Ep.4
“อ่าวไหม จะกลับแล้วหรอ?”
หนึ่งในเพื่อนที่นั่งอยู่ถามขึ้นมา อิงไหมผงกหัวตอบกลับไปนิ่งๆ สมองมึนตึง ภาพตรงหน้าเริ่มทับซ้อน เธอรู้ตัวเองดีเลยว่าตอนนี้ร่างกายมันกำลังจะรับไม่ไหว
“สภาพนี้ไปไหวหรอวะ กลับคนเดียวแม่งอันตรายป่ะมึง”
พีชพูดขึ้นมา สีหน้าเพื่อนแต่ละคนคือมีแต่ความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด ร่างเล็กยิ้มขึ้นมาบางๆเป็นเชิงว่าเธอไม่เป็นไรจริงๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เมื่อทำท่าจะยืนแต่กลับเซไปมาจนเพื่อนแตกตื่นกันมารับไว้
“นอนบ้านกูไหมถ้าจะขนาดนี้” พีชถอนหายใจขมวดคิ้วแน่น
“ไหมไม่ไหวแล้วหรอวะ” เสียงผู้ชายดังขึ้น อิงไหมจำได้ดีว่ามันคือเสียงของไนซ์เพื่อนชายของเธอ
“ไหวดิไนซ์…” ตอบกลับไนซ์ไป
“ไหวก็บ้าแล้ว เอามันไปเก็บเลยเหอะเดี๋ยวอ้วกแตกขึ้นมาจะหนัก”
“คือฉันก็ไม่รู้ว่าบ้านมันอยู่ไหนเว้ย”
“เออนี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เกิดการถกเถียงขึ้นในวงสนทนาอันวุ่นวาย บ้างก็ต่อว่าคนตัวเล็กที่ยืนพิงเพื่อนอยู่ข้างหลัง อาการย่ำแย่ รับรู้หมดทุกสิ่งอย่างแต่การควบคุมสมองและร่างกายนั้นยากมากจริงๆ
“เพื่อนเมาหรอไนซ์”
“ใช่พี่”
อิงไหมหันไปมองคนมาใหม่ที่ดูตัวสูงกว่าทุกคนในที่นี้ เสียงน้ำพุที่ดังเซ็งแซ่ทำร่างบางปวดหัวมากกว่าเก่า อยากจะไปให้พ้นๆจากที่นี่แต่พวกเพื่อนกลับยื้อยุดเราไม่หยุด
“พี่เนท คือไหมมันคออ่อนค่ะพี่ พวกหนูก็ไม่รู้ว่าบ้านมันอยู่ไหนด้วยอ่ะค่ะ”
“ให้เพื่อนนอนที่นี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านจัดห้องให้”
“เอ่อ จริงๆให้ไปนอนบ้านพีชก็ได้นะคะ” พีชชี่เสนอตัว
“พีช ได้ข่าวว่าบ้านแกอยู่ชานเมืองป่ะ พอเลยไม่ต้องพาเพื่อนไปไหนเลยแกเองก็เริ่มกรึ่มๆให้ไหมมันนอนนี่แหละ คนเยอะแยะไม่เป็นไรหรอก” เสียงเพื่อนคนอื่นๆแย้ง
“เออๆ แล้วแต่เหอะ”
“งั้นแบกเพื่อนตามป้าแม่บ้านไปเลยนะ”
สิ้นสุดเสียงของพี่เนท เพื่อนสามสี่คนช่วยกันพยุงอิงไหมขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้านที่เป็นกระจกใสทั้งหลัง สุดหัวมุมบันไดคือห้องรับรองที่ถูกจัดเตรียมไว้ไม่นาน
ร่างของอิงไหมนอนอยู่บนนั้น ตอนนี้เธอไม่รับรู้อะไรด้วยแล้ว รู้สึกกระอักกระอ่วนเหมือนอยากอ้วกแต่ก็รู้สึกง่วงไปพร้อมๆกัน ร่างเล็กพยายามจะกล่อมตัวเองให้หลับไปเพราะไม่อยากทำตัวทุเรศไปมากกว่านี้
ทว่าท่ามกลางความมืดที่ไม่มีใครอยู่แล้ว กว่าเที่ยงคืนที่เพื่อนทุกคนแยกย้ายกันกลับไปหมด หรือบางคนก็อาจจะเมาเเบบอิงไหมแต่นอนอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้านหลังนี้ ร่างเล็กนอนงอตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเพียงคนเดียว ลมหนาวจากเครื่องปรับอากาศทำให้รู้สึกไม่สบายตัว..
แกรก..
เสียงเปิดประตูหน้าห้องดังขึ้น ก่อนที่แรงยวบของพื้นเตียงจะทำให้ร่างเล็กขยับตามไปด้วย แต่ก็ยังคงหลับสนิทอยู่ดี ผ้าห่มผืนหนาถูกดึงออกรุนแรง ร่างบางรู้สึกตัวในตอนนั้นแต่เพราะความมึนตึงยังมีมาก ความมืดยิ่งเป็นอุปสรรค
“ใครน่ะ…”
“.....”
ไม่มีเสียงตอบกลับ อิงไหมพยายามยันตัวลุกขึ้นแม้จะรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด หัวคิ้วขมวดเข้าหากันมุ่นดวงตาที่เปิดปรือทำให้คนตัวเล็กดูน่าสงสารกว่าเก่า
“ถามว่าใคร?!”
ยันไหล่หนาที่ทำท่าจะมาอุ้มเราไว้ อิงไหมเขยิบหนีออกห่างด้วยความหวาดกลัว ในใจสั่นไหวรุนแรงจนเหมือนจะทะลุออกมา ท่ามกลางความมืดมีใครอยู่ตรงหน้าเรา..
“...กลับ”
น้ำเสียงราบเรียบที่คุ้นเคย ทว่าคนน้องกลับนึกไม่ออกว่าเป็นใคร ในหัวปวดตุบๆจนจะทนไม่ไหวทำได้แค่เพียงต่อต้านอีกฝ่ายที่ทำท่าจะล่วงเกินเราไม่เลิก
“ฉันไม่รู้จักคุณ ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!” พูดเสียงสั่น ตอนนี้อิงไหมกลัว...กลัวจนจะแทบบ้า
“...เหอะ”
ร่างสูงเค้นหัวเราะในลำคอเบาๆ เขาทำสีหน้าเบื่อหน่ายมองออกไปนอกหน้าต่าง มือหนายกขึ้นมาสางผมสีบลอนด์เทาของตัวเองลวกๆ
“บอกให้ออกไปไง!”
“อย่าทำให้โมโหไปมากกว่านี้อิงไหม”
ร่างสูงพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างถึงที่สุด เธอโกหกและเขาก็ไม่ได้โง่ ถึงเนทจะไม่รู้จักอิงไหมมาก่อนแต่เนทก็รู้จักผู้หญิงที่คนอย่างพอเชร์ควงอย่างลับๆในตอนนี้ ทั้งที่ทำงานยุ่งอยู่แท้ๆ ทั้งๆที่คิดว่าเดี๋ยวคืนนี้นัดทานข้าวเย็นกับอิงไหมแล้วเราจะได้ปลดปล่อยความตึงเครียดใส่เธอไปด้วย
ทุกอย่างล่มไม่เป็นท่า..
“คะ..ใคร..”
ท่าทางคนตัวเล็กดูไร้เรี่ยวแรง แม้เธอจะผลักไสเขาไม่เลิกแต่พอร์เชก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บตัวอะไร ออกจะรำคาญมากกว่า..
“ปวดท้องแต่กินเหล้าด้วยหรอ…”
คนเป็นพี่ว่า ร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงข้างเตียง ใบหน้าเขามืดดำเพราะไม่มีเเสงไฟสักดวงข้างนอกที่ส่องมาถึง
ทว่าอิงไหมกลับเริ่มจดจำอะไรได้ขึ้นมา…
“คุณชายหรอ?”
“....”
เธอพูด ในขณะที่ดูไม่เป็นตัวของตัวเองสุดๆ พยายามตะเกียดตะกายถอยหนีแต่บนเตียงนี่เเคบเหลือเกิน อิงไหมยกมือขึ้นมากุมขมับแน่น
“เป็นไปไม่ได้ คุณเขาจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…” พึมพรำกับตัวเอง ทุกอย่างสับสนมึนงงไปหมด ในหัวเรียบเรียงเรื่องอะไรไม่ได้สักอย่างเลย ความเข้าใจเดียวคือ
คุณเขาไม่มีทางมาอยู่ตรงนี้หรอก…
คนๆนี้เป็นใคร ต้องการอะไรจากเรา..
“..กลับ”
พูดซ้ำเป็นรอบที่สอง แรงกระชากจากต้นแขนทำน้องร้องโอดโอย ท่าทีคุกคามของคนๆนี้เหมือนไปโกรธใครมาซะมากมาย ในตอนนั้นเองที่ความอดทนของคนเป็นพี่ได้หมดลง
เขาไม่ใช่คนที่จะต้องทำอะไรเพื่อใคร อิงไหมเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น
ถ้าโกรธก็คือโกรธ รำคาญก็คือรำคาญ...อย่าให้ต้องถึงคำว่าเบื่อหน่ายเลย..
“ไม่ไป! อย่ามายุ่งนะ!”
งอแงไม่เลิก แรงยื้อยุดจากท่อนแขนถูกสะบัดออกโดยคนเป็นพี่ เขาทนไม่ไหว เธอดื้อด้านเกินไป ไม่คิดว่าเวลาเมาจะเป็นแบบนี้ เสียงร้องโวยวายของน้องมันดังมากพอที่จะทำให้คนอื่นๆในบ้านได้ยิน ทั้งที่พอร์เชคิดว่าจะเข้ามาและก็ออกไปแบบเงียบๆแท้ๆ
ไม่งั้นไอเนทคงได้ต่อว่าเขาแน่…
“เงียบ!”
อิงไหมเซลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง รู้สึกกระอักกระอ่วนมากกว่าเก่า น้องรู้สึกอยากจะอ้วกเพราะปวดหัวแทบระเบิด
“ไม่! ฮึก! อย่ามายุ่งนะ ออกไป! ใครก็ได้ช่วยด้วย!”
มือใหญ่รีบปิดปากเล็กทันที คิ้วหนาขมวดแน่นเขาหงุดหงิดจนแทบบ้า อิงไหมจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่
“จะเงียบไม่เงียบ?!”
“อื้อออ…”
ร่างเล็กพลิกตัวหนี แผ่นหลังเปลือยเปล่าทำเอาพอร์เชรู้สึกหงุดหงิดกว่าเก่า ชุดเดรสบ้านี่ข้างหน้าดูเรียบร้อยดีแต่ข้างหลังกลับตรงกันข้าม
“..จะใส่มาให้ใครดู” พูดอยู่คนเดียว ไม่ได้ต้องการคำตอบ ลมหายใจฟึดฟัดชัดเจนว่าคนเป็นพี่กำลังอยู่ในอารมณ์แบบไหน
“อึก..”
“คนมีเจ้าของแล้วเขาทำตัวกันแบบนี้หรอไหม?”
สภาพอิงไหมในตอนนี้ชุดเดรสเลิกขึ้นสูงจนเผยชั้นในคนเป็นพี่เห็นก็ได้แต่กัดฟันกรอด
เหลวไหลใหญ่แล้ว…
“ไหมไม่มีเจ้าของ ปล่อยนะ!”
“เดี๋ยวปล่อยแน่…”
“อะ! อย่าจับนะ”
“....”
ในเมื่อไหมร้องไม่หยุดเขาก็ไม่พาเธอไปไหนแล้ว มือหนาปลดเสื้อเชิ้ตสีดำของตัวเองออก ตามด้วยกางเกงสแล็คจากการทำงาน เขาเหนื่อยมาทั้งวัน...แต่เธอกลับสร้างปัญหาเพิ่ม..
“จะทำอะไร ปล่อยนะ..”
ร่างบางนิ่งไปทันทีที่คุณเขาขึ้นค่อม เหมือนคนเมาที่หมดเรี่ยวแรงแต่ก็ยังคงต่อต้านเขาจากน้ำเสียง
“ไม่มีถุง…” คนใจร้อนพูดขึ้นมา ปกติไม่ว่ากับใครเขาป้องกันทุกครั้งรวมถึงร่างบางตรงหน้า แต่ครั้งนี้มันไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของใครทั้งนั้น
ยังไงเธอก็เป็นแค่ของเราคนเดียว…
ไม่เป็นไรหรอก..
ปลดชั้นในอิงไหมออกมา จับชายชุดเดรสขึ้นไปเกี่ยวไว้ที่เอวบาง ตอนนี้คุณเขาเปลือยเปล่าความรุ่มร้อนภายในใจไม่ทำให้คุณชายคิดอะไรขึ้นมาได้ทั้งนั้น ฝากฝังลำกายเข้าหาความอ่อนนุ่มที่เขาชอบทำ ต่างออกไปคือครั้งนี้ไม่มีสิ่งกีดขวางของถุงยางระหว่างเรา
“อ๊ะ!” น้องร้อง แต่ก็ลืมตาปรือมองมามือเล็กผลักหน้าอกคนพี่ด้วยแรงอันน้อยนิด
“อย่ามาร้อง อ่ะ!” เขาไม่ได้อยากให้อิงไหมมีความสุขกับการร่วมรักในครั้งนี้เลยสักนิด อยากจะสั่งสอนให้เข็ดหลาบซะมากกว่า ว่าการทำตัวเป็นเด็กเลี้ยงแกะและทำกับเขาแบบนี้มันต้องเจออะไร
“ไหม เจ็บ..ฮึก”
แรงกระแทกรุนแรงทำคนตัวเล็กโยกคลอน มือบางปิดปากตัวเองแน่นกับสีหน้าซีดเซียวที่เหมือนจะลาโลกไปทุกที ดูก็รู้ว่าคงอยากจะอาเจียนมากแค่ไหน
แต่คุณเขาไม่ปล่อยไป ต่อให้รู้สึกจะตายก็ทนต่อไปซะ เหล้าไม่ได้สั่งให้กิน หนีเที่ยวก็ไม่ได้สั่งแถมยังโกหกกันอีก
“อ่าา..”
เจ็บก็ทน ทนไม่ได้ก็ต้องทน เธอนอนนิ่งเป็นผักเป็นปลาให้เขาทารุณอยู่อย่างนั้นกว่าชั่วโมงที่ผ่านพ้นไป อิงไหมหมดเรี่ยวแรงลงเรื่อยๆจนแน่นิ่งไปแต่น้องลืมตาเต็มตื่น มองหน้าเขาอย่างร้องขอ แต่ถามว่ารู้ตัวหรือยังว่าคนตรงหน้านี่ใคร…
ถ้าไม่รู้คุณเขาก็จะทำต่อไป ทำจนกว่าน้องจะพูดชื่อคนเป็นพี่ขึ้นมา…
“อึก! อ๊ะ! เจ็บ ฮืออ ปล่อยไหมเถอะ”
สำหรับอิงไหมตอนนี้คงเหมือนฝันร้าย ไม่รู้ว่าใครที่ทำเลวกับเราแบบนี้ ในหัวนึกถึงคุณชายที่ไม่มีทางอยู่ตรงหน้าแต่ก็ไม่ยอมเปล่งเสียงออกมา
ทั้งที่ความจริงอีกฝ่ายกำลังรอเธอเรียกชื่อเขาอยู่แท้ๆ
“อึก อ่ะ! คุณอยู่ไหน...ช่วยไหมด้วย ฮื่อออ”
“พูดชื่อมาสิ..”
ร่างสูงยกยิ้ม ในใจเต้นรุนแรงขึ้นมาเมื่อคิดว่าอิงไหมกำลังนึกถึงเราอยู่ในตอนนี้ สีหน้าเสียวซ่านมีความสุขขัดกับร่างบางที่ทำท่าจะขาดหายใจตายอยู่ทุกขณะ
ในหัวคนตัวเล็กคิดเรื่องมากมาย เหมือนคนกำลังหมดลมหายใจและภาพความทรงจำทุกอย่างไหลกลับมาวนเวียนให้นึกถึง ภาพที่คุณเขาคุยกับเรา ทำทุกอย่างกับเรามันทำให้อิงไหมยิ่งรู้สึกหดหู่มากกว่าเก่า
ถ้าร่างกายกำลังจะทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ ขอก่อนได้ไหม..
ขอให้เราได้บอกกับคุณเขาสักครั้ง
“ไหมรัก….”
แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็อย่าให้เขาได้รับรู้ความรู้สึกนี้เลย
เพราะมันคงเป็นยิ่งกว่านรก...
---------------
เม้นเยอะจะรีบมานะคะะะ TT ขอบคุณสำหรับดาว ขอบคุณทุกคอมเม้นจริงๆ จะรีบมาน้าาา