิ…แม่งโลกกลมฉิบหาย”
“แต่คนที่มึงมีเรื่องดูท่าโหดอ่ะ…ดูท่าคงจะเป็นคนมีตังค์ด้วยมึง”
“มีตังค์แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยว…เหอะ”
“แต่แม่ง…สักอย่างหล่ออะสัส”
ประโยคแรกผมเห็นด้วยเพราะรอยสักที่เต็มสองแขนของไอ้ลุงมันเลยเพิ่มความดิบเถื่อนในตัวคูณสอง…แต่ถ้าประโยคที่สองนี่ไอ้กัสไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง…ถึงความเป็นจริงจะน่าตาดีก็เถอะ…แต่ผมเกลียดขี้หน้าลุงโครตๆจะบอกให้…หล่อแล้วกินได้ป่ะ…ก็ไม่ได้เพราะงั้นเกลียดหน่ะถูกต้องที่สุด!...
“เขามองเหมือนจะแดกมึงไปทั้งตัวเลยไอ้กัส”
“เออกูรู้แล้ว!...มึงก็เบาๆหน่อยไอ้ห่านี่!”
มันเริ่มจะเสียงดังผมเลยหันไปด่ามันก่อนที่ไอ้ลุงที่กำลังมองผมอีกฝั่งหนึ่งจะได้ยิน
“มึงจะเอาไง…ข้องมากถ้าไม่จบต่อกันข้างนอก!...เอาหน่อยป่าว!”
ไอ้พี่ต๊งเหน่งมันยังไม่หยุดในการหาเรื่องครับ…โธ่ไอ้พี่เวร…ผมที่ตัวเองมีเรื่องติดตัวอยู่ก็ไม่อยากจะให้มันบานปลายเลยเดินเข้าไปหาไอ้พี่ตงเหน่งเพื่อบอกให้กลับ…
“พี่กลับเหอะ…ผมขอล่ะ”
“หึ…”
ผมเอียงตัวไปกระซิบพี่มันเบาๆ…แล้วทำไมไอ้ลุงมันยังไม่หยุดมองผมอีกว่ะ!...แล้วทำเสียงเมื่อกี้มันหมายความว่าไง…
“เป็นไรลุง…สันนิบาตลงคอออ”
ผมยืนถามอย่างไม่เกรงกลัว…ไอ้ลุงที่ได้ฟังประโยคที่หลุดออกมาจากปากผมก็ถึงกับหน้าตึงไปเลย…
“ปากดี”
ทั้งผมและลุงต่างกันสาดสีกันด้วยคำพูดไปมา…ใครจะยอมก็ยอมไปเถอะ…เรื่องเถียงๆด่าๆนี่ไอ้กัสไม่ยอมหรอกเว้ย…เพราะดูท่าใช้กำลังผมก็ตายคาตีนลุงอ่ะ…
“ปากก็ปากน้องกู…มึงเสือกเหี้ยไรด้วย!”
เวร…ไม่ทันไรเสียงของไอ้พี่ต๊งเหน่งก็พูดสรวนขึ้นมาอีกรอบ…ไอ้ผมเนี้ยไม่อยากให้ถึงกับมีเรื่องชกต่อยขนาดนั้น…มันจะต่อยเอามันส์ก็ได้แต่ผมเสียดายค่าเสียหายที่ต้องจ่ายให้กับร้านอ่ะไม่ใช่ไรหรอก…ถึงพวกพี่ๆผมจะมีตังค์แต่มันก็ควรที่จะมีเรื่องเพราะเรื่องผมป่ะวะ…
“ก็มาดิ!!!”
“ใจเย็นก่อนไอ้แมน!”
“มึงเข้ามา!!...เข้ามา!!!”
เหมือนอารมณ์ลุงมันสุดขีด…ทำท่าทีจะพุ่งเข้าใส่พี่ต๊งเหน่ง…ส่วนผมใช้แรงทั้งหมดบังและผลักฝั่งของผมสุดแรง…อีกฝั่งก็จับไอ้ลุงเอาไว้…
“ใจเย็นเว้ย!!!...พี่อย่ามีเรื่องเลย…กลับเหอะ”
“แต่!...”
“นะพี่…ผมขอหล่ะ…ผมไม่ได้อยากมีเรื่องอ่ะ”
“…”
“กลับเหอะพี่”
พี่ต๊งเหน่งมันหันมามองผมด้วยสีหน้าที่พร้อมบวกมาก…แล้วหันกลับไปจ้องหน้าฝั่งลุง…ดีหน่อยที่พี่มันฟังคำขอร้องผม…
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!”
แต่ก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากบริเวณตรงนี้ยังไม่วายชี้นิ้วขู่ไอ้ลุงโดยตรงไปอีกละส่วนผมที่ยังยืนเผชิญหน้าไอ้ลุงด้วยอารมณ์หมั่นไส้กับความเกลียดที่มีเลยพุ่งมือตัวเองพร้อมกับชูนิ้วกลางใส่ไปตรงหน้าไอ้ลุงจนมันผงะเล็กน้อย…แล้วรีบวิ่งหันหลังไปหาพวกพี่ที่กำลังเดินออกจากนอกร้านด้วยความไว…สะใจเว้ย!...
.
.
.
.
.
11:50 น.
“พี่กัสตื่นหรือยัง…หมวยเหงาไม่มีคนคุยด้วย”
“น้องหมวยโทรมาพี่ก็ตื่นทันทีเลยจ๊ะ”
อย่าว่าแต่ตื่นเลยผมยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน!...หลังจากที่แยกย้ายกันกลับผมกับไอ้เอกก็บิดรถตรงมาที่บ้านกันเลย…พอคิดถึงหน้าเมื่อคืนแล้วเสียดาย…ถ้าพวกพี่ๆไม่ห้ามป่านนี้ไอ้ลุงนั่นนอนหยอดข้าวต้มไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว…
“จริงหรอ…พี่กัสพูดกับสาวอื่นบ่อยหล่ะซิ”
“โธ่หมวยจ๋า…ใจพี่มีแต่หมวยทั้งทรวงพี่เลยจ๊ะ”
ไอ้การที่จะให้สาวมันติดแห่เราเนี้ยเราต้องมีการพูดอย่างมีชั้นเชิง…ผู้หญิงหยอดนิดหยอดหน่อยก็ติดไอ้กัสแล้ว…ระดับผมไม่มีพลาด…ถึงพูดออกไปจะเป็นเรื่องตอแหลก็เถอะ…ใครสนล่ะวะ…คนมันหล่อเปลี่ยนสาวๆวันละคนก็ไม่แปลก…
“ปากหวานอีกแล้วนะพี่กัสอ่า”
“รู้ได้ไงว่าปากพี่หวาน…หมวยเคยชิมแล้วหรอ”
เอาหน่อยวะ…หยอดไปๆไอ้กัส…
“ยัง…หมวยเดาเอาไง”
“ยังแล้วอยากลองไหมหล่ะคร้าบ”
มุขเด็ดที่เตรียมคิดไว้นมนานมันได้ใช้หนำใจไอ้กัสมันละเว้ย…
“บ้า…แต่คืนนี้หมวยว่างนะ”
คำตอบแรกเหมือนจะไม่เล่นด้วย…แต่พอมาประโยคสองนี่ผมกับยิ้มเลยครับ…น้องหมวยคนนี้ผมหยอดไม่ถึงอาทิตย์ก็ติดกับดักผมแล้ว…ก็คนมันหล่อต้องทำใจ…
ปี๊ด! ปี๊ด! ปี๊ดๆๆ!
เสียงบีบแตรมอไซต์ฯอยู่หน้าบ้านจนหนวกหูผมไปหมด…ใครมันจะมาบีบอะไรตอนนี้วะ!..
“บีบหาพ่องมึงหรอ!!”
“เสียงอะไรดังจังเลยอ่ะพี่กัส”
น้องหมวยถามผมมาจากปลายสาย…ผมเด้งตัวลุกจากที่นอนแล้วชะเง้อมองลอดหน้าตาบนหัวเตียง…แล้วก็ได้คำตอบ…ไอ้เอก…ไอ้เวร!...กวนเวลากูจริง…
“เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ…เดี๋ยวพี่โทรกลับ”
“แล้วคืนนี้ว่าไงอ่าพี่กัส”
“เดี๋ยวพี่โทรกลับหานะจ๊ะน้องหมวยจ๋า”
“เร็วนะ…หมวยคิดถึง”
“จ๋า”
ผมปิดสนทนาจากน้องหมวยถึงแม้ในใจอยากจะดิวคืนนี้ต่อให้เสร็จก็เถอะ…ไม่ได้หรอกครับปล่อยไว้นานเดี๋ยวจะเสียเชิงชายของไอ้กัสคนนี้เอา…
“ไอ้กัสโว้ยยย!!!...แม่มึงเขาให้กูมาตามไปร้าน!”
“…”
“ตื่นยังไอ้เหี้ย!!...แม่มึงจะแดกหัวมึงแล้วนะโว้ย!!!”
“…”
“ไอ้กัส!!!!”
“เออไอ้สัส!!...รู้แล้ว!!...มึงจะตะโกนหาพ่องมึงหร๊อ!”
ผมชะโงกหน้าไปตอบไอ้เอกที่ยังนั่งค่อมอยู่บนมอไซต์คันแดงมัน...เครื่องก็ไม่ดับเสียงรถมันก็ใช่ว่าจะเบา…ที่ตะโกนพูดกับผมนี่ไม่ใช่ไร…ตะโกนแข่งกับเสียงรถ…คนเหี้ยไรมึนฉิบหาย…
“แม่มึงบอกอีกสิบนาทีถ้าไม่ถึงร้าน…”
ไอ้เอกมันหยุดประโยคสุดท้ายไว้…ก่อนที่จะเงยหน้ามายิ้มแสยะให้ผม…
“ทำไม!!”
“เงินค่ากินเดือนนี้ไม่ต้องเอา!!”
เท่านั้นแหละผมนี่ลุกไปใส่เสื้อผ้าทันที…น้ำเนิ้มเหี้ยไรไม่อาบละครับ…นี่ยังมีเวลาให้ยังไม่ถึงสิบนาทีไปถึงร้านด้วยซ้ำ…แม่ผมนี่พูดจริงทำจริง…เพราะผมก็เคยโดนแบบนี้มาแล้วไง…เดือนนั้นอย่าว่าแต่มาม่าเลย…ก็ไม่มีปัญญาจะซื้อกิน…ที่สุดของสุดแล้วแม่ไอ้กัสเนี่ย…
ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!
เสียงส้นเท้ากระทบอยู่บนบ้านเสียงดังก่อนที่จะลงจากบ้าน…ผมไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์…ลูกรักของผมมาด้วย…นาทีเร่งรีบแบบนี้ต้องใช้ลูกรักผมครับ…ไวแรงยิ่งจรวดไปอี๊ก!...
“ป่ะกูเสร็จหล่ะ”
ผมบอกกับไอ้เอกหลังจากที่เข็นลูกรักออกมาจากในตัวบ้าน…แต่ไอ้เอกมันกลับมองผมแปลกๆ…อะไรของมันวะ….
“ไรมึง”
“ชุดตั้งแต่เมื่อวาน?”
“แล้วไงวะ”
“โสโครกสัส”
“เออๆ…ชั่งมัน…ไป!...เดี๋ยวกูไม่ทัน!”
ผมเร่งมันด้วยสตาร์ทเครื่องแล้วบิดด้วยความเร็วนำไปก่อน…ถึงยังไม่อาบแต่ผมก็ไม่ได้ทุเรศไม่แปรงฟันล้างหน้าป่ะ…ใครว่าโสโครก…ไอ้เหน่งมันก็พูดเว่อร์ไป…
ผมใช้เวลาในการบิดมาถึงหน้าร้านไม่ถึงห้านาที…มาถึงคนนี่เต็มร้านแล้วครับ…ได้เวลาคนทำงานแถวนี้เค้าพักเที่ยงกันด้วย…คนเลยแน่นร้านเข้าไปใหญ่…แต่ดีหน่อยร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านผมเปิดเป็นสองคูหา…แม่ซื้อทาวน์เฮ้าส์ไว้สองคูหาติดกัน…มาเปิดก๋วยเตี๋ยวโดยเฉพาะ…ส่วนข้างบนไม่มีใครอยู่หรอก…เอาไว้เป็นที่เก็บของมากกว่า…คงสงสัยกันอ่ะดิว่าทำไมบ้านผมถึงกล้าซื้อพื้นที่ขนาดนี้…ก็เพราะก๋วยเตี๋ยวบ้านผมขายกันมาจนดังในแวดวงคนย่านนี้กันไปแล้ว…ตั้งแต่สมัยรุ่นตายายผมแล้ว…ตอนนี้พ่อผมยังอยู่ผมนี่สบายกว่านี้…ไม่ต้องทำอะไร…แต่ตอนนี้ก็เหลือแค่แม่กับผม…ก็ช่วยๆกันอยู่สองคนแม่ลูก…เห็นผมเป็นเด็กไม่เอาไหนก็เถอะ…แต่ผมก็ช่วยแม่ตลอด…
“ไอ้กัส!!...เอ็งจะนั่งอยู่บนมอไซต์อีกนานไหม!!...คนยิ่งเยอะอยู่!!..เร็ว!!!”
เสียงเหมือนปลอดแตกกลางตบาดจริงๆ…คนก็เยอะ…แม่นะแม่…ไอ้กัสไม่ได้หน้าหนาขนาดที่จะไม่อายนะเว้ย…เสียงแม่ตะโกนอยู่หน้าร้าน…ผมจอดรถอยู่ข้างถนน…ก็เด่นไปดิครับ…
“โธ่แม่!...ไม่ต้องตะโกนก็ได้!...หนูอาย!”
ผมรีบเดินเข้ามามาหาแม่ที่ตอนนี้ไอ้เหน่งมันกำลังรับถาดไปเสริฟ์ตามโต๊ะ…
“พอๆหยุดพูด…ไปเสริฟ์โต๊ะสิบสามด่วน”
ยังไม่ทันจะหายใจทั่วท้อง…ก็โดนใช้งานทันที…ผมเดินไปหยิบถาดแล้วเอาชามก๋วยเตี๋ยวสี่ชามวางบนถาด…ตบด้วยข้าวเปล่าไปแคปหมูอย่างละหนึ่งตามจำนวนชามก๋วยเตี๋ยว…พอทุกอย่างเสร็จครบหมดสิ้นทุกอย่าง…ผมก็เดินเข้าไปในร้านแล้วเดินไปยังโต๊ะสิบสาม…แต่แล้วขาก็ชะงักทันที…เพราะไอ้โต๊ะที่ผมกำลังจะเสริฟ์มันเป็นโต๊ะของ…ลุงไง…เหี้ยแล้วกู…
เหมือนฟ้าจะแกล้งผมยังไงก็ไม่รู้…เพราะจังหวะที่ผมชะงักไม่ได้เดินไปที่โต๊ะ…ไอ้ลุงมันนั่งฝั่งที่มองออกมาหน้าร้าน…พอลุงมันเห็นผมเท่านั้นแหละ…สีหน้าลุงมันมองอย่างอยู่เหนือผมขึ้นมาเลย…ยิ่งไปกว่านั้นลุงแม่งเหล่มองด้วยสายตาที่แบบ…หาเรื่องสัส…ควยเอ๊ย…จะเจออะไรอีกว่ะ!...
“โต๊ะสิบสามก๋วยเตี๋ยวที่สั่ง…รอนานแล้วครับ!”
ไอ้ลุงมันจงใจตะโกนพูดขึ้น…ทั้งๆลุงกเห็นว่าผมกำลังยื่นถือถาดจะไปเสริฟ์ให้…
“ไอ้กัส!...มั่วทำอะไรอยู่ไปดูโต๊ะสิบสามเร็ว!”
และก็เป็นไปตามความคิดผม!...ไอ้ลุงได้ยินแม่ตะโกนมาหาผมลุงผันก็เหมือนสะใจมาก…ดูจากสีหน้าและรอยยิ้มมุมปากนั่น…ไอ้ลุง…มาหาเรื่องกันถึงถิ่นเลยหรอไง…แค้น!...
ผมเดินจ้ำขาไปเสริฟ์ด้วยความหน้าบูดหน้าเบี้ยว…ในโต๊ะก็มีลุงกับเพื่อนลุงเซตเดิมที่เมื่อคืนมีเรื่องกัน…ผมไม่ได้แม้กระทั้งเงยหน้าขึ้นสบตากับคนในโต๊ะนี้…แต่เลือกที่จะรีบเสริฟ์ให้เสร็จและออกไป…แต่ตอนที่ผมเสริฟ์เสร็จก่อนที่ผมจะหันหลังไป…เสียงของลุงก็หยุดผมไว้…
“เดี๋ยว”
คำสั้นๆแต่มีความกดดันแอบแฝง…ถ้าผมเดินไปไม่ได้สนใจเสียงเรียกก็เหมือนผมจะเป็นคนแพ้ยังไงอย่างนั้น…ผมเลยตัดสินใจหันหน้าไปเผชิญกับไอ้ลุง…และเป็นครั้งที่สองที่ผมได้เห็นหน้าลุงมันชัดๆ…
“…”
“…”
ไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนั้น…พวกเพื่อนๆของลุงก็ไม่ได้สนใจผม…เพราะต่างคนก็ต่างลงมือกินก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง…ดีหน่อยเพราะถ้าสายตาทุกคนมามองผม…ผมก็ทำตัวไม่ถูกหรอก…
“มีไรอีกอ่ะลุง”
ผมไม่อยากจะยืนอยู่โต๊ะนี้นาน…เลยตัดสินใจเป็นคนเปิดประเด็น…
“เย็นนี้ไปเจอกูที่อู่”
ห้ะ!...ผมหูฝาดไปป่ะ…ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยิน…เรื่องอะไรผมจะต้องไปถิ่นของไอ้ลุงนี่ด้วยอ่ะ…ให้ผมไปอู่…เหอะกูคงไปให้มึงอ่ะลุง…
“ไปทำไมอ่ะ…ไม่ไป”
ผมตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ…กำลังจะหันหลังเดินหนีแต่ประโยคที่ออกมาจากปากของไอ้ลุงแม่งทำให้ผมถึงกับอึ้ง…
“ไม่ไปกูบอกแม่มึง”
“…!”
“เลือกเอา”
“…!!”
เหมือนจะเป็นรูปประโยคบอลเล่า…แต่มันก็เป็นคำสั่งแถมกดดันให้ผมต้องไปไหมว่ะ…ผมหันควับไปมองหน้าลุงอย่างอาฆาตแค้น…ถ้าไม่ไปจะบอกแม่…คือไร…เล่นผมทางนี้มันแฟร์หรอ…โกรธอ่ะ…แล้วไอ้กัสมันทำไรได้…ก็ต้องไปดิครับ!!!...
.
.
.
.
.
18:00 น.
ผมมาจอดมอไซต์ขวางหน้าอู่อย่างจงใจ…ผมไม่ชอบสถานการณ์ที่ตกเป็นรองคนอื่นแบบนี้เลย..มันดูไม่เฟี้ยวอะ…ที่มานี่ไม่กลัวหรอกนะ…อ่ะโด่ถ้าลุงมันไม่อ้างแม่ผมไม่มาหร๊อก…
ผมเดินเข้ามายืนอยู่หน้าร้านเพราะคิดว่าปลอดภัยสุด…ด้วยแสงไฟที่สว่างสุดในร้านแล้วไง…นี่ก็หกโมงแล้วด้วยมันก็ค่ำๆแล้ว…ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผม…จะได้เรียกให้คนช่วยทัน…
“อ้าวเฮ้ย!...มึงมาทำไมอีกว่ะ!...ครั้งที่แล้วตังค์ก็ไม่จ่าย!...ชิ่งเลยนะมึง!!”
ทันทีที่ผมเดินมายืนหน้าร้าน…ลูกน้องไอ้ลุงคนมี่ผมให้พี่เขาทำรถให้ก็ทักแล้วพุ่งเข้ามาหาผม…พร้อมกับปะแจที่อยู่ในมือมาชี้หน้าผมอย่างหัวร้อน…
“มาได้ก็ดี!…เดี๋ยวกูจะตามเฮียมาจัดการมึง!!”
ไม่ทันที่พี่เขาจะหันกลับเข้าไปในร้าน…ไอ้ลุงมันก็เดินออกมาพอดี…เหอะ…ไม่ชอบหน้าลุงมันอ่ะ…
“นี่ไงเฮียไอ้เด็กคนที่มาทำรถแล้วเบี้ยว”
“…”
หันชักสีหน้าโดยอัตโนมัติ…ที่มานี่ก็เพราะลุงมันใช้ชื่อแม่มาขู่…ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น…จะเรื่องเบี้ยวไรก็ชั่งแม่ง…ตอนนี้อยากรีบคุยรีบกลับมากกว่า…
“มีไรก็พูดมาดิลุง…จะมองหน้าอีกนานป่ะ”
ผมยืนกอดอกพูดไปอย่างอารมณ์เสีย…มองหน้าอยู่ได้…จะมองอะไรหนักหนา…หน้าผมเหมือนหน้าญาติลุงมันหรอเริ่มสงสัย…
“ปากยังดีเหมือนเดิม”
เหมือนไอ้ลุงปั่นประสาทผมอะ…คำพูดคำจานี่ยั่วโมโหผมดีฉิบหาย…
“ดีไม่ดีก็ปากผม…ไม่ยุ่งดิ!”
จะเล่นสงครามประสาทกับฝีปากแบบคนอย่างไอ้กัสใช่ไหม…รู้จักกูหน่อยไปแล้ว…
พรึ่บ! หมับ!
“ปากดีแบบนี้ให้ตลอดเถอะมึง”
“ก็ดีตลอดตั้งแต่เกิดอ่ะ…ไม่เอาดิลุง…ไม่เสือก!!”
ไอ้ลุงกระชากคอเสือผมจนตัวผมเกือบจะลอยจากพื้น…จากความสูงของผมที่ถ้ายืนก็อยู่แค่ระดับอกลุงมัน…ไหนจะขนาดตัวที่ผมแม่ง…เทียบไม่ติด….
“มึงห่างกับกูกี่ปีไอ้เด็กเปรต!”
“…”
“กูไม่อะไรหน่อยลามปามใหญ่นักนะมึง!”
“…!”
ดูเหมือนลุงแม่งจะโมโหจัด…ผมที่ถูกคนตรงหน้ากระชากคอเสือจนเริ่มหายใจไม่ค่อยออก…ไอ้เหี้ย!...ไอ้กัสจะตายไหมอ่ะทุกคน….แม่ช่วยกัสด้วย!...
“เฮีย!...ปล่อยมันก่อนเฮีย!”
พี่อีกคนที่ยังอยู่ในเหตุการณ์…พูดห้ามไอ้ลุงที่แม่งเอาแต่จ้องหน้าผมเขม็ง…ผมจะทำอะไรได้นอกจากตบตีแขนที่มีแต่รอยสักเต็มแขนของลุงมัน…
ฟุบ!
“โอ๊ย!...จะฆ่ากูรึไงวะ!”
ทันทีที่หลุดออกจากพันธนาการของไอ้คนตรงหน้า…ผมก็เดินถอยหลังมาตั้งหลักแล้วชี้หน้าด่าด้วยอารมณ์ที่ทั้งโกรธทั้งโหโม…
“ปากดีอีกดิ…หึ!”
ดูคำพูดดูเหนือมาก…ผมจ้องอย่างไม่ละสายตาไปยังลุง…อีเหี้ยแค่กูเบี้ยวเงินค่าทำรถถึงต้องเรียกกูมากะจะฆ่าเลยออ…มากไปป่ะ!...
“แล้วไมว่ะ!...กับอีแค่ชิ่งเงินไม่กี่ร้อยทำกันขนาดนี้เลยออ!...ทีค่าเตี๋ยวผมอ่ะ!!...ลุงก็เบี้ยวผมเหมือนกันป่ะ!!!”
มันจะเหลืออดเหลือทนไอ้กัสมัรแล้วนะเว้ย…ผมชี้หน้าด่าอย่างไม่สนใจใครหน้าไหนที่จะได้ยินทั้งนั้น…ไอ้เหี้ยเมื่อกี้กูตกใจอ่ะ…ไม่คิดว่าลุงมันแม่งจะทำขนาดนั้น….
“…”
“กูไม่สน…กูสนแค่ว่าถ้ามึงไม่ทำตามที่กูบอก”
“…”
“เรื่องที่มึงเบี้ยวค่ารถกู…เรื่องที่มึงหาเรื่องคนอื่นไปทั่วซอย”
“…!”
“กูจะบอกแม่มึง”
“…!!”
อีกแล้ว…ไอ้ลุงแม่งใช้แม่มาต่อรองอีกแล้ว…แล้วเรื่องมีเรื่องกับคนในซอยมันไปรู้มาได้ยังไงว่ะ!...ผมจ้องหน้าไอ้ลุงแล้วคิดในใจว่าแม่งไปสืบประวัติผมมารึเปล่า…ทำไมลุงมันรู้ดีในตัวผมแบบนี้…
“ทำไมผมต้องทำ!...ผมไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย!”
ใช่!....ไอ้กัสไม่ได้ไปทำอะไรผิด…ถ้าเรื่องค่ารถมันก็เจ๊าะกับค่าที่ลุงเบี่ยวเตี๋ยวผมกันไปป่ะ…
”ไม่ทำก็ได้…แต่กูจะไปบอกแม่มึง”
“…”
“แม่มึงรู้จะเป็นยังไงต่อ”
“…”
“มึงก็คิดเอา”
ผมยืนครุ่นคิดแล้วมองหน้าไอ้ลุงสลับกันไป…ในหัวตอนนี้คิดกันยุ่งไปหมด…มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของผมที่ต้องมาเจอเรื่องน่าปวดหัวแบบนี้ด้วย…ผมมองหน้าไอ้ลุงอีกรอบที่ตอนนี้จุดสูบหรี่อย่างสบายใจ…ถ้าผมไม่ทำตามข้อตกลงแล้วแม่รู้นี่เรื่องใหญ่เลยอ่ะ…แม่ผมไม่เหมือนใครด้วย…ไอ้ลุงแม่งก็ไปเสือกรู้เรื่องผมเข้าไปอีก…โว้ยยยยยย!....
“แล้วจะให้ทำอะไร!”
ผมชั่งใจอยู่นานกว่าจะถามออกมาได้…ไอ้ลุงที่ได้ฟังคำถามผมก็ถึงกับยกยิ้มออกมา…
“เด็กอู่ที่ร้าน”
“….!!!”